ข่าวฟุตบอล

   นี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ของ อาร์เซน่อล ที่ได้ทำให้เห็นแล้วว่าสามารถที่จะเป็นทีมลุ้นท็อปโฟร์ได้เต็มตัวคือการเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน ได้ในเกมล่าสุด 

   เป็นอีกหนึ่งเกมที่ชัยชนะมีค่ามากกว่า 3 คะแนนเพราะเป็นการเจอกับคู่แข่งที่มีเป้าหมายเดียวกัน เป็นเกมที่เรียกได้ว่า “ไป-กลับ 6 คะแนน”

   อาร์เซน่อล ที่เพิ่งสามารถเอาชนะ วูล์ฟส์ ไปได้อย่างหวุดหวิด 1-0 ที่โมลินิวซ์ กราวนด์ เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว และทางทัพหมาป่าก็ได้โอกาสกลับมาแก้มืออย่างรวดเร็ว แต่เปลี่ยนสังเวียนมาเป็น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ของทีมปืนใหญ่ 

   ขุมกำลังของ มิเกล อาร์เตต้า แทบจะเรียกได้ว่าใช้ชุดเดิม กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ที่ได้ใบแดงในนัดแรก ก็พ้นโทษแบนกลับมาลงตัวจริงทันทีแทนตำแหน่งของ เอมิล สมิธ โรว์ ที่มีอาการป่วยจนไม่มีชื่อในทีม

   เกิดความผิดพลาดตั้งแต่ 10 นาทีแรกจะเป็นการเปิดโอกาสให้ วูล์ฟส์ ออกนำรวดเร็วจากการยิงของ ฮวาง ฮี-ชาน จังหวะนี้ กาเบรียล มากัลเญส ที่ทำพลาดมากกว่าใครเพื่อนที่ส่งคืนหลังได้ไม่ดีทำให้ทาง ฮวาง ฮี-ชาน อาศัยลูกขยันบวกกับความเร็วสปีดเข้าถึงบอลได้ก่อน เบน ไวท์ ก่อนที่จะแตะหนีทาง อารอน แรมส์เดล และยิงมุมแคบเข้าไปอย่างสวยงาม

   จึงทำให้แผนการเล่นของ อาร์เซน่อล ต้องมีการปรับทันทีหลังเสียประตูเร็ว พวกเขาพยายามต่อบอลเน้นความชัวร์มากขึ้นเพื่อที่จะไม่ให้ทีมเสียประตูเพิ่ม จากที่ตอนแรกตั้งเป้าเอาไว้กับการยิงประตูนำก่อน เลยต้องเปลี่ยนเป็นต้องตามตีเสมอให้ได้ให้เร็วที่สุด

   วูล์ฟส์ ที่ได้ประตูนำเร็วเลยทำให้ยิ่งเข้าทาง เพราะพวกเขาเป็นทีมที่เกมรับดีสุดอันดับ 2 ของลีกอยู่แล้ว ก็เลยไม่จำเป็นต้องเปิดหน้าแลกทุกจังหวะ แต่คอยไล่ตอดไล่แซะให้ทางขุนพล อาร์เซน่อล เสียบอลแล้วโต้กลับทันทีก็พอ

   บวกกับความคล่องตัวและความเร็วของ ดาเนี่ยล โปเดนซ์ เลยทำให้เกมรับปืนใหญ่มีรูรั่วพอสมควร เขาสร้างโอกาสสวยๆ ให้เพื่อนได้หลายต่อหลายครั้ง เพียงแต่จังหวะจบสุดท้ายยังไม่คมพอ จึงทำให้ทีมหมาป่านำเพียงประตูเดียว

   เกมในครึ่งหลัง อาร์เซน่อล มีสมาธิมากขึ้นในการเล่น เกมรับเริ่มรับมือและปิดจังหวะสวนกลับของ วูล์ฟส์ ได้ดีขึ้น 

   จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ทาง อาร์เซน่อล สามารถที่จะพลิกสถานการณ์ได้คือตัวสำรองที่ทาง มิเกล อาร์เตต้า ได้ส่งลงมาทั้ง นิโกล่าส์ เปเป้ และ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ในหลายนัดที่ผ่านมา เปเป้ แทบทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันในเวลาที่ตัวเขาได้โอกาสลงเล่น แต่ในนัดนี้ตัวเขาได้มีส่วนในชัยชนะอย่างยิ่งหลังจากที่ตัวเขาได้ทำประตูสุดสวยตีเสมอให้ทีม และคนที่จ่ายมาให้ก็คือ เอ็นเคเทียห์ นั่นเอง 

ชัยชนะที่มากกว่า 3 คะแนน 1

   นอกจากที่เขาจะเป็นคนทำประตูตีเสมอแล้ว เปเป้ ก็เป็นคนทำชิ่งให้ อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ ยิงประตูชัยช่วงทดเจ็บซึ่งต่อมาพรีเมียร์ลีกเปลี่ยนเป็นให้ โชเซ่ ซา ปัดบอลเข้าประตูตัวเองเพราะวิถีการยิงของ ลากาแซ็ตต์ ไม่ตรงกรอบ

   หากพูดถึงในช่วงครึ่งหลังที่ วูล์ฟส์ รับแน่นและถ่วงเวลาแทบทุกจังหวะที่มีการฟาวล์ หรือหยุดเกม อาร์เตต้า ตัดสินใจถูกต้องที่ได้เลือกถอดกองหลังอย่าง เซดริก โซอาเรส ออกแล้วส่งทางด้าน เอ็นเคเทียห์ ลงไปเพิ่มในเกมรุก 

   ทางด้าน วูล์ฟส์ นั้นเล่นได้ความฮึกเหิมและมั่นใจกับสกอร์ที่ทีมนำอยู่ 1-0 จนเมื่อเกมเข้าสู่ 10 นาทีสุดท้าย แต่พอมาโดนตีเสมอเข้าไปมันก็เลยทำให้การเล่นของทีมหมาป่าเกิดรวนอย่างเห็นได้ชัด จากที่รูปเกมเป็นในแนวรับรอโต้และใช้ทุกจังหวะเพื่อถ่วงเวลา กลายมาเป็นเริ่มที่จะลังเล จะปักหลักในแดนตัวเองอย่างเดียวก็รอโดนอีก จะบุกแลกหมัดก็ทำได้ไม่สุด

   โมเมนตัมและวิธีการเล่นจึงออกมาต่างจาก อาร์เซน่อล โดยสิ้นเชิง ที่ทางทีมปืนใหญ่แทบจะไม่ต้องคิดอะไรมากนอกจากเดินหน้าบุกแหลกเพื่อยิงประตูคืนให้ได้และแล้วปืนใหญ่ก็ทำได้สำเร็จในเสี้ยววินาทีท้ายๆ ของการทดเจ็บที่แทบจะหมดเวลาอยู่แล้ว

   อาร์เซน่อล พลิกกลับมาแซงชนะแบบสุดดราม่าในช่วงทดเจ็บและยังเป็นการย้ำแค้น วูล์ฟแฮมป์ตัน ได้เจ็บแสบอีกนัด เป็นฉากจบที่สวยงามและดีที่สุดเท่าที่แฟนปืนใหญ่จะคาดหวังได้

   ปืนใหญ่ที่ตอนนี้ได้ไล่จี้อันดับ 4 อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด เหลือแค่เพียงคะแนนเดียวแถมทีมปืนใหญ่ยังแข่งน้อยกว่าอีกถึง 2 นัด นอกจากนี้ก็ทิ้งห่าง วูล์ฟส์ เพิ่มเป็น 5 คะแนน และทิ้ง สเปอร์ส เพิ่มเป็น 6 คะแนน

   ไม่เพียงแค่คะแนนในตารางที่ดีมากสำหรับการลุ้นท็อปโฟร์ แต่บรรยากาศหลังชัยชนะสุดระทึกมันยิ่งทำให้ความเชื่อมั่นและสปิริตในทีมเพิ่มมากยิ่งขึ้นไปอีก บรรดาแฟนบอลในสนามและทั่วโลกที่ชมการถ่ายทอดสดต่างสัมผัสได้ถึงพลังด้านบวกมากมาย

   นับตั้งแต่ที่ทาง อาร์เตต้า เข้ามาคุม อาร์เซน่อล อย่างเต็มตัวในปลายปี 2019 เขาไม่เคยพาทีมแซงชนะคู่แข่งในลีกได้เลยหากสกอร์ตามหลังในครึ่งแรก แต่พอทำได้ครั้งแรกก็กลับกลายเป็นเกมที่สำคัญที่สุดอีกนัดในฤดูกาล และเกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญที่ไม่มีใครอยากพลาด 

 อาร์เตต้า ถึงขนาดบอกว่าตอนนี้ทีมอยู่ในสถานการณ์ที่ดีอย่างมากในการติดท็อปโฟร์ “ความทุ่มเทและสปิริตของพวกเราในช่วงครึ่งหลัง ถือเป็นอะไรที่สุดยอดมาก เรามีโอกาสดีที่จะแซง แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างที่เราต้องการ”

 “เราต้องมองไปที่ละเกม และเกมต่อไปของเราคือการเจอกับ วัตฟอร์ด ตอนนี้เราเกมให้ลงเล่นอีก 14 นัด และเราต้องพยายามเก็บชัยชนะให้ได้มากที่สุด นั่นคือเป้าหมาย”  

   มองไปทีละนัด และทำภารกิจของตัวเองให้ได้เพียงเท่านี้การจะเป็น “ท็อปโฟร์” ก็ไม่ได้ไกลเกินเอื้อมแน่นอน

ชัยชนะที่มากกว่า 3 คะแนน 2

รูป www.vanguardngr.com, thethaiger.com, www.justarsenal.com

เนื้อข่าว m.thsport.com

ข่าวบอลล่าสุด