ได้ปิดฉากเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับรายการ ดูไบ คัพ 2022 ซึ่ง ทีมชาติไทย อายุไม่เกิน 23 ปี สามารถทำได้จบที่ 10 อันดับสุดท้ายของตาราง จากผลงานที่ไม่สามารถหาแต้มได้เลน ทั้ง แพ้ กาตาร์ 0-1, แพ้ จีน 2-4 และ แพ้ อิรัก 1-2
แต่อย่างไรก็ตามหากใครที่ได้ติดตามในทัวร์นาเมนต์นี้ จะเห็นว่านักเตะของเรามีพัฒนาการที่ดีโดดเด่นอยู่บ้างในบางราย อีกทั้งยังเป็นโอกาสที่เราจะได้เห็นทั้งนักเตะลูกครึ่ง ไปจนถึงคนที่ไปค้าแข้งต่างแดน ว่ามีสปีดบอลและร่างกายที่ดีขนาดไหน อีกด้านยังเป็นการสร้างความพร้อมในเรื่องของแท็คติก เพราะในช่วงเดือน พ.ค. ทีมยู 23 มีภารกิจไปพิชิตเหรียญทองซีเกมส์ ณ ประเทศเวียดนาม ต่อด้วยศึกชิงแชมป์เอเชีย ที่อุซเบกิสถาน
ในศึกดูไบ คัพ 2022 ก็มีนักเตะที่ถือว่าผลงานโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ยอดเยี่ยม ซึ่งวันนี้ได้คัดมาทั้งหมด 5 คน กับฟอร์มที่เรียกได้ว่าโดดเด่นขึ้นมาในรายการนี้
วิลเลียม ไวเดอร์เฌอ (การท่าเรือ เอฟซี)
ก็คงต้องชื่นชมสายตาของ การท่าเรือ เอฟซี ภายใต้การบริหารของ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสร ที่ดูเหมือนว่าจะเริ่มมีการเปลี่ยนนโยบายในการซื้อผู้เล่นอายุน้อยๆ เข้ามา และทาง วิลเลียม ไวเดอร์เฌอ ก็เป็นหนึ่งในนั้น ต่อจาก ธีระศักดิ์ เผยพิมาย, อนุศักดิ์ ใจเพชร, สิทธา บุญหล้า
เมื่อมิดฟิลด์ลูกครึ่งไทย-สวีเดน ได้ย่างก้าวลงสนาม ตั้งแต่ที่ลงเป็นตัวสำรองจนกระทั่งได้มาเป็นตัวจริง บรรดาแฟนบอลก็ต่างพากันทึ่งกับลีลาการเล่นของดาวเตะวัย 20 ปี ที่ทุมเทวิ่งพล่านไปทั่ว, จ่ายบอลคมกริบ, วางบอลอย่างแม่นยำ รวมทั้งมีการเล่น “เฟิร์สทัช” (จังหวะเดียว) ที่เป็นธรรมชาติในการพลิกบอลเข้าโจมตีแนวรับคู่ต่อสู้
นี้คงเป็นความคุ้มค่าที่ทำให้พวกเราได้เห็นเขาลงสนาม 180 นาที ใน 2 เกมสุดท้ายติดต่อกัน พร้อมกับยังสามารถทำไป 2 ประตู จากฟรีคิกอันคมกริบที่แพ้จีน 2-4 และลูกยิงมุมแคบใส่ อิรัก ตีเสมอ 1-1 ก่อนแพ้ไป 1-2 แต่ถ้าฟอร์มโดยรวมแล้ว แฟนบอลเองก็ต่างยกให้ วิลเลียม ไวเดอร์เฌอ สอบผ่านแบบฉลุย
ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว (อูนิโอน อดาร์เบ)
หลังจากเกม เอฟเอ คัพ 2020/2021 นัดชิงชนะเลิศ ซึ่ง ชลบุรี เอฟซี แพ้ให้กับ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ในการดวลจุดโทษ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ทำตามความฝัน ด้วยการเดินทางไปที่ประเทศสเปนตามคำเชิญของ สโมสร อัลกอร์กอน ทีมในศึก ลา ลีกา 2 (เซกุนดา) ก่อนที่ตัวเขานั้นจะได้มีโอกาสลงฝึกซ้อมและทดสอบฝีเท้ากับทีม
ที่นั่นอาจยังไม่เหมาะกับเขา แต่ “เจ้าหนึ่ง” ก็ยังได้รับความสนใจจาก สโมสร อูนิโอน อดาร์เบ ในลีกา 4 ที่แสดงความต้องการที่จะคว้าตัวไปร่วมทีมด้วย ก่อนทางต้นสังกัดจะตกลงรายละเอียดและจรดปากกาเซ็นสัญญายืมตัว จาก สโมสร ชลบุรี เอฟซี เป็นระยะเวลา 1 ฤดูกาล ซึ่ง “หนึ่ง” เองก็ได้มีพัฒนาทางด้านร่างกายอย่างเต็มที่ จนดูมีกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งมากกว่าเดิม
รายการนี้คงจะเป็นคำตอบได้ดีว่า ในระยะเวลาเกือบ 1 ปีที่เราไม่ได้เห็นหนุ่มน้อยคนนี้ การเล่นของเขาพัฒนาขึ้นมากมาย โดยเฉพาะการแทงบอลทะลุช่องที่ยอดเยี่ยมตั้งแต่เกมแรก นอกจากนี้ยังปรับตัวเองเข้าไปเป็นกองกลางด้านใน รวมทั้งเก็บไป 1 แอสซิสต์ จากการจ่ายให้ สิทธิโชค ภาโส รุ่นพี่ในทีม ชลบุรี เอฟซี สับไกจากนอกกรอบด้วยเท้าขวาตีเสมอ จีน 1-1
อิรฟาน ดอเลาะ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
“เจ้าปัง” อิรฟาน ดอเลาะ ก็ถือได้ว่าเป็นแกนหลักของ “โค้ชโย่ง” มาตั้งแต่ในศึก ยู 23 ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ที่ประเทศมองโกเลีย ซึ่งตัวเขานั้นเล่นคู่กับ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร ได้อย่างเข้าขาและเนียนตา จนทีมสามารถทะลุเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายได้สำเร็จ
กองกลางจาก “ปราสาทสายฟ้า” ตัวเขานั้นมีจุดเด่นในเรื่องการรักษาพื้นที่แดนกลาง ครองบอลฉลาด จ่ายบอลทะลุทะลวง เอาตัวรอดในจังหวะถูกเพรสซิ่งได้ดี ซึ่งในนัดแรกที่เล่นร่วมกับ ชาญณรงค์ เขาทำงานหนักและมีผลงานส่วนตัวที่ดีมากๆ
จากนัดอีก 2 เกม เขาได้ วิลเลียม ไวเดอร์เฌอ เข้ามาประกอบร่างในแผงมิดฟิลด์ ทำให้งานของเขาเบาลง เพราะว่าดาวเตะจากสโมสร การท่าเรือ เอฟซี สามารถช่วยทั้งเกมรุกและรับไปพร้อมๆ กัน ทำให้ดาวเตะหมายเลข 6 ของทีมชาติไทย ยู 23 มีเวลาหันมาโฟกัสในเรื่องของการเปลี่ยนบอลไปซ้ายขวา รวมไปถึงการหาช่องวางบอลแนวลึกอยู่ตลอด และคอยช่วยรักษาสมดุลแดนกลางของทีมได้เป็นอย่างดี
เมธี สาระคำ (พีที ประจวบ เอฟซี)
บรรดาแฟนบอลบางคนอาจจะเลิกตาขึ้น และมีความสงสัยว่า เมธี สอบผ่านด้วยหรือ แต่ในมุมมองของผู้เขียนเขาถือเป็น “นักเตะจอมขยัน” เวลาที่ทีมเสียบอลเมื่อใด นักเตะรายนี้จะวิ่งไล่ลงมาช่วยเพื่อเอาบอลกลับคืนมาให้ได้ เหมือนกับว่าตัวเขานั้นต้องการที่จะให้ทุกคนได้เห็นว่า ตัวเขาอยากพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง หลังติดทีมชาติครั้งสุดท้าย คือ รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ชุดชิงแชมป์อาเซียน ที่ประเทศ อินโดนีเซีย
ด้วยวุฒิภาวะที่เติบโตขึ้น ทั้งการไปเล่นกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, ลำปาง เอฟซี, สมุทรปราการ ซิตี้, ระยอง เอฟซี และเวลานี้กับ พีที ประจวบ เอฟซี ทำให้เขาได้เรียนรู้จังหวะการเล่นเกมรับมากขึ้น นอกจากนี้ในยามที่เพื่อนฝากบอลมาให้ “ตูมตาม” ก็ครอบครองบอลได้ดีเป็นคนที่เสียบอลยาก
การเล่นดังกล่าวนอกจากต้องใช้พลังที่เยอะแล้ว เขายังพิสูจน์ให้เห็นกึ๋นการแอสซิสต์ จากทำชิ่งกับ วิลเลียม ไวเดอร์เฌอ แล้วตอกส้นส่งบอลกลับไปให้กองกลางจากถิ่นคลองเตย ทำประตูตีเสมอ อิรัก 1-1 ในช่วงวินาทีสุดท้ายของครึ่งแรก
พาตริก กุสตาฟส์สัน (เชียงใหม่ เอฟซี)
ก็เป็นอีก 1 แข้งที่ถูกจับตามองมากเป็นพิเศษ เนื่องจากในทีมชาติไทย ยู 23 ไม่มีกองหน้าประเภทความเร็วสูง รูปร่างดี แรงปะทะไม่เสียเปรียบคู่แข่ง คอยส่ายหาช่องในการจบสกอร์ จึงเป็นสาเหตุที่ต้องเลือก พาตริก กุสตาฟส์สัน เข้ามาสู่ทีม
ใน 3 เกมที่ผ่านมา ดาวเตะที่เซ็นสัญญาร่วมทัพ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ก่อนที่ตัวเขาจะถูกปล่อยยืมตัวไปเก็บประสบการณ์สร้างกระดูกกับ เชียงใหม่ เอฟซี ตังเขานั้นถึงแม้อาจจะไม่สามารถส่งบอลเข้าไปจมในก้นตาข่ายได้ แต่แนวทางการเล่นของเขาจัดว่าเป็นพวกมี “สัญชาตญาณ” ในการหาพื้นที่อย่างมาก
ใครที่ได้ติดตามในเกมแรกมีช็อตที่ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ได้แทงบอลขึ้นหน้า แข้งที่มีส่วนสูงถึง 187 เซนติเมตร กลับได้ใช้สปีดที่ว่องไว ร่างกายที่ใหญ่โต ปะทะแนวรับกาตาร์กระเด็นไปทิศทางอื่น ซึ่งวันนั้นได้ยิงราวๆ 3-4 ครั้งแต่น่าเสียดายที่ยังไม่สามารถเป็นสกอร์ได้ แม้จังหวะสุดท้ายจะยังไม่คลิก แต่หากพูดถึงการสร้างโอกาสได้มากมายแบบนี้ มันก็แสดงให้เห็นว่าเขาเปรียบเสมือนเพชรที่รอการเจียระไน คุณสมบัติอื่นๆ มีพร้อมแล้ว หากไทม์มิ่งทุกอย่างลงตัว ตัวเขานั้นจะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นยอดศูนย์หน้าคนหนึ่งได้อย่างแน่นอน
นี่คือ 5 แข้งทีมชาติที่เห็นแววรุ่งจากศึก ชุดสู้ศึกดูไบ คัพ ครั้งนี้ เอาเป็นว่ายังเหลืออีก 2 รายการ ทั้ง ซีเกมส์ และชิงแชมป์เอเชีย อย่าลืมส่งกำลังใจให้กับทีมงานทุกคน ให้ประสบความสำเร็จ นำชื่อเสียงกลับมาให้กองเชียร์ชาวไทยภาคภูมิใจกัน
รูป www.ballthai.com, www.thairath.co.th, www.90min.com
เนื้อข่าว m.thsport.com เว็บสล็อต