ใครคือ ผู้ชนะ – ผู้แพ้ ในตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ ปี 2021

ข่าวฟุตบอล

ปิดฉากกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ปี 2021 เรื่องใครย้ายไปไหนเชื่อว่าทุกท่านน่าจะทราบกันไปหมดแล้ว

ส่วนเรื่องใครสมหวัง ? ใครผิดหวัง ? ก็อีกเรื่องหนึ่ง และนั่นก็คือสิ่งที่ทางเราจะมาพูดถึงกันในวันนี้กับท็อปปิคที่ว่า “ใครกันคือ ผู้แพ้ และ ผู้ชนะ ในตลาดซื้อขายช่วงซัมเมอร์ปี 2021”

บาร์เซโลน่า – ผู้แพ้

บาร์เซโลน่า – ผู้แพ้

ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 2 ปีที่แล้วจากการเปิดเผยของ Deloitte Money Football League ว่ากันว่า บาร์เซโลน่า คือสโมสรที่ทำรายได้มากที่สุดเป็นสุดยอดสถิติที่ 840.1 ล้านยูโร แต่พอตัดภาพกลับมาตอนนี้พวกเขาคือสโมสรที่มีหนี้สินค้างท่วมหัวกว่า 1300 ล้านยูโร

ในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 แน่นอนว่าทุกสโมสรต่างได้รับผลกระทบกันทั้งนั้น แต่จริงๆ โควิด ไม่ใช่ปัญหาที่หนักหนาสาหัสสำหรับ บาร์เซโลน่า เพราะหลักๆ ปัญหาส่วนใหญ่เกินกว่าครึ่งมันมาจากการวางงานของอดีตประธานคนเก่ามากกว่านั่นก็คือ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว และค่าใช้จ่ายทั้งหมดของสโมสรเกินกว่า 70 เปอร์เซนต์ต่อปีมาจากการจ่ายค่าเหนื่อยให้กับนักเตะ จะเรียกว่ามันคือความประมาททางด้านการเงินก็ว่าได้ซึ่งแน่นอนว่า บาร์โตเมว มีส่วนกับเรื่องนี้เต็มๆ

จากความพังทลายที่เกิดขึ้นมันทำให้พวกเขาต้องสูญเสียผู้เล่นที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของสโมสรอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ โดยใช้เหตุ และเป็นการเสียให้กับคู่แข่งบนเวทียุโรปอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่ตอนนี้ทรัพยากรของพวกเขาเต็มไปด้วยแข้งบิ๊กเนมซูเปอร์สตาร์มากมาย จัดได้ว่าเป็นสโมสรที่น่ากลัวที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้

นอกจากการเสียยอดนักเตะเบอร์ 1 ของโลกอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ไปแล้วปัญหาภายในที่ บาร์เซโลน่า ต้องดันทุรังอย่างหนักก็คือการจัดการกับร่ายจ่ายและเพดานค่าเหนื่อยภายในทีม ว่ากันว่านักเตะในทีมต่างยอมสละค่าเหนื่อยของตัวเองแบบหั่นแล้วหั่นอีกเพื่อที่จะรักษาสมดุลให้สโมสรสามารถไปต่อได้ซึ่งหนึ่งในนั้นก็เป็นการทำเพื่อให้นักเตะใหม่ๆ อย่าง เมมฟิส เดปาย, เซร์คิโอ อเกวโร่ และ เอริค การ์เซีย ได้ลงทะเบียนลงเล่นสำหรับฤดูกาลนี้

เท่านั้นยังไม่พอเพราะในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขาย บาร์เซโลน่า ยังต้องเสีย อองตวน กรีซมันน์ คืนให้กับทีมเก่า แอตเลติโก มาดริด ก่อนจะไปได้ ลุค เดอ ยอง มาเป็นตัวแทน ขอบอกเลยว่ามันไม่ได้ดูดีเท่าไหร่เลย เพราะนี่คือกองหน้าที่ซัดไปแค่ 10 ประตูเท่านั้นจากการลงเล่น 69 เกมใน ลา ลีกา ขอบอกเลยว่าตอนนี้ บาร์เซโลน่า ไม่มีเค้าโครงของการเป็นสุดยอดทีมหลงเหลืออยู่เลย จากสโมสรที่ได้ชื่อว่าเป็นโคตรทีมยักษ์ใหญ่ตอนนี้ได้กลายเป็นแค่ทีมที่โดนแฟนทีมอื่นล้อแทนซะแล้ว

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง – ผู้ชนะ

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง – ผู้ชนะ

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ได้ชื่อว่าเป็น เดอะ คิงส์ กับการเป็นผู้ชนะเลิศในตลาดซื้อขายรอบนี้อย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่การได้ตัวละคนแรงก์ SS อย่าง ลิโอเนล เมสซี่ เท่านั้น แต่พวกเขายังจัดการเสริมทัพด้วยแข้งฝีเท้าดีๆ อีกมากไม่ว่าจะเป็น จานลุยจิ ดอนนารุมม่า, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, เซร์คิโอ รามอส และ อาชาร์ฟ ฮาคิมี่ เรียกได้ว่าเป็นตัวท็อปทั้งนั้นเลยจริงๆ

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเหล่าบรรดาแข้งใหม่ได้มาผนึกกำลังกับนักเตะที่มีอยู่มันทำให้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง กลายเป็นสโมสรที่ดีที่สุดในโลก ณ ตอนนี้ แต่ละตำแหน่งนั้นก็เต็มเปี่ยมไปด้วยแข้งระดับเวิลด์คลาส ขนาดตัวของ โชเซ่ มูรินโญ่ ยังให้สัมภาษณ์เลยว่า “คุณพอจะรู้ไหมว่ามีโค้ชคนไหนบ้างที่พอใจกับทีมของตัวเองมากที่สุด ? บางทีคนๆ นั้นอาจจะเป็น เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่”

อย่างไรก็ตามจากการเสริมทัพขนานหนักของ เปแอสเช ที่เกินหน้าเกินตาคู่แข่งทีมอื่นๆ มันกลับสร้างแรงกดดันอย่างมหาศาลให้กับ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ถ้าปีนี้เจ้าตัวไม่สามารถพา ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เถลิงบัลลังก์แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ คำเดียวที่พวกเขาต้องเจอก็คงไม่พ้นคำว่า “ความล้มเหลว”

แฮร์รี่ เคน กับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า – ผู้แพ้

แฮร์รี่ เคน กับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า – ผู้แพ้

ค่อนข้างชัดเจนว่า แฮร์รี่ เคน นั้นต้องการไปจาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เพื่อความสำเร็จในเรื่องของถ้วยแชมป์ และมันก็มีโอกาสอันดีด้วย เพราะทาง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็หมายมั่นปั่นมือและแสดงออกให้เห็นชัดๆ ว่าพวกเขาก็อยากได้ตัวมารับช่วงต่อในบทบาทการระเบิดสกอร์แทนที่ เซร์คิโอ อเกวโร่ เหมือนกัน

แต่ด้วยความที่เป็นของรักของหวงของ สเปอร์ส ทางประธานสโมสรอย่าง แดเนี่ยล เลวี่ ก็ปฏิเสธไม่ขาย แฮร์รี่ เคน ให้กับใครทั้งนั้น ถึง แฮร์รี่ เคน จะกลับมาลงสนามให้กับทีม และได้รับการต้อนรับที่ดีอีกครั้งจากหมู่แฟนบอล ตลอดจนสถานการณ์ ณ ปัจจุบันที่รั้งจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก แต่เพียงผู้เดียว อย่างไรก็ตามการจะแย่งพื้นที่ท็อปโฟร์จากพวก แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี ก็ยังถือเป็นเรื่องที่ยาก หากวัดกันในเรื่องของชื่อชั้นและศักยภาพทีมในตอนนี้

ถ้าพูดถึงโอกาสการย้ายไป แมนฯ ซิตี้ ไม่รู้ว่าช่วงซัมเมอร์ปีหน้ามันจะมีโอกาสแบบนี้อีกไหม ? เพราะ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของพวกเขาก็อาจจะกลายเป็นเป้าหมายหลักก็เป็นได้ โดยมีปัจจัยหลักๆ มาจากค่าฉีกสัญญาที่แสนถูกที่ 70 ล้านยูโร และตอนนี้เงื่อนไขดังกล่าวก็มีผลใช้งานแล้วด้วย เมื่อเทียบกับค่าตัวของ แฮร์รี่ เคน แล้วขอบอกเลยว่าคนละเรื่องเลย ดังนั้นเมื่อ แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสได้นักเตะที่อายุน้อยกว่า แต่ฟอร์มโหดพอๆ กัน บางทีพวกเขาอาจจะเลือกหันไปโฟกัสกับทางนั้นมากกว่า

แต่นั่นก็เป็นเรื่องของอนาคตซึ่งเป้นสิ่งที่เราไม่สามารถรู้ได้ แต่ถ้าดูจากสถานการณ์ปัจจุบันแล้วในเหล่าบรรดาตัวเอกของเรื่องนี้ดูเหมือนท่านประธานสโมสร แดเนี่ยล เลวี่ จะเป็นเพียงแค่คนเดียวที่สมหวังและยิ้มได้อย่างสบายใจกับดีลของ แฮร์รี่ เคน

บาเยิร์น มิวนิค – ผู้ชนะ 

บาเยิร์น มิวนิค – ผู้ชนะ 

บาเยิร์น มิวนิค นั้นมักจะมีการเสริมทัพที่ดี ตรงจุดอยู่แล้ว ในแต่ละปีของตลาดซื้อขายนักเตะ โดยเฉพาะการกว้านหานักเตะฝีเท้าดี ราคาไม่แรงเวอร์ จากศึก บุนเดสลีกา อย่างคราวนี้ก็ได้มาทั้ง มาร์เซล ซาบิตเซอรื , ดาโยต์ อูปาแมร์กาโน่ รวมไปถึงดึงโค้ชอย่าง ยูเลียนส์ นาเกลส์มันน์ จากไลป์ซิก เข้ามาคุม ก็เหมือนกับการการันตีกลาย ๆ ว่า พวกเขาน่าจะครองเยอรมันได้อีกปี 

ส่วนขาออกการจากไปของ ดาวิด อลาบา อาจจะดูเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ เพราะนี่คือนักเตะที่จัดว่าครบเครื่องสมบูรณ์แบบที่สุดคนหนึ่ง แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าเสียดายเท่าไหร่ เพราะอย่างน้อยก็ได้ อูปาเมกาโน่ มาเป็นตัวแทน มิหนำซ้ำยังเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี เพราะ อลาบา ก็จัดว่าเป็นนักเตะที่รับค่าเหนื่อยแพงหูฉี่มากๆ คนหนึ่ง

ถ้าจะพูดถึงข่าวดีที่สุดก็คงเป็นการที่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยังอยู่ค้าแข้งกับทีมต่อไป เพราะก่อนหน้านี้ก็มีสื่อแว่วๆ มาเหมือนกันว่า พี่แกเริ่มมองถึงความท้าทายครั้งใหม่ในต่างแดน โดยมี เชลซี ที่หมายมั่นปั้นมือว่าจะเอาให้ได้เหมือนกัน แต่สุดท้ายเรื่องนี้ก็จบสวยเพราะสโมสรจากรุงลอนดอนก็หันไปกระชากตัว โรเมลู ลูกากู แทน

ดังนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกถ้า บาเยิร์น มิวนิค จะถูกมองว่าเป็น ผู้ชนะ ในตลาดรอบนี้ ไม่ว่าจะเป็นการได้โค้ชดีๆ ได้นักเตะเจ๋งๆ ตลอดจนการไม่เสีย เลวานดอฟสกี้ และตอนนี้พวกเขาก็ยังคงแข็งแกร่งและไร้เทียมทานบนเวที บุนเดสลีกา ดูแล้วเรื่องของความสำเร็จก็ยังได้ลุ้นแบบเต็มตัวเหมือนเดิมในทุกๆ รายการ

คิเลียน เอ็มบัปเป้ – ผู้แพ้

คิเลียน เอ็มบัปเป้ – ผู้แพ้

คิเลียน เอ็มบัปเป้ คงเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกผิดหวังกับตลาดรอบนี้ไม่น้อยไปกว่าใครเลยจริงๆ จากการชวดโอกาสย้ายไปทำตามฝันที่ เรอัล มาดริด ทั้งที่ทางผู้อำนวยการกีฬาอย่าง เลโอนาร์โด้ ก็ออกมายืนยันชัดเจนว่า ใจของไอ้เด็กปีศาจคนนี้ลอยไปอยู่กับ “ราชันชุดขาว” เรียบร้อยแล้ว

ไม่ใช่ว่า ปารีส แซงต์-แชร์กแมง จะกั๊กไม่ยอมปล่อย เอ็มบัปเป้ ให้ เรอัล มาดริด นะ แต่ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับข้อเสนอ เพราะทางสโมสรก็ประกาศชัดแล้วว่าพวกเขาจะพร้อมรับฟังข้อเสนอก็ต่อเมื่อได้ค่าตัวในระดับ 220 ล้านยูโรเท่านั้น ซึ่งเป็นตัวเลขที่ เรอัล มาดริด สู้ไม่ไหวจริงๆ กับสัญญาที่เหลือแค่ 1 ปี รวมไปถึงสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19

อย่างไรก็ตามด้วยความที่ คิเลียน เอ็มบัปเป้ เหลือสัญญาอีก 1 ปี พร้อมกับประกาศชัดว่าไม่ต่อสัญญาใหม่ ดูแล้ว เรอัล มาดริด คงเปิดฉากเจรจาอีกรอบในตลาดหน้าหนาว เพื่อหวังได้ตัวมาในราคาที่ถูกลง หรือไม่ก็ได้มาแบบฟรีๆ ถ้าอยู่จนปิดซีซั่น แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ในโลกของฟุตบอล ถ้าเกิด เอ็มบัปเป้ เกิดเปลี่ยนใจ เล่นได้เข้าขากับ ลิโอเนล เมสซี่ จนเกิดความสนุกและความหวังในการลุ้นแชมป์ บางทีการต่อสัญญาฉบับใหม่อาจเกิดขึ้นก็เป็นได้ 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – ผู้ชนะ

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – ผู้ชนะ

ตลาดช่วงซัมเมอร์ปี 2021 น่าจะเป็นตลาดที่มอบรอยยิ้มให้กับเหล่าบรรดาสาวก “เร้ด เดวิลส์” ได้มากที่สุดในรอบหนึ่งศตวรรษเลยก็เป็นได้ เพราะการได้ตัว ราฟาเอล วาราน ที่ได้ชื่อว่าเป็นกองหลังที่ดีที่สุดคนหนึ่งในยุคนี้ รวมไปถึง จาดอน ซานโช่ นี่ก็ได้ชื่อเป็นพ่อค้าแข้งมากพรสวรรค์ มีสกิลการสร้างสรรค์เกมที่สุดยอดที่สุดคนหนึ่งในยุคนี้เหมือนกัน

แต่มันยังไม่จบแค่นั้นนะ เพราะบุคลากรทุกคนที่เกี่ยวข้องกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่างก็มีความสุขแบบหยุดไม่อยู่จนหาคำบรรยายไม่ได้จริงๆ จากการที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้ตัดสินใจกลับมาสร้างตำนานขีดเขียนเรื่องราวของตัวเองอีกครั้งที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แบบที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน นับเป็นการจุดประกายความหวังเรื่องการลุ้นความสำเร็จให้กับสโมสร หลังต้องตกเป็นเบี้ยล่างให้ 2 ทีมคู่อริอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ตลอดหลายปีที่ผ่านมา 

การกลับมาของ เจ้าของโค้ดเนม CR7 ไม่ได้ส่งผลดีแค่ในสนามเท่านั้น เพราะด้านนอกสนามในเรื่องของเม็ดเงินพี่แกก็มีส่วนช่วยฟันกำไรให้สโมสรได้มากมายมหาศาลเหมือนกัน นับเป็นเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงซีซั่น ส่วนเรื่องของความสำเร็จจะบรรลุได้ตามเป้าที่หวังไหมอันนี้ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ คือปีนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่โหดขึ้นกว่าที่ผ่านๆ มาเยอะขึ้นเป็นหลายเท่าตัวเลยจริงๆ

ข่าวบอลล่าสุด