คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดตลอดกาลเช่นเดียวกับ ลิโอเนล เมสซี่ มีสถิติระดับประวัติศาสตร์มากมายที่เกิดขึ้นด้วยฝีมือของเขา ถึงอายุจะปาเข้าไป 36 แล้ว แต่ เจ้าของโค้ดเนม CR7 ก็ยังคงยืนระยะและรักษามาตรฐานของตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม
สำหรับ คิเลียน เอ็มบัปเป้ ถูกวางตัวเอาไว้ว่าจะเป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คนต่อไปของวงการ และในอนาคตข้างหน้าก็มีสิทธิ์กลายเป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ได้เหมือนกัน แต่คุณรู้ไหมว่าจริงๆ แล้ว 2 คนนี้มีเส้นทางและชะตาชีวิตที่เหมือนกันหลายอย่าง มันจะมีอะไรบ้างนั้น ไปติดตามคอนเทนต์จากทางเรา “ขอบสนาม” ได้เลยครับ
โดนเปรียบเทียบกับแข้งระดับโลก
นับเป็นเรื่องธรรมชาติของนักกีฬาทุกคนที่จะถูกนำชื่อไปเปรียบเทียบกับนักกีฬาระดับชั้นนำ อย่างช่วงเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งชื่อของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็ถูกนำไปเทียบกันนักเตะอย่าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช และ เวย์น รูนี่ย์
อย่างไรก็ตามการปรากฏตัวของ ลิโอเนล เมสซี่ และด้วยฟอร์มการเล่นในระดับที่เฉิดฉายเกินหน้าเกินชาวบ้านชาวช่องเขาตลอดช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับ เจ้าของโค้ดเนม CR7 ก็อยู่ในจุดที่สุดยอดสูสีกัน นั่นก็ทำให้เกิดคำถามที่ถกเถียงที่กันไม่มีวันจบสิ้นว่า ระหว่าง ลิโอเนล เมสซี่ กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ใครคือ นักเตะที่ดีที่สุดในโลกกันแน่ ?
ในทำนองเดียวกัน คิเลียน เอ็มบัปเป้ ก็เป็นดาวรุ่งที่แจ้งเกิดขึ้นมาและก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นเด็กที่เก่งที่สุดในยุคนี้ เช่นเดียวกับ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ก็ถูกมองว่าเป็นเด็กที่เก่งที่สุดในยุคนี้เช่นกัน หลายๆ ฝ่ายคาดการณ์กันไว้ว่าในอนาคตข้างหน้าหลังหมดยุค เมสซี่ และ โรนัลโด้ นี่คือ 2 นักเตะที่จะมาช่วงชิงกันว่า ใครคือ นัมเบอร์ วัน ของโลกลูกหนัง ในเจเนอเรชั่นถัดไป
ดาวรุ่งย้ายทีมค่าตัวสถิติโลก
ย้อนกลับไปปี 2003 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คือเจ้าของสถิติการเป็นดาวรุ่งวัยทีนที่ย้ายทีมด้วยค่าตัวที่แพงที่สุดในโลก เมื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้จัดการเซ็นสัญญาคว้าตัวมาจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน ในราคา 12.24 ล้านปอนด์ จริงอยู่ที่ตอนนี้มันอาจดูเป็นเงินที่น้อยนิด แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปตอนนั้นมันนับตัวเลขที่สูงไม่เบาเลยจริงๆ
ปี 2017 ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ได้ทุบสุดยอดสถิติด้วยการเซ็นสัญญาคว้าตัว เนย์มาร์ จาก บาร์เซโลน่า มาร่วมทีมในราคาสถิติโลกที่ 222 ล้านยูโร และจนถึงทุกวันนี้มันก็ยังเป็นสถิติที่ยังคงอยู่โดยที่ยังไม่มีใครหรือสโมสรทำลายลงได้
และนั่นก็ไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งเดียวที่สโมสรอย่าง เปแอสเช ได้สร้างประวัติศาสตร์ล่าตัวนักเตะมาด้วยค่าตัวระดับสถิติโลก ด้วยเรื่องฐานะที่มั่นคง มีแบ็กใหญ่ และมีเงินถังใหญ่เบ้อเริ่ม มันก็เลยทำให้ปี 2018 การเซ็นสัญญาคว้าตัว คิเลียน เอ็มบัปเป้ เกิดขึ้นเป็นสถิติโลกสำหรับดาวรุ่งที่ค่าตัวแพงที่สุดที่ตัวเลข 180 ล้านยูโร
สไตล์การเล่น
ทั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ คิเลียน เอ็มบัปเป้ เป็นนักเตะที่มักแสดงให้ผู้คนทั้งโลกได้เห็นอยู่เสมอว่า พวกเขาคือผู้เล่นที่ดีที่สุดยามอยู่ในสนาม พวกเขาเป็นนักเตะที่มุ่งมั่น ทุ่มเท และมักแสดงทักษะสกิลที่ชวนให้แฟนบอลรู้สึกตื่นตาตื่นใจและหลงใหลคล้อยตามอยู่เสมอ
ทั้ง 2 คนเป็นผู้เล่นที่มีจุดเด่นในเครื่องของความรวดเร็วและความคล่องตัวในระดับสูงเหมือนกัน เรามักจะเห็นอยู่บ่อยๆ จนชินตาที่สปีดความเร็วของพวกเขาเล่นงานและเผาแผงหลังของศัตรูจะพังไม่เป็นท่า ถึงตอนนี้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะไม่ได้มีจุดเด่นในเรื่องนี้เหมือนเมื่อก่อนซึ่งนั้นก็เป็นเพราะเรื่องวัยและอายุของเขา แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาคือผู้เล่นที่น่ากลัวที่สุดในสนาม และก็ยังเป็นผู้เล่นระดับท็อปของวงการ
ฝันอยากเล่นให้ เรอัล มาดริด
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แจ้งเกิดขึ้นมาจนโด่งดังจากการเป็นผู้เล่นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่พี่แกก็ไม่เคยปกปิดหรือปฏิเสธว่า การค้าแข้งให้ เรอัล มาดริด คือความฝันสูงสุดในอารมณ์ที่ว่าชาตินี้ยังมันก็ต้องเกิดขึ้นให้ได้ และมันก็เกิดขึ้นจริงในปี 2009 เมื่อ เจ้าของโค้ดเนม CR7 ได้ย้ายจาก “ปีศาจแดง” ไปทำตามฝันที่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ในราคาสถิติโลก ณ ตอนนั้นที่ 80 ล้านปอนด์ ก่อนจะสร้างชื่อจนกลายเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลกกับโปรไฟล์การระเบิดสกอร์ไปกระจุยถึง 450 เกม จาก 438 นัด นับเป็นสถิติที่โลกใบนี้น้อยคนนักจะทำแบบนี้ได้ แถมยังเป็นส่วนสำคัญที่พา เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ 15 โทรฟี่ และถ้าจะถามคือรางวัลระดับ มาสเตอร์ พีซ นั่นก็คงเป็นการคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 ปีที่ติดต่อกัน
“ผู้คนบอกว่าผมปฏิเสธสัญญาฉบับใหม่ 6-7 ครั้ง และ บอกว่าผมไม่ต้องการคุยกับ เลโอนาร์โด อีกต่อไป นั่นไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน ผมแจ้งขอย้ายทีม ตั้งแต่ตอนที่ผมไม่ต่อสัญญา ผมต้องการให้สโมสรได้รับค่าตัว เพื่อที่จะได้หาผู้เล่นที่มีคุณภาพเข้ามาทดแทน”
“สโมสรแห่งนี้ ได้ให้อะไรมากมายกับผม ผมมีความสุขมาโดยตลอด 4 ปีที่ผมอยู่ที่นี่ และ มันยังคงเป็นแบบนั้นอยู่ ผมบอกเรื่องย้ายไปตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้สโมสรมีเวลาเตรียมตัว ผมอยากให้ทุกคนออกมาจากเรื่องนี้อย่างแข็งแกร่ง จับมือกัน ทำข้อตกลงดีๆ และ ผมก็จะเคารพในสิ่งนั้น ผมได้บอกกับพวกเขาว่า ถ้าไม่อยากให้ผมย้าย ผมก็จะอยู่”
เช่นเดียวกับ คิเลียน เอ็มบัปเป้ เด็กคนนี้ก็ไม่เคยเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับเลยสำหรับความฝันในการย้ายไปค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด และนี่ก็คือบทสัมภาษณ์ล่าสุดที่เขาพูดถึงอนาคตของตัวเอง หลังจากตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกันตลอดช่วงที่ผ่านมา
โดนกีดกันย้ายไป ชุดขาว
ย้อนเวลากลับไปปี 2008 แฟนบอลทุกคนต่างคิดว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะย้ายไป เรอัล มาดริด อย่างแน่นอน ถึงนักเตะจะต้องการแบบนั้น แต่ยอดบรมกุนซืออย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ไม่พร้อมปล่อยตัวไป เพราะมองว่าทางฝั่ง “ราชันชุดขาว” ไม่ให้ความเคารพกับการแสดงตัวอย่างโจ้งแจ้งว่าอยากได้ตัว เจ้าของโค้ดเนม CR7 ถึงจากนั้น “ป๋าเฟอร์กี้” จะพยายามปิดกั้นและขัดขวางทุกวิถีทางสำหรับการย้ายทีมของ โรนัลโด้ แต่สุดท้ายมันก็เกิดขึ้นจริงในปีต่อมา
ปี 2021 หรือช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เรอัล มาดริด ก็ทุ่มแบบสุดตัวเหมือนกันกับพยายามในการกระชากตัว คิเลียน เอ็มบัปเป้ พวกเขายื่นข้อเสนอเข้าไปหลายต่อหลายครั้ง แต่ทาง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ก็ปฏิเสธเงินทุกบาททุกสตางค์ พร้อมอัพค่าตัวขึ้นเรื่อยๆ ว่ากันวุดการย้ายออกจาก เปแอสเช นั้นถ้าจะเกิดขึ้นได้ต้องได้ค่าตัวในระดับสถิติโลกที่เทียบเท่ากับ เนย์มาร์ เท่านั้น ถึงตอนนี้ ปารีส จะยังรั้งตัว คิเลียน เอ็มบัปเป้ เอาไว้ได้ แต่คำถามก็คือพวกเขาจะยังเก็บเด็กคนนี้ไว้ได้อีกไหมหลังจบฤดูกาลนี้ ?
เส้นทางในทีมชาติ
ทั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ คิเลียน เอ็มบัปเป้ ต่างก็มีเส้นทางค้าแข้งในระดับนานาชาติที่เหมือนกันโดยเฉพาะในวัยที่ยังเป็นดาวรุ่งพวกเขาต่างก็มีส่วนร่วมกับทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์ในรอบชิงชนะเลิศ ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 17 ปีก่อน เจ้าของโค้ดเนม CR7 ก็นับเป็นกำลังสำคัญเหมือนกันที่พา โปรตุเกส ตีตั๋วไปถึงรอบชิงชนะเลิศในศึก ยูโร 2004 ส่วน เอ็มบัปเป้ ก็มีอิทธิพลสำคัญเช่นกันกับการพา ฝรั่งเศส ไปถึงนัดชิงดำในศึก ฟุตบอลโลก ปี 2018
คิเลียน เอ็มบัปเป้ สมหวังกับการที่ ฝรั่งเศส ได้เถลิงบัลลังก์ แชมป์โลก สมใจ ส่วน โรนัลโด้ ต้องอกหักไปในปีนั้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยได้สัมผัสกับทัวร์นาเมนต์ระดับยักษ์ใหญ่ซะเมื่อไหร่ เพราะในศึก ยูโร ปี 2016 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คนนี้ก็เป็นกัปตันทีมและช่วยให้ทัพ “ฝอยทอง” คว้าแชมป์สมัยแรกบนหน้าประวัติศาสตร์สมใจเหมือนกัน
อีกสิ่งหนึ่งที่ 2 คนนี้เหมือนกันก็คือตั้งแต่เด็กจนโตพวกเขาคือกำลังสำคัญที่ชาติเกิดของตัวเองที่จะขาดไปไม่ได้เหมือนกัน และก็เชื่อว่ามันจะเป็นแบบนี้ไปจนถึงวันที่ทั้งคู่แขวนสตั๊ดอำลาวงการกันเลยทีเดียว
ความมั่นใจ ของการเป็นซุปตาร์
นักฟุตบอลมักอ่อนไหวต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์เสมอ และบางทีก็อาจไม่มีใครที่เจอเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากไปกว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อีกแล้ว แต่ถ้าสังเกตดูดีๆ ตลอดช่วงที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นทั้งในและนอกสนามเราจะได้เห็นได้ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย มันไม่ได้ส่งผลต่อสภาพจิตใจของผู้ชายคนนี้เลยสักนิด เขาใช้ผลงานในสภาพเป็นตัวตอกหน้าและสวนกลับเสียงวิจารณ์เหล่านั้นซึ่งนับเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำได้เขาเป็นสุดยอดนักเตะจนถึงทุกวันนี้
เช่นเดียวกับ คิเลียน เอ็มบัปเป้ ถึงจะยังเด็ก แต่เหมือนตอนนี้เขาจะกำลังเจอเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอนาคตที่เชื่อมโยงกับ เรอัล มาดริด รวมไปถึงความผิดหวังของฟอร์มการเล่นในทัวร์นาเมนต์ ยูโร 2020 โดยเฉพาะการสังหารจุดโทษพลาดในนัดที่พ่าย สวิตเซอร์แลนด์ เล่นทำเอาเจ้าตัวถึงนอยจัดจนถึงขั้นออกมาประกาศลั่นเลยว่า “ถ้าทุกคนมองเขาเป็นปัญหา เขาก็พร้อมจะหันหลังให้ ทีมชาติ ฝรั่งเศส ได้ทันทีเหมือนกัน”
แต่ก็เหมือนกับ โรนัลโด้ เพราะ คิเลียน เอ็มบัปเป้ คนนี้ได้ตอกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ด้วยผลงานที่เกิดขึ้นในสนามเช่นกัน เขาเป็นคนสังหารจุดโทษในเกม ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ ที่ชนะ เบลเยี่ยม 3-2 และก็เป็นผู้ยิงประตูชัยพา ฝรั่งเศส เฉือนชนะ สเปน 2-1 พร้อมกับเถลิงบัลลังก์แชมป์ได้สำเร็จด้วย
สำหรับความเย่อหยิ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นมากๆ ต่อชีวิตของนักกีฬา มันเป็นการเติมพลังชั้นดีเพื่อให้พวกเขาเหล่านี้มีแรงปรารถนาที่มากขึ้น สามารถเอาชนะกับความกดดันและอุปสรรคต่างๆ ได้ เอาง่ายๆ ก็คือยิ่งคุณเจอกับความท้าทายมากเท่าไหร่ การมีความหยิ่งในระดับที่สูงขึ้นก็ถือเป็นสิ่งที่ดีเช่นนั้นนั่นแหละ
Credit ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ