โซลชา ที่อาจทำให้พา แมนยู ไปไม่ถึงฝั่งฝัน

ข่าวฟุตบอล แมนยู

เป็นอีกครั้งที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การบัญชาเกมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เกิดประเด็นให้แฟนบอลได้วิจารณ์กันอย่างจงหนัก ภายหลังบุกไปพ่ายต่อ ยัง บอยส์ 2-1 ในเกมนัดเปิดสนามศึก แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม

ซึ่งจะว่าไปผลการแข่งที่ออกมา กับความพ่ายแพ้ของทัพ “ปีศาจแดง” มันคงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกอะไร แม้ก่อนเกมการแข่งขันพวกเขาจะถูกยกให้เป็นต่อ และคู่ควรกับทีมที่ถูกยกเป็นฝ่ายชนะมากกว่าก็ตาม 

แต่ทว่าบนความพ่ายแพ้มันกลับมีเรื่องราวมากมายที่ไม่ค่อยถูกใจแฟนบอล และขัดใจอยู่ในหลายๆ ประเด็น โดยเฉพาะตัวของกุนซืออย่าง โซลชา ทั้งการปรับแท็คติกหลังทีมเหลือผู้เล่น 10 คนตั้งแต่ช่วงกลางครึ่งแรก รวมไปถึงการเปลี่ยนตัวที่ทำเอาแฟนบอลเกาหัวงงกันไปเป็นแถบๆ ว่าเหตุใดจึงเอาตัวความหวังในการผลิตสกอร์อย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หรือ บรูโน่ แฟร์นานเดส ไปนั่งจับเจ่าอยู่ข้างสนามเสียอย่างงั้น

ทำให้จุดนี้ทำให้แฟนบอลเริ่มหันกลับมาตั้งคำถามในตัวของ โซลชา อีกครั้ง ถึงกึ๋นในการแก้เกมว่ามีดีพอมากขนาดไหน ในสถานการณ์ที่เขาเองควรจะงัดกลยุทธ์เด็ดๆ เพื่อพาทีมรอดพ้น และได้ผลการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมกลับออกมา

โซลชา ที่อาจทำให้พา แมนยู ไปไม่ถึงฝั่งฝัน 02

ขออนุญาตพาทุกท่านนั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปช่วงที่ โซลชา เข้ามารักษาการตำแหน่งกุนซือเมื่อช่วงปลายปี 2018 สิ่งที่สังเกตุได้แบบเห็นชัดเลยว่านายใหญ่ผู้นี้จัดทีม วางแท็คติก ในรูปแบบที่กล้าได้ กล้าเสีย เหมือนไม่มีความกดดันวางอยู่บนบ่าทั้ง 2 ข้าง มันเลยทำให้แฟนบอล ยูไนเต็ด รับรู้ถึงความดุดัน สไตล์การเล่นที่เดินหน้าโขยกฆ่ามันให้ตายไปข้าง 

แต่ทว่าภาพเหล่านั้นมันเริ่มที่จะจางหายไปภายหลังที่ทางสโมสรบรรจงมอบสัญญาถาวรให้เขาคุมทีม ไอ้ความเด็ดขาดที่เคยมี ไอ้ความกล้าที่จะเสี่ยงแลกกับผลการแข่งขันที่ต้องการมันหายไปโดยปริยาย

ซึ่งสิ่งเหล่านี้กลายเป็นภาพชินตาของแฟนบอลไปแล้วเพราะเมื่อถึงช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อที่มีผลต่อเกมในสนามเรามักจะเห็น โซลชา คิดเยอะ คิดมาก จนกลายเป็นส่งผลเสียกับทีม และกลายเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปซะเอง

จะว่าไปสิ่งเหล่านั้นน่าจะเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับเขาเช่นกัน และ โซลชา น่าจะเรียนรู้จากความผิดหวัง ความพ่ายแพ้ และเสียงวิจารณ์จากแฟนบอลได้เป็นอย่างดี โอเคแหละว่าสิ่งที่เขาปรับเปลี่ยนมันก็มี แต่บางทีสิ่งที่เขาเองยังคงดื้อรั้นอยู่กับวังวนเดิมๆ ไม่ลองมูฟออนหาสิ่งใหม่ๆ บ้าง มันจึงย้อนกลับมาทิ่มแทงตัวเขาอยู่จนถึงทุกวันนี้

ความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่าเริ่มเข้ามาทักทายบ่อยครั้งโดยเฉพาะเรื่องของการไร้โทรฟี่แชมป์ติดมือ นับมาจนถึงตรงนี้ โซลชา นั่งบนเก้าอี้นายใหญ่มากำลังจะครบ 3 ปี ในกี่ไม่กี่เดือนหน้าข้างหน้า ฉะนั้นเขาเองก็รู้ว่าสิ่งสำคัญที่ทีม และแฟนบอลในตอนนี้ต้องการอะไร และเขาต้องทำอย่างไรเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย

ในช่วงขวบปีที่ผ่านมามันอาจจะมีข้อขัดแย้งต่างๆ มากมายว่าทีมขาดนักเตะในตำแหน่งตรงนั้น หรือตำแหน่งตรงนี้ควรได้รับการแก้ไข ซึ่งเหล่าข้ออ้างทั้งหมดเมื่อมาถึงตรงนี้มันควรจะไม่มีเกิดขึ้นอีกแล้ว

ทีมขาดปีกขวาก็จัด ซานโช่ มาให้, ทีมขาดเซ็นเตอร์ฮาร์ฟดีๆ ก็ไปสอย วาราน มาให้ หรือ ขาดกองหน้าประเภทจบสกอร์แบบเฉียบๆ หรอ? โรนัลโด้ นั้นไง ไปดึงตัวกลับมาให้แล้ว

ฉะนั้นถ้าจะบอกว่านี่คือขุมกำลังชุดที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ครั้งสุดท้ายก็ย่อมได้ ทุกตำแหน่งการันตีดีกรีด้วยตัวของนักเตะเองแทบทั้งนั้น แต่ทว่าสิ่งที่เหนือไปกว่าฝีเท้าของนักเตะกลุ่มนั้น ก็คือคนที่ควบคุมพวกเขาว่าจะนำวัตถุดิบเหล่านี้มาผสม และคลุกเคล้าให้เข้ากันได้มากขนาดไหน 

ถ้าถามว่า โซลา เป็นกุนซือที่ดีไหม? กล้ายกมือตอบแบบชัดเจนเลยครับว่าเขาคือเจ้านายที่ดูแลลูกน้องดีมากๆ ไม่เคยมีอะไรเสียหายตกไปถึงลูกน้องเลย และพร้อมกางแขนปกป้องอยู่เสมอ

แต่ถ้าถามว่าเป็นกุนซือที่เก่งไหม? มันก็ยังคงต้องให้เวลาพิสูจน์ต่อไป แม้ที่ผ่านมาเวลาในเส้นทางการคุมทีมของ โซลชา จะเนิ่นนานเกินเวลามา 10 ปี เต็มแล้วก็ตาม

โซลชา ที่อาจทำให้พา แมนยู ไปไม่ถึงฝั่งฝัน 03

ย้อนกลับไปพูดถึงด้วยขุมกำลังของพวกเขาในฤดูกาลนี้  มันไม่แปลกเลยถ้าสโมสรจะถูกยกย่องให้กลายเป็นตัวเต็งในทุกรายการที่ลงเล่น แต่ทว่ากับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มันไม่ใช่แบบนั้น สิ่งสำคัญที่ทำให้เหล่าร้านรับพนันแบบถูกกฎหมาย หรือนักวิจารณ์ด้อยค่า แมนฯ ยูไนเต็ด คือตัวของกุนซือนี่แหละที่ยังคงเป็นคำถามตัวใหญ่ให้ได้สงสัย

ถามว่าทำไมต้องด้อยค่า โซลชา ด้วยล่ะ ? …

ยกตัวอย่างง่ายๆ ในเกมล่าสุดที่พ่ายให้กับ ยัง บอยส์ โอเคแหละครับด้วยสถานการณ์ที่เหลือ 10 คนตั้งแต่ยังไม่จบครึ่งแรก ทำให้ต้องการปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่น แต่ทว่าการปรับหมากในครั้งนั้นดูเหมือนจะเป็นหอกที่กลับมาทิ่มแทงตัวเองเสียมากกว่า

คู่แข่งตรงหน้าที่ โซลชา กำลังเผชิญอยู่คือ ยัง บอยส์ หาใช่ทีมชั้นนำอย่าง บาเยิร์น หรือ เปแอสเช ที่ต้องถอยไปตั้งรับอยู่หน้าเขตโทษตัวเอง ชนิดที่โงหัวไม่ขึ้นโดนเจ้าบ้านกดจนหาทางเล่นเกมบุกไม่ได้เลย การเปลี่ยนทั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ บรูโน่ แฟร์นาเดส ออก มันแสดงให้เห็นถึง “คลาส” และ “กึ๋น” ของกุนซือว่าดีมากขนาดไหน

ในสถานการณ์แบบนี้ตัวกุนซือมีส่วนมากนะครับในการกำหนดทิศทางการเล่น ซึ่ง โซลชา เลือกที่จะเล่นตั้งรับ พร้อมถอดนักเตะที่อันตรายมากที่สุดในทีมออกมามันดูจะเป็นแนวทางที่ขัดกับความต้องการของแฟนบอลมากพอควร โอเคว่าเล่นตั้งรับ แต่พี่ไม่คิดจะเล่นโต้กลับหวังทำประตูเลยหรอ ?

แม้จะมีข้อโต้เถียงว่าถ้า ลินการ์ด ไม่ส่งบอลทะเล่อทะล่ากลับไปแบบนั้นก็ได้ 1 คะแนนแล้ว… แต่รายละเอียกที่อยู่ในเกมมันก็คู่ควรแล้วแหละกับความพ่ายแพ้ เพราะแม้จะกุนซือของทีมยังไม่คิดถึงเรื่องของการเก็บชัยชนะเลย

นี่แหละครับสิ่งที่แฟนผีกังวลมากที่สุดคือความคิด และแท็คติดของนายใหญ่ทีมตัวเองที่ไม่รู้ว่าวันนี้จะผีเข้า หรือผีออก ฉะนั้นมันเลยหาความคงเส้นคงวาไม่ได้เสียที และยิ่งเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ มันก็เหมือนไม่ได้พัฒนาไปข้างหน้าแม้จะมีแข้งระดับพระกาฬอยู่เต็มทีมก็ตาม

บนชัยชนะที่สวยงามในเกมที่พบกับ นิวคาสเซิ่ล ไม่เถียงเลยว่ามันคือเกมที่กองทัพ “ปีศาจแดง” มีผลงานที่สุดแสนสะเด่ามากเหลือเกิน แต่ในอีกไม่กี่วันต่อมาผลงานของพวกเขากลับดิ่งลงเหวแบบไร้ซึ่งความเข้าใจ เรียนตามตรงแบบนี้มันคือการวนลูปเดิมๆ เข้าใจว่าเมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่ไม่สวยงามกำลังใจคือสิ่งสำคัญ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือการเรียนรู้ เพื่อไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นอีก 

ทีมที่กล้าจะประกาศศักดาเดินหน้าคว้าแชมป์เหตุการณ์ในลักษณะนี้มันไม่ควรเกิดขึ้นแบบช้ำๆ เดิมๆ จนบ่อยเกินไป เพราะการที่จะพุ่งชนความสำเร็จคุณย่อมต้องมีมาตรฐานที่ไม่ตกหล่น หรือการแก้เกมแบบมีคลาส จากกุนซือข้างสนาม ยกตัวอย่างให้พอเห็นภาพอย่าง โธมัส ทูเคิ่ล ที่ยื้อ 1 คะแนน จากการบุกไปเยือนแอนฟิลด์ทั้งที่พวกเขาต้องเล่น 10 คน ถึง 45 นาที

จากความพ่ายแพ้ขบวนล่าสุดมันไม่ใช่เครื่องวัดว่า โซลชา จะอยู่ในตำแหน่งต่อไปหรือไม่ แต่มันคือบทพิสูจน์ที่ทำให้เห็นเด่นชัดว่าในช่วงเวลาสำคัญ ที่ทีมต้องการผลการแข่งขันที่ดี โซลชา ยังจัดการ และตัดสินใจบางอย่างกับมันได้ไม่ดีพอเท่านั้นเอง

แน่นอนครับจากที่ร่ายยาวมาทั้งหมดผมไม่สามารถยกยอตัวเองว่าเก่งกว่าโค้ชได้อย่างแน่นอน แต่สิ่งที่พูดมาทั้งหมดมันคึอสิ่งที่ประจักษ์เด่นเห็นได้ชัดเลยถึงสถานการณ์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในห้วงยามนี้ 

พูดตามตรงถ้า แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดนี้ถ้าคาดหวังว่าจะไล่ล่าเพียงท็อปโฟร์เพื่อไปเล่นบอลถ้วยใหญ่ยุโรป พวกเขาทำภารกิจได้แน่ 

แต่ถ้าหวังสูงไปมากกว่านั้นถึงขั้นเอื้อมมือไปหยิบโทรฟี่แชมป์ เรียนตามตรงด้วยความเคารพเรายังนึกภาพแบบนั้นไม่ออกจริงๆ

เพราะอะไรน่ะหรอ? เพราะบางทีกุนซือที่ “ดี” กับกุนซือที่ “เก่ง” มันมีเพียงเส้นบางๆ ขีดขั้นเอาไว้เท่านั้นเอง

ข่าวบอลล่าสุด