ฟุตบอลลีกดังของยุโรปในฤดูกาล 2021-22 ใกล้ถึงเวลาเปิดฉากขึ้นเต็มทีแล้ว แน่นอนว่ามันมีสิ่งที่น่าสนใจเกิดขึ้นมากมาย
วันนี้สิ่งที่เราอยากนำเสนอก็คือการพาทุกท่านไปยลโฉมดูกันว่ามี “นักเตะหน้าใหม่ของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คนไหนบ้างที่แววดีและน่าจับตามอง” ในปีนี้
จาดอน ซานโช่ – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ในที่สุด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ประสบความสำเร็จในการล่าตัว จาดอน ซานโช่ มาเสริมความแข็งแกร่ง หลังใช้ความพยายามมาตลอด 1-2 ปี การย้ายทีมของผู้ชายคนนี้ถูกตั้งความหวังเอาไว้สูงลิบลิ่วจากฟอร์มการเล่นที่เฉิดฉายมากๆ สมัยอยู่กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ นี่คือนักเตะที่มีส่วนร่วมกับเกมและประตูที่ “เสือเหลือง” ยิงได้สูงมากที่ตัวเลข 114 ประตูจากการลงเล่น 137 เกม แบ่งเป็นซัลโว 50 ประตู และกดไปอีก 64 แอสซิสต์ จัดว่าเป็นสถิติที่โหดมากๆ สำหรับเด็กอายุแค่เพียง 21 ปี
ด้วยความที่ จาดอน ซานโช่ มีจุดเด่นในเรื่องสกิลการเล่นที่สูงมากโดยเฉพาะการสร้างจังหวะให้กับตัวเองร่วมถึงเพื่อนร่วมทีม แน่นอนว่าพี่แกจะได้รับการจับตามองอย่างมากกับการพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นผู้เล่นปีกขวาที่ แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังตามหา ตลอดจนการได้ผนึกกำลังกับพวก เอดินสัน คาวานี่, บรูโน่ แฟร์นานเดส และ ปอล ป็อกบา เชื่อว่าแฟนๆ “เร้ด เดวิลส์” เองก็งอดใจไม่ไหวแล้วที่จะได้เห็นพวกเขาเหล่านี้ลงสนามเคียงบ่าเคียงไหล่กันเพื่อนำความสำเร็จมาสู่รั้ว “ปีศาจแดง”
ราฟาเอล วาราน – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
นอกจาก จาดอน ซานโช่ แล้วอีกหนึ่งการเสริมทัพที่ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถูกมองว่าปีนี้ได้ลุ้นแชมป์แบบเต็มตัวแน่ๆ นั่นก็คือการกระชากตัว ราฟาเอล วาราน มาเสริมแกร่ง หลายๆ ฝ่ายมองว่านี่น่าจะเป็นคู่ขาที่แมตช์กับตัวของ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ มากๆ มีความแข็งแกร่งทางสรีระ เล่นลูกกลางอากาศได้ดี เซนส์บอลดี และเข้าถึงบอลไว และที่สำคัญคือ วาราน เป็นผู้เล่นเซ็นเตอร์แบ็กมีความเร็วและความคล่องตัวสูง ดังนั้นในจุดนี้เท่ากับว่าพี่แกสามารถเกื้อหนุน แม็คไกวร์ ได้ดีเลยยามออกไปตัดบอลและคอยซ้อนด่านสอง
อีกหนึ่งจุดเด่นของ ราฟาเอล วาราน ก็คงเป็นการวางบอลยาวที่แม่นยำสามารถสร้างประโยชน์ได้มากมายไม่ว่าจะเป็นการเซ็ตเกมจากแดนหลัง หรือเปลี่ยนเกมจากจังหวะรับเป็นรุกได้อีกต่างหาก นอกจากความสามารถเฉพาะตัวแล้วอีกหนึ่งสิ่งที่ วาราน ดูจะช่วยเสริมดวงให้กับทีมของ โอเล กุนนาร์ โซลชา ก็คือประสบการณ์การคว้าแชมป์เมเจอร์ใหญ่ๆ มาแล้วมากมาย ทั้ง ลา ลีกา, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 4 สมัย ตลอดจนถ้วย แชมป์โลก พี่แกก็ได้สัมผัสมาแล้วด้วยนะ
อิบราฮิม่า โคนาเต้ – ลิเวอร์พูล
ถ้าพูดถึงผู้เล่นกองหลังของ ไลป์ซิก ในสายตาของคนส่วนใหญ่แน่นอนว่ามันมักจะจับจ้องไปที่ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ แต่จริงๆ แล้ว อิบราฮิม่า โคนาเต้ ก็จัดว่าเป็นกองหลังที่ฉายแววได้ดีไม่แพ้กัน ไม่งั้น เจอร์เก้น คล็อปป์ คงไม่ตัดสินใจทาบทามตัวมาร่วมทีมหรอกใช่ไหมล่ะ ? เขาเป็นกองหลังที่แข็งแกร่งในการเล่นลูกกลางอากาศ หน่วยก้านดี อ่านเกมขาด แถมยังมีเรื่องของความเร็วเป็นจุดเด่นอีกด้วย ว่ากันว่าถ้าวัดกันในเรื่องของสปีดนี่คือผู้เล่นที่มีสถิติที่ดีที่สุดในทีมเชียวนะ
อิบราฮิม่า โคนาเต้ มีคุณสมบัติที่ดีพอในการแย่งตำแหน่งกับ โจ โกเมซ และ โจเอล มาติป เพื่อก้าวขึ้นมาเป็นเซ็นเตอร์แบ็กตัวจริงคู่กับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ แต่ดูเหมือนสิ่งที่น่าเป็นห่วงเพียงเรื่องเดียวก็คือเรื่องปัญหาอาการบาดเจ็บ เพราะที่ผ่านๆ มาสมัยเล่นให้ทีมเก่าก็มีช่วงที่หายหน้าหายตาไปบ่อยๆ เพราะสาเหตุนี้ ดังนั้นเดี๋ยวต้องมาดูกันว่า อิบราฮิม่า โคนาเต้ คนนี้จะจัดการกับปัญหาชีวิตนี้ซึ่งเป็นโจทย์ข้อแรกที่ต้องเคลียร์ได้หรือไม่
พัตสัน ดาก้า – เลสเตอร์ ซิตี้
ในชาร์ตการลุ้นรางวัลดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก ปีนี้ดูเหมือนจะมีตัวละครใหม่ก้าวขึ้นมาท้าทายกับพวกเหล่าซูเปอร์สตาร์อย่าง เจมี่ วาร์ดี้, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ หรือ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมอยอง และอีกหลายคน เพราะไอ้หนู พัตสัน ดาก้า คนนี้พร้อมจะเขย่าบัลลังก์แล้ว กับสถิติการระเบิดสกอร์ที่ถล่มทลาย โดยเฉพาะปีล่าสุดกับ เร้ดบูลส์ ซัลซ์บวร์ก ไอ้หมอนี่เล่นซัดไปถึง 34 ประตูจากการลงเล่น 42 เกม จัดว่าเป็นสถิติที่โหดสุดๆ สำหรับเด็กอายุ 22 ปี และก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ใครต่อใครต่างตั้งฉายาให้กับเขาว่า “นิว เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์”
การมาของ พัตสัน ดาก้า แน่นอนว่าได้เพิ่มความโหดและอันตรายให้ เลสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นเป็นทวีคูณ เพราะเท่ากับว่าตอนนี้มันไม่ได้มีแค่ เจมี่ วาร์ดี้ แล้วที่เป็นโจทย์ข้อใหญ่สำหรับคู่ต่อสู้ เช่นเดียวกับเรื่องของการลุ้นความสำเร็จก็จัดว่าน่าสนใจ เพราะดูเหมือน เบรนแดน ร็อดเจอร์ส จะหมายมั่นปั้นมือมากๆ ว่า ปีนี้ยังไงฉันจะต้องได้ไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังจากต้องเจอกับความผิดหวังมา 2 ปีติดต่อกัน
ไบรอัน จิล – ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
ไบรอัน จิล เป็นผู้เล่นในตำแหน่งปีก ถนัดเท้าซ้าย แต่ก็ประจำการในพื้นที่กราบซ้าย ถือเป็น วิงเกอร์ เพลเยอร์ ในรูปแบบคลาสสิกอย่างที่เราคุ้นเคยกัน ถ้าจะพูดถึงคนที่สไตล์ใกล้เคียงกันก็คงจะเป็นรุ่นพี่อย่าง เฆซุส นาบาส ที่มีความคล่องตัวสูง มีสกิลการลากเลื้อยไปกับบอลที่ดี ตลอดจนลูกครอสส์บอลก็ถือว่าหวังผลได้เช่นกัน แต่ในทางกลับกันประสบการณ์ที่ เออิบาร์ เจ้าตัวก็ได้รับบทบาทใหม่ด้วยการโยกไปยืนเป็นปีกขวา และอาศัยการเข้าทำ ลากตัดเข้าในและแต่งจังหวะด้วยตัวเอง รวมไปถึงการสร้างโอกาสให้เพื่อนๆ มันก็เลยทำให้ไอ้เด็กนี่ยกระดับตัวเองขึ้นในสกิลการปั้นเกมในแบบฉบับของเพลย์เมคเกอร์
ถ้าจะพูดถึงเรื่องรูปแบบการเล่นของ ไบรอัน จิล ก็ดูเหมาะสมกันดีกับสไตล์การเล่นและแนวทางของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่เป็นบอลบุก ยิ่งมาอยู่ในมือของ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ ซึ่งเป็นกุนซือที่ชื่นชอบและโปรดปรานมากๆ กับการให้โอกาสดาวรุ่ง และมันก็มีเด็กหลายคนที่แจ้งเกิดขึ้นเป็นที่รู้จักด้วยฝีมือของเขา ไม่ว่าจะเป็น ดีโอโก้ โชต้า, เปโดร เนโต้, รูเบน เนเวส และ อีกมากมาย ดังนั้นมันก็มีโอกาสที่ ไบรอัน จิล จะเฉิดฉายจนกลายเป็นดาวเด่นดวงใหม่ได้เช่นกัน