10 ดาวรุ่งที่อนาคตไกลในศึกฟุตบอลยูโร 2020-2021

ข่าวฟุตบอล ฟุตบอลยูโร 2020-2021

พวกทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ ในระดับนานาชาติมักเป็นสังเวียนที่ช่วยให้นักเตะหลายๆ คนแจ้งเกิดจนเป็นที่รู้จัก เช่นเดียวกับศึก ยูโร 2020 

วันนี้เราจะขอเจาะจงเฉพาะเหล่าบรรดานักเตะดาวรุ่งก็แล้วกัน ไปดูกันหน่อยดีกว่าว่ามีใครกันบ้างที่ฉายแววได้ดีแล้วเข้าตากรรมการสุดๆ 

แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก – เดนมาร์ก

แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก – เดนมาร์ก

แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก วัย 23 ปีจากสังกัด นีซ มีชื่อเป็น 1 ใน 26 ผู้เล่นของทัพ “โคนม” ชุดผจญภัยในศึก ยูโร 2020 หนนี้ แต่ไม่ได้ถูกวางเป้าไว้เป็นตัวจริงตั้งแต่ทีแรก กว่าพี่แกจะได้ประเดิมสนามนัดแรกของทัวร์นาเมนต์ก็ต้องรอจนถึงรอบ 16 ทีมโน่นเลย เพราะตอนนั้นกองหน้าตัวหลักอย่าง ยุสซุฟ โพลเซ่น เกิดมีปัญหาอาการบาดเจ็บ และทาง ดอลเบิร์ก เองก็ไม่ปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดมือไป เพราะพี่เล่นซัดไปคนเดียว 2 ประตู ช่วยให้ เดนมาร์ก ถล่ม เวลส์ ไปแบบยับเยินถึง 4-0 ตามด้วยเกมต่อมาในรอบ 8 ทีม แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก ก็กดไปอีก 1 เม็ดช่วยให้ เดนมาร์ก เชือด เช็ก ไปอีก 2-1 ตอนนี้นำเป็นดาวซัลโวของทีมและยึดตำแหน่งตัวจริงยาวๆ เลย

สำหรับ แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก ตอนนี้ก็ถือว่ามีลุ้นคว้ารางวัล ดาวซัลโวของ ทัวร์นาเมนต์เหมือนกัน เพราะตอนนี้ตามหลัง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ พาทริค ชีค ที่ตกรอบไปแล้วอยู่แค่ 2 ลูกเท่านั้น เช่นเดียวกับเรื่องของความสำเร็จ ต้องบอกเลยว่าตอนนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ บางที เดนมาร์ก อาจเป็นชาติม้ามืดที่ตำนานเทพนิยายได้เหมือนกับปี 1992 ก็เป็นได้

มานูเอล โลคาเตลลี่ – อิตาลี

มานูเอล โลคาเตลลี่ – อิตาลี

ตอนนี้ชื่อของ มานูเอล โลคาเตลลี่ ห้องเครื่องดาวรุ่งวัย 22 ปีเริ่มกลายเป็นเป้าหมายการเสริมทัพของหลายๆ ทีมดัง ไม่ว่าจะเป็น ยูเวนตุส, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ อาร์เซน่อล หลังจากฉายแววได้ค่อนข้างเข้าตาในศึก ยูโร 2020 หนนี้ ถึงจะไม่ได้การันตีว่าเป็นตัวจริงแบบ 100 เปอร์เซนต์ แต่ก็ได้โอกาสอยู่เรื่อยๆ จาก โรแบร์โต้ มันชินี่ เขาเป็นนักเตะในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง มีทักษะที่ดีในการสร้างสรรค์เกม และการวางบอลยาวอันแม่นยำ ไหนจะมีสกิลการพาบอลทะลวงขึ้นหน้าที่ดีและสามารถโยกไปเล่นเป็นตำแหน่งปีกได้อีกด้วย

ถ้าจะถามถึงเกมแจ้งเกิดของ มานูเอล โลคาเตลลี่ ในศึก ยูโร 2020 หนนี้ก็คงเป็นเกมที่ อิตาลี ไล่ถล่ม สวิตเซอร์แลนด์ ไปแบบถล่มทลาย 4-0 พี่แกค่อนข้างโดดเด่นในพื้นที่กลางสนาม ตลอดจนการขึ้นไปป้วนเปี้ยนคู่แข่งบริเวณกรอบเขตโทษ และ 2 ประตูที่ใส่สกอร์ได้ในวันนั้นก็ทำให้เขาคว้ารางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปครอง

เฟร์ราน ตอร์เรส – สเปน

เฟร์ราน ตอร์เรส – สเปน

สเปน ชุดนี้ในยุคของ หลุยส์ เอ็นริเก้ ต้องยอมรับว่าขุมกำลังในตำแหน่งแนวรุกค่อนข้างจัดจ้านและน่ากลัวอยู่หลายคนเลยซึ่งหนึ่งในคนที่โดดเด่นมากๆ ในทัวร์นาเมนต์ ยูโร 2020 ก็คือ เฟร์ราน ตอร์เรส ผลงานกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อาจจะไม่โดดเด่นเท่าไหร่ แต่ยามรับใช้ทีมชาติขอบอกเลยว่าเด็ดดวงสุดๆ โดยตัวของ เฟร์ราน ตอร์เรส มีส่วนร่วมกับเกมสูงมากในทุกๆ นัด ทั้งเรื่องจังหวะการเข้าทำ การสร้างสรรค์โอกาสมีช็อตสวยๆ งามๆ ให้เห็นมากมาย เช่นเดียวกับเรื่องการพังประตู

เฟร์ราน ตอร์เรส ได้ลงสนามให้ทัพ “กระทิงดุ” ตลอดทุก 6 นัดที่ผ่านมา เป็นตัวจริง 4 นัด และเป็นสำรอง 2 นัด มีส่วนร่วมกับประตูที่ สเปน ยิงได้ถึง 3 ประตูจากการกดไป 2 ตุง และทำไปอีก 1 แอสซิสต์ด้วยกัน น่าเสียดายที่สุดท้ายที่เขาไม่สามารถพาทีมก้าวไปถึงฝั่งฝันเพราะต้องจอดป้ายที่รอบรองชนะเลิศด้วยน้ำมือของ อิตาลี

มิคเกล ดามส์การ์ด – เดนมาร์ก

มิคเกล ดามส์การ์ด – เดนมาร์ก

มิเกล ดามส์การ์ด เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงอีกคนจาก เดนมาร์ก ที่กำลังถูกพูดถึงอยู่ไม่น้อยเลยในหมู่แฟนบอล จากปัญหาเรื่องสุขภาพของ คริสเตียน อีริคเซ่น ทำให้กุนซือ แคสเปอร์ ฮุลมานด์ ปรับทัพด้วยการเลือกส่ง ไอ้หนูวัย 21 ปี ลงเป็นตัวจริงในเกมที่ 2 กับ เบลเยี่ยม ถึงแม้เกมนั้น เดนมาร์ก จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป แต่ส่วนตัว มิเกล ดามส์การ์ด ค่อนข้างโดดเด่นเลยทีเดียว มีช็อตเกือบยิงประตูได้ด้วย จนกระทั่งในเกมกับ รัสเซีย มิคเกล ดามส์การ์ด สามารถเปิดซิงประตูแรกได้ทันที พร้อมกับสร้างสถิติเป็นผู้เล่น เดนมาร์ก ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ยิงประตูได้ในศึก ยูโร ด้วยตัวเลข 20 ปี 353 วัน

มิคเกล ดามส์การ์ด เป็นผู้เล่นที่สามารถเล่นได้ทั้งตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง และกองหน้าตัวต่ำ เช่นเดียวกับตำแหน่งปีก บางทีหลังจบทัวร์นาเมนต์นี้เราอาจได้เห็นไอ้เด็กคนนี้ย้ายทีมก็เป็นได้ เพราะตอนนี้การได้รับความสนใจ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, เวสต์แฮม ยูไนเต็ด, บาร์เซโลน่า และ เอซี มิลาน แต่ละทีมล้วนแล้วต่างก็เป็นทีมที่ดีกว่า ซามพ์โดเรีย ทั้งนั้น

เฌเรมี่ โดกู – เบลเยี่ยม

เฌเรมี่ โดกู – เบลเยี่ยม

ถ้าจะพูดถึงเกมที่ทำให้คนแทบทั้งโลกเริ่มพูดถึงเด็กวัย 19 ที่ชื่อ เฌเรมี่ โดกู ก็คือเกมนัดล่าสุดนี่แหละที่ เบลเยี่ยม เจอกับ อิตาลี ในศึก ยูโร 2020 รอบก่อนรองชนะเลิศ ต้องบอกเลยว่าผลงานส่วนตัวของไอ้เด็กนี่สะดุดตามากๆ การผสมผสานระหว่างสปีดความรวดเร็ว ความกล้าหาญ และการคอนโทรลไปกับบอล มันทำให้เขากลายเป็นเทรนด์ที่ถูกพูดถึงมากๆ ในโลกโซเชี่ยล และตอนนี้ก็กำลังเป็นที่หมายปองของหลายๆ ทีมไม่ว่าจะเป็น ลิเวอร์พูล, ลีลล์ และ บาเยิร์น มิวนิค

สถิติเด่นๆ ของเจ้า เฌเรมี่ โดกู ที่เกิดขึ้นในเกมกับ อิตาลี ก็คือการผู้เล่นที่เลี้ยงบอลผ่านคู่ต่อสู้ได้มากที่สุดในสนามที่ 8 ครั้ง นับเป็นสถิติที่ดีที่สุดในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ใหญ่ต่อ 1 นัด (ฟุตบอลโลก และ ยูโร) ถ้านับเฉพาะแค่นักเตะดาวรุ่งเท่านั้น เมื่อเป็นแบบนี้แล้วเราอาจได้เห็นเด็กคนนี้ที่ชื่อ เฌเรมี่ โดกู ย้ายไปอยู่กับทีมใหญ่ในเร็วๆ นี้ก็เป็นได้

ดีแคลน ไรซ์ – อังกฤษ

ดีแคลน ไรซ์ – อังกฤษ

ไม่ใช่เรื่องที่ชวนให้รู้สึกเซอร์ไพรส์เลยที่ชื่อ ดีแคลน ไรซ์ จะกำลังเป็นที่หมายปองของทีมใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็น เชลซี รวมถึง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และอีกมากมาย เพราะผลงานในสนามของไอ้หมอนี่มันจับต้องได้จริงๆ เขามีทักษะและศักยภาพที่ดีถึงขั้นต้องยกนิ้วให้จริงๆ ในสกิลการป้องกันและทำลายเกม ไหนจะสามารถโยกไปยืนเป็นผู้เล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กได้อีกต่างหาก เรียกได้ว่าเป็นผู้เล่นในตำแหน่งตัวรับที่ครบเครื่องสุดๆ คนหนึ่งในยุคนี้

ผลงานกับ ทีมชาติอังกฤษ ในศึก ยูโร 2020 หนนี้ ดีแคลน ไรซ์ ก็เป็นตัวสำคัญที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต จะขาดไปไม่ได้ เขาได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงตลอด 5 นัดที่ผ่านมา และการที่พลพรรค “สิงโตคำราม” ยังไม่เสียประตูเลยแม้แต่ลูกเดียวจนถึงตอนนี้ส่วนหนึ่งก็ต้องยกเครดิตให้ ดีแคลน ไรซ์ คนนี้เหมือนกัน

บูกาโย่ ซาก้า – อังกฤษ

บูกาโย่ ซาก้า – อังกฤษ

ทีมชาติอังกฤษ ชุดนี้ต่างก็เต็มไปด้วยนักเตะที่ฝีเท้าดีมากมาย เรียกได้ว่าชื่อชั้นของแต่ละคนสามารถเป็นตัวจริงให้กับทีมได้เลยจริงๆ แต่ในทางกลับกันเรื่องการแข่งขันมันก็สูงตามไปด้วย โดยในตำแหน่งแนวรุกตัวของ บูกาโย่ ซาก้า ดาวรุ่งพุ่งแรงจากค่าย “ปืนใหญ่” ค่อนข้างได้รับคำชมเยอะมากในทัวร์นาเมนต์ ยูโร 2020 ถึงแม้จะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงแค่ 2 นัดเท่านั้นก็ตาม

ซาก้า ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงแบบเซอร์ไพรส์แทนที่ ฟิล โฟเด้น ในเกมที่เจอกับ เช็ก แต่เขาก็ไม่ได้ทำให้แฟนๆ รู้สึกผิดหวังเลย สังเกตได้จากความมั่นใจยามได้บอล ครองบอลเก็บบอลได้ สามารถทำทางและสร้างจังหวะให้เพื่อนร่วมทีมได้หลายครั้ง ด้วยเรื่องของความรวดเร็วคล่องตัวมันสร้างปัญหาให้แนวรับของคู่แข่งได้เยอะมากๆ ทั้งจังหวะโอเพ่นเพลย์และเกมสวนกลับ เช่นเดียวกับเกมกับ เยอรมัน บูกาโย่ ซาก้า ก็รักษามาตรฐานตัวเองได้ดี และโดดเด่นใช้ได้เลย

ดานี่ โอลโม่ – สเปน

ดานี่ โอลโม่ – สเปน

ถัดจาก เฟร์ราน ตอร์เรส มาดูกันที่อีกหนึ่งแนวรุกอย่าง ดานี่ โอลโม่ กันบ้าง เพราะนี่ก็คือดาวรุ่งอีกคนที่ฉายแววได้สะดุดตาเหมือนกัน ถึงโอกาสการลงสนามจะเป็นสำรองบ้าง ตัวจริงบ้าง แต่ก็ถือว่ามีบทบาทกับการสร้างสรรค์เกมรุกของทัพ “กระทิงดุ” ไม่ใช่น้อยเลย โดยเฉพาะจังหวะจากแนวริมเส้นไม่ว่าจะเป็นการลากตัดเข้าในเพื่อสร้างจังหวะต่างๆ หรือแม้กระทั่งลูกครอสส์ขอบอกเลยว่าสามารถหวังผลได้เลย

เกมที่ต้องห้ำหั่นกับ โครเอเชีย จนถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ ก่อนที่ สเปน จะเป็นฝ่ายเอาชนะไป 5-3 ดานี่ โอลโม่ ลงมาเป็นสำรองในเกมนั้นและช่วยยกระดับเกมรุกของ สเปน ขึ้นมาได้ค่อนข้างชัด และที่สำคัญคือประตูที่ 4 และ 5 เขาคนนี้ก็เป็นคนทำแอสซิสต์ทั้ง 2 ลูกเลย ตลอดจนเกมรอบรองฯ กับ อิตาลี บอลจากเท้าของเขาก็มีช็อตสร้างโอกาสสวยๆ งามๆ ให้เห็นเหมือนซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการทำ 1 แอสซิสต์ช่วยให้ สเปน ไม่แพ้ในช่วง 90 นาที แต่สุดท้ายมันจะก็ไม่สวยเท่าไหร่ เพราะการที่ สเปน ต้องตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย ดานี่ โอลโม่ คนนี้ก็เป็นหนึ่งในคนที่สังหารจุดโทษพลาดเช่นกัน

เปดรี้ – สเปน 

เปดรี้ – สเปน

มาถึงน้องเล็กของ สเปน กันบ้างอย่าง เปดรี้ นี่คือทัวร์นาเมนต์ใหญ่ครั้งแรกในชีวิตของเขาเลย การได้ลงสนามในเกมเปิดสนามที่เจอกับ สวีเดน นั่นทำให้ เปดรี้ กลายเป็นผู้เล่นของ สเปน ที่อายุน้อยสุดที่ได้ลงเล่นในประวัติศาสตร์ศึก ยูโร ที่ตัวเลข 18 ปี 6 เดือน กับอีก 18 วัน ถึงประสบการณ์จะน้อยกว่าใคร แต่ขอบอกเลยว่าผลงานในสนามจัดว่าโดดเด่นเป็นเบอร์ต้นๆ ของทีม โดยเฉพาะเกมตรงกลางสนามกับบทบาทการพาบอลขับเคลื่อนเกมไปข้างหน้า เทคนิคดี ไปกับบอลได้ดี จังหวะเข้าทำของ สเปน ในหลายๆ ครั้งบอลก็เริ่มมาจากที่เด็กคนนี้เหมือนกัน ดูแล้วอนาคตไกลแน่ถ้ายังรักษามาตรฐานได้ดีแบบนี้ต่อไป

เฟเดริโก้ เคียซ่า – อิตาลี

เฟเดริโก้ เคียซ่า – อิตาลี

เฟเดริโก้ เคียซ่า ออกสตาร์ทตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มด้วยการเป็นตัวรองอยู่ 2 นัด ก่อนจะได้มาเล่นเต็มๆ เกมครั้งแรกในศึก ยูโร 2020 คือนัดที่เชือด เวลส์ ไป 1-0 ถึงจะไม่ได้มีชื่อเป็นคนทำประตู แต่เกมนั้นพี่แกเป็นคนคว้ารางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปครองจากการแสดงความโดดเด่นในเรื่องทักษะเฉพาะตัวกับการเล่นเกมรุก และสร้างปัญหาให้กับคู่แข่งได้ตลอดทั้งเกมทั้งเกมสวนกลับและจังหวะโอเพ่นเพลย์

ถัดมาที่รอบน็อคเอาท์บทบาทของ เฟเดริโก้ เคียซ่า ค่อนข้างชัดขึ้นแถมยังทวีคูณเรื่องความอันตรายมากขึ้นไปอีก และก็มักให้ความรู้สึกที่วูบวาบเสมอยามไปกับบอลและลีลาการกระชากลากเลื้อย ก่อนจะมีชื่อใส่สกอร์ได้ในเกมที่ อิตาลี เฉือนเอาชนะ ออสเตรีย ไปแบบหวุดหวิด 2-1 ตลอดจนเกมล่าสุดในรอบรองชนะเลิศ เฟเดริโก้ เคียซ่า ก็ยังคงเป็นโจทย์ยากสำหรับแนวรับของ สเปน แถมยังเป็นคนซัลโวส่งบอลซุกก้นตาข่ายไปอย่างสวยงามให้ทีมขึ้นนำอีกด้วย ก่อนจะจบลงด้วยการพา อิตาลี ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปลุ้นแชมป์สมัยที่ 2 ต่อจากปี 1968

ข่าวบอลล่าสุด