จบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับสำหรับรอบแบ่งกลุ่มของศึกยูโร 2020 ที่โยกกันมาเตะในปี 2021 เนื่องจากสถานการณ์โควิด ซึ่งจะว่าไปจริงๆ แล้วชาติดังๆ ก็ต่างพาเหรดจับมือกันเข้ารอบได้หมดตามคาด ไม่ได้มีชาติไหนที่พลิกพลาดท่าตกรถตกรอบไป
ซึ่งหนึ่งในชาติที่เรียกได้ว่า “มาตามนัด” แถมยังถูกยกให้เป็นตัวเต็งลำดับต้นๆ อย่าง โปรตุเกส ก็ไม่พลาดที่จะผ่านเข้ารอบน็อคเอ้าท์มา แม้จะแอบกระท่อนกระแท่นต้องลุ้นกันยันนัดสุดท้ายก็ตามที แต่ที่เราจะมาเหลากันในวันนี้ไม่ใช่ฟอร์มการเล่นหรือผลงานของทัพ “ฝอยทอง” วันนี้เราจะพาไปสดุดีความสุดยอดของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์กัปตันทีมชาติโปรตุเกส ในวัย 36 ย่าง 37 ปีที่กดไปแล้ว 5 ประตูจาก 3 นัดที่ผ่านมา แถมอีก 1 แอสซิสต์ ขึ้นนำเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทัวร์นาเม้นท์นี้อยู่
เท่านั้นไม่พอ 2 ประตูในเกมล่าสุดที่เสมอกับ ฝรั่งเศส 2-2 ประตู ยังส่งผลให้ “พี่โด้” กลายเป็นนักเตะที่ตะบันประตูให้กับทีมชาติได้มากที่สุดในโลกเทียบเท่า อาลี ดาอี ตำนานดาวยิงทีมชาติอิหร่านอีกด้วย
ซึ่งแทบจะการันตี 99.99% เลยว่า โรนัลโด้ จะทำลายสถิติของ ดาอี ขึ้นไปยืนหนึ่งแต่เพียงผู้เดียวได้แน่นอนในเร็วๆ นี้ ไม่แน่อาจจะเกมหน้าที่จะเจอกับ เบลเยี่ยม ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายเลยก็เป็นได้
โดย ดาอี ในวัย 52 ปี ก็แสดงสปิริตอัพไอจีชื่นชม โรนัลโด้ พร้อมทั้งแสดงความยินดีล่วงหน้าที่จะทำลายสถิติของตนเองด้วย โดยเขียนแคปชั่นว่า “ขอแสดงความยินดีกับคริสเตียโน่ ที่ห่างจากการทำลายสถิติทำประตูมากที่สุดในนามทีมชาติเพียงลูกเดียว ผมรู้สึกเป็นเกียรติว่าความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้จะตกเป็นของ โรนัลโด้ แชมเปี้ยนผู้ยิ่งใหญ่ในวงการฟุตบอลและสร้างแรงบันดาลใจและอิทธิพลให้กับทุกชีวิตในโลกใบนี้ สุดยอดไปเลย!”
ยังครับยัง ความสุดยอดของชายที่ชื่อว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในนามทีมชาติยังไม่หมดแค่นี้ พี่แกยังกลายเป็นดาวยิงตลอดกาลที่ซัดมากที่สุดในรายการยูโรและฟุตบอลโลก 2 ทัวร์นาเม้นท์ใหญ่ของ ฟีฟ่า ได้มากที่สุดในโลกด้วย ด้วยจำนวน 21 ประตู
ต้องยอมรับตามตรงว่า น่าทึ่งเหลือเกินสำหรับคนวัยย่าง 37 ปี ที่ยังเล่นฟุตบอลระดับสูง แล้วทำได้ดีขนาดนี้ ซึ่งก็ต้องยกเครดิตให้กับเจ้าตัว “ซีอาร์ 7” นี่แหละ ที่รักษาสภาพร่างกายได้ดีโคตรๆ และมีระเบียบวินัยสุดๆ
ซึ่งครั้งนึง โรนัลโด้ ก็เคยพูดเอาไว้ด้วยว่า “สำหรับคนอื่นอายุ 30 กว่าๆ ก็อาจจะแขวนสตั๊ดแล้ว แต่สำหรับผมมันไม่ใช่ ฟุตบอลมันคือชีวิตของผม ผมอยากลงเล่นต่อไปเรื่อยๆ” ซึ่งทุกวันนี้ “ซีอาร์ 7” ก็ได้พิสูจน์ให้ทุกคนบนโลกเห็นแล้วว่าเขาพูดจริง
109 ประตูของ อาลี ดาอี มาจาก 149 นัด ซึ่ง โรนัลโด้ อาจจะใช้เกมการเล่นที่มากกว่าที่ 178 นัด แต่ก็อย่าลืมว่าฟุตบอลระดับยุโรป มันมีคู่แข่งที่เหนือกว่า แกร่งกว่าและเก่งกว่าในระดับเอเชีย ฉะนั้นมันแทบไม่มีใครเลยที่ตั้งข้อครหา โรนัลโด้ ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่านี่คือนักฟุตบอลที่ดีที่สุดตลอดกาลในประวัติศาสตร์ชาติโปรตุเกส เหนือ หลุยส์ ฟิโก้ ตำนานแข้งทัพ “ฝอยทอง” ไปอีกระดับ โดย 109 ประตูที่ พี่โด้ ซัดให้ โปรตุเกส นั้นถ้าจะแบ่งแยกก็จะได้เป็นลูกโหม่ง 25 ประตู เท้าขวา 59 ตุง แบ่งเป็นจุดโทษ 14 ลูก ฟรีคิก 9 ลูก และเท้าซ้ายอีก 25 ประตู ทำไป 9 แฮตทริก เรียกได้ว่ายิงได้หมดซ้าย-ขวา หรือโหม่ง ครบเครื่องเรื่องพังประตู
โดยช่วงเวลาที่ พี่โด้ มักจะทำประตูได้ในนามทีมชาติก็เป็นช่วงเวลา 15 นาทีสุดท้ายของเกม ซึ่งพี่แกกดไปถึง 31 ประตู รองลงมาก็ช่วงนาทีที่ 61-75 ซัดไป 22 ประตูด้วยกัน
ส่วนคู่แข่งที่โดน โรนัลโด้ ตะบันใส่มากสุดก็คือทีมชาติสวีเดน กับ ลิทัวเนีย โดนกันไปชาติละ 7 ตุง รองลงมาคือ อันดอร์ร่า, ลักเซมเบิร์ก และ ฮังการี โดนไปชาติละ 6 ประตู
จากเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ชัดเจนเลยว่า โปรตุเกส เมื่อมี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่เป็น Player คนสำคัญ ผลงานต่างๆ ก็จบได้ทุกเรื่องเหมือนกับ CLEAR MEN ที่เกิดมาเพื่อช่วยดูแลเส้นผมและหนังศรีษะของผู้ชายแมนอย่างเราๆโดยเฉพาะ เมื่อมี CLEAR MEN ก็ต้องบอกว่า #เรื่องของผมจบด้วยเคลียร์ และเมื่อมี โรนัลโด้ ปัญหาทุกอย่างก็จบลงเช่นเดียวกันโดยเฉพาะเรื่องการถล่มประตู
ทั้งหมดนี้นี่แหละคือความสุดยอดของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ว่าที่แข้งประวัติศาสตร์ซัดประตูในนามทีมชาติมากที่สุดในโลกแต่เพียงผู้เดียว. .. ไม่นานเกินรอ