ศึก ยูโร 2020 นับเป็นสังเวียนที่ทำให้นักเตะหลายๆ คนแจ้งเกิดจนเป็นที่รู้จักซึ่งตอนนี้หนึ่งในคนที่กำลังที่ถูกพูดถึงมากๆ เลยก็คือ เฟเดริโก้ เคียซ่า
ในเมื่อเจ้าตัวได้ชื่อว่าเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยพา ทีมชาติอิตาลี เถลิงบัลลงก์แชมป์ ยูโร 2020 หนนี้ ดังนั้นวันนี้สิ่งที่อยากนำเสนอก็คือ การพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับผู้ชายคนนี้ที่ชื่อ เฟเดริโก้ เคียซ่า ให้มากขึ้นกัน
ประวัติพอสังเขป
เฟเดริโก้ เคียซ่า เกิดวันที่ 25 ตุลาคม ปี 1997 ที่ ประเทศอิตาลี ปัจจุบันอายุ 23 ปี เป็นชาวอิตาเลี่ยนแท้ๆ 100 เปอร์เซนต์ ส่วนสูง 175 เซนติเมตร หรือ 5 ฟุต 9 นิ้ว ถนัดเท้าขวา ประจำการในตำแหน่งปีก สังกัดอยู่กับ ยูเวนตุส ได้สวมเสื้อหมายเลข 22
เส้นทางค้าแข้ง
เฟเดริโก้ เคียซ่า เริ่มต้นเส้นทางในระดับเยาวชนกับ เซตตินญาเนเซ่ เป็นสโมสรระดับท้องถิ่นของ เซตติญาโน่ ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของ เมืองฟลอเรนซ์ โดยอยู่ภายใต้การคุมทีมของโค้ชที่ชื่อ เคิร์ท ฮัมริน ที่ได้ชื่อว่าเป็นตำนานของสโมสร ฟิออเรนติน่า และก็นับเป็นจุดที่ทำให้เจ้าตัวยกระดับตัวเองและพัฒนาศักยภาพฝีเท้าขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ปี 2007 เฟเดริโก้ เคียซ่า จะได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในอคาเดมี่ของ ฟิออเรนติน่า
ครอบครัวนักฟุตบอล
เฟเดริโก้ เคียซ่า ก็เป็นนักฟุตบอลอีกคนที่เกิดในตระกูลนักฟุตบอล เพราะคุณพ่อของเขา เอ็นริโก้ เคียซ่า ก็เคยผ่านการค้าแข้งกับทีมดังๆ มามากไม่ว่าจะเป็น ซามพ์โดเรีย, ปาร์ม่า, ลาซิโอ้, ฟิออเรนติน่า และอีกมากมาย เคยคว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ 1 สมัย, ยูฟ่า คัพ 1 สมัย รวมไปถึง โคปปา อิตาเลีย อีก 2 สมัยเช่นกัน เคยติด ทีมชาติอิตาลี ช่วงปี 1996-2001 ได้ลงเล่นไป 22 เกม ยิงไป 7 ประตู
สมัยเป็นนักเตะของ ฟิออเรนติน่า เอ็นริโก้ เคียซ่า ซึ่งประจำการในตำแหน่งกองหน้าก็ถือว่าอยู่ในจุดที่พีคมากๆ โดยตลอด 3 ซีซั่น (1999-2002) เจ้าตัวได้ลงเล่นไปทั้งหมด 85 เกม ยิงได้ 45 ประตู โดยปีที่พีคทีสุดก็คือฤดูกาล 2000-01 ที่กดไปถึง 27 ประตูจากการลงเล่น 38 เกม
ฟิออเรนติน่า
หลังจากฉายแววได้ดีในระดับเยาวชน โดยเฉพาะในฤดูกาล 2014-15 กับทีมชุด ยู-19 ที่ซัดไป 7 ประตู นั่นทำให้ เฟเดริโก้ เคียซ่า ได้สัญญาอาชีพกับ ฟิออเรนติน่า ในปี 2016 และก็ได้ก้าวขึ้นไปเป็นหนึ่งในขุมกำลังของทีมชุดใหญ่ทันทีในยุคของ เปาโล ซูซ่า เขาได้เปิดตัวเกมแรกในนัดที่บุกไปแพ้ ยูเวนตุส 1-2 โดยได้ลงมาเป็นตัวสำรองแทนที่ คริสเตียน เตโย่
ด้วยแววที่ฉายออกมาได้เข้าตากรรมการสุดๆ นั่นจึงทำให้ เฟเดริโก้ เคียซ่า ได้โอกาสเป็นตัวจริงยาวๆ ส่วนประตูแรกในสีเสื้อทัพ “วิโอล่า” เกิดขึ้นในเกม ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ที่เปิดบ้านถล่ม คาราบัก ไป 2-1 ถ้าจะถามถึงประตูที่น่าจะจำสำหรับ เฟเดริโก้ เคียซ่า ก็คงเป็นประตูชัยที่ช่วยให้ ฟิออเรนติน่า เปิดบ้านเอาชนะ ยูเวนตุส ได้ 2-1 เมื่อช่วงต้นปี 2017 เบ็ดเสร็จซีซั่นแรกของพี่แกก็คือการได้โอกาสลงเล่นไป 34 นัด ยิงได้ 4 ประตู ทำได้ 3 แอสซิสต์ พร้อมกับได้สัญญาฉบับใหม่
นับตั้งแต่นั้นยิ่งเวลาผ่านมาเรื่องศักยภาพและทักษะฝีเท้าของ เฟเดริโก้ เคียซ่า ก็ยกระดับขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ผลงานในสนามก็ดูดีมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน โดยเฉพาะ 2 ฤดูกาลหลังสุดที่ กดไป 12 ประตู กดไป 5 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 41 ในซีซั่น 2018-19 และ 2019-20 ที่กดไปอีก 12 ประตูจากการลงเล่น 40 นัด และกดไปอีก 10 แอสซิสต์
ยูเวนตุส
ฤดูกาล 2020-21 เฟเดริโก้ เคียซ่า ได้เจอกับเส้นทางที่ก้าวหน้ามากขึ้น หลังได้เซ็นสัญญา 2 ปีเพื่อย้ายไปค้าแข้งกับ ยูเวนตุส ทว่าเป็นแค่ในรูปแบบการยืมตัวเท่านั้น แต่ก็มีเงื่อนไขในการซื้อขาดอยู่ที่ 40 ล้านยูโร เขาได้เปิดตัวเกมแรกในสีเสื้อ “ไอ้ม้าลาย” วันที่ 17 ตุลาคม โดยเป็นเกมที่เจอกับ โครโตเน่ และก็ประเดิมด้วยการจ่ายให้ อัลบาโร่ โมราต้า ทำประตูได้ แต่กลับโดนใบแดงไล่ออกจากเกมเช่นกัน
อีก 3 วันต่อมา เฟเดริโก้ เคียซ่า ได้ประเดิมสนามในศึก ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งแรกในชีวิตซึ่งเป็นเกมที่เจอกับ ดินาโม เคียฟ ซึ่งประตูเปิดซิงในรายการนี้ก็เกิดขึ้นในการเจอกับคู่แข่งทีมเดิม ทว่าเป็นเกมที่ออกไปเยือนในช่วงเดือนธันวาคมของปี 2020 ส่วนประตูแรกบนสังเวียน กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ในสีเสื้อ ยูเวนตุส เกิดขึ้นในเกมสำคัญที่เจอกับ อตาลันต้า เพียงไม่กี่วันหลังจากนั้น และก็เป็นลูกยิงไกลสุดสวยที่ช่วยให้ทีมไม่แพ้จากการเสมอไป 1-1 ด้วย
ถ้าจะถามถึงประตูที่ดีที่สุดที่ เคียซ่า ซัลโวให้ ยูเวนตุส ก็คงเป็นเกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอล โคปปา อิตาเลีย ที่ช่วยให้ อตาลันต้า เอาชนะไป 2-1 พร้อมกับคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ สรุปแล้วใน 1 ฤดูกาลอของ เฟเดริโก้ เคียซ่า กับ ยูเวนตุส คือการลงเล่นไป 43 เกม ยิงได้ 14 ประตู และกดไปอีก 10 แอสซิสต์ ดูทรงแล้ว ยูเวนตุส คงไม่ปล่อยให้ไอ้หมอนี่กลับไปเล่นให้ ฟิออเรนติน่า แล้วล่ะ
สไตล์การเล่น
เฟเดริโก้ เคียซ่า เป็นผู้เล่นในตำแหน่งปีกที่มีความครบเครื่องสูงเลยไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทักษะพรสวรรค์, มีความรวดเร็วคล่องตัวที่ดี ถึงรูปร่างจะไม่ได้สูงมากนักแต่ก็ไม่ใช่นักเตะที่บอบบางขนาดนั้น พี่แกไม่ใช่นักเตะที่โดดเด่นแค่ยามไปกับบอล หรือ กระชากลากเลื้อยอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีสกิลการสร้างสรรค์เกมที่ดีด้วยจากลูกครอสส์ เช่นเดียวกับการสร้างโอกาสในการพังประตูก็ถือเป็นนักเตะที่หาจังหวะจบได้ดีมากๆ เช่นกัน
เฟเดริโก้ เคียซ่า สามารถยืนเป็นปีกซ้ายหรือปีกขวาก็ได้ แต่ถ้าจะพูดถึงแอเรียที่พี่แกโปรดปรานมากจริงๆ ก็คงเป็นตำแหน่งปีกขวา ไม่ว่าจะเล่นในระบบบ 4-3-3, หรือ 4-2-3-1 ส่วนในระบบ 3-5-2 ด้วยความที่ เคียซ่า เป็นนักเตะในไทป์เวิร์คกิ้งฮาร์ดที่วิ่งได้ทั้งเกมไม่มีหมดมันก็ทำให้เขาโยกไปประจำการในตำแหน่งวิงแบ็กได้เช่นกัน
ทีมชาติ
มาดูในระดับนานาชาติกันบ้าง เฟเดริโก้ เคียซ่า ได้โอกาสติดธง ทีมชาติอิตาลี ครั้งแรกก็ตอนปี 2015 กับชุด ยู-19 และก็เป็นหนึ่งในขุนพลชุดตะลุยในทัวร์นาเมนต์ ยูฟ่า ยู-19 แชมเปี้ยนชิพ ปี 2016 ที่ เยอรมัน ก่อนจะปีต่อมาจะได้ขยับขึ้นไปเล่นให้ชุด ยู-21 ได้มีส่วนร่วมอีกครั้งใน ทัวร์นาเมนต์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนชิพ ปี 2017 แต่เป็นรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี และก็ไปได้ไกลถึงรอบรองชนะเลิศด้วย แต่น่าเสียดายที่สุดต้องตกรอบไปด้วยน้ำมือของ ทีมชาติสเปน เช่นเดียวกับปี 2019 เฟเดริโก้ เคียซ่า ก็เป็นหนึ่งในตัวแทนของชาติในการทำศึกรายการนี้เช่นกัน
ปี 2018 นั่นคือครั้งแรกที่ เฟเดริโก้ เคียซ่า ได้โอกาสประเดิมสนามการรับใช้ ทีมชาติอิตาลี ชุดใหญ่เป็นครั้งแรก โดยเกิดขึ้นในเกมอุ่นเครื่องที่ต้องพ่ายให้ อาร์เจนติน่า ไป 0-2 ส่วนประตูแรกของเขากับการรับใช้ชาติในเกมอย่างเป็นการทางก็คือ ยูโร 2020 รอบคัดเลือก ซึ่งเกมนั้น อิตาลี จัดหนักไล่ยำใหญ่ อาร์เมเนีย ไปแบบถล่มทลาย 9-1 แถมยังทำได้ 2 แอสซิสต์อีกด้วย จนในที่สุดเขาก็มีชื่อเป้นหนึ่งในขุนพลของทัพ “อัซซูรี่” ชุดล่าแชมป์ ยูโร 2020 ในยุคของ โรแบร์โต้ มันชินี่
ยูโร 2020
ในศึกยูโร 2020 ครั้งนี้ถือเป็นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ครั้งแรกในชีวิตของ เฟเดริโก้ เคียซ่า ถึงประสบการณ์จะน้อย เจอกับความกดดันที่หนักสุดๆ แต่นั่นดูจะไม่ใช่ปัญหาสำหรับพี่แกเลย เขาสามารถทำผลงานได้โดดเด่นตลอดทุกครั้งที่ได้โอกาสลงสนาม
เฟเดริโก้ เคียซ่า ออกสตาร์ทตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มด้วยการเป็นตัวรองอยู่ 2 นัด ก่อนจะได้มาเล่นเต็มๆ เกมครั้งแรกในศึก ยูโร 2020 คือนัดที่เชือด เวลส์ ไป 1-0 ถึงจะไม่ได้มีชื่อเป็นคนทำประตู แต่เกมนั้นพี่แกเป็นคนคว้ารางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปครองจากการแสดงความโดดเด่นในเรื่องทักษะเฉพาะตัวกับการเล่นเกมรุก และสร้างปัญหาให้กับคู่แข่งได้ตลอดทั้งเกมทั้งเกมสวนกลับและจังหวะโอเพ่นเพลย์
ถัดมาที่รอบน็อคเอาท์บทบาทของ เฟเดริโก้ เคียซ่า ค่อนข้างชัดขึ้นแถมยังทวีคูณเรื่องความอันตรายมากขึ้นไปอีก และก็มักให้ความรู้สึกที่วูบวาบเสมอยามไปกับบอลและลีลาการกระชากลากเลื้อย ก่อนจะมีชื่อใส่สกอร์ได้ในเกมที่ อิตาลี เฉือนเอาชนะ ออสเตรีย ไปแบบหวุดหวิด 2-1 ตลอดจนเกมล่าสุดในรอบรองชนะเลิศ เฟเดริโก้ เคียซ่า ก็ยังคงเป็นโจทย์ยากสำหรับแนวรับของ สเปน แถมยังเป็นคนซัลโวส่งบอลซุกก้นตาข่ายไปอย่างสวยงามให้ทีมขึ้นนำอีกด้วย ก่อนจะจบลงด้วยการพา อิตาลี ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปลุ้นแชมป์สมัยที่ 2 ต่อจากปี 1968 จนได้โอกาสเถลิงบัลลังก์แชมป์ในที่สุด
ทีมที่สนใจ
เฟเดริโก้ เคียซ่า ได้รับคำชื่นชมว่าเป็นนักเตะที่ผลงานโดดเด่นเข้าตามากที่สุดคนหนึ่งในทัวร์นาเมนต์ ยูโร 2020 หนนี้ และนั่นก็นำมาซึ่งการแสดงความสนใจจากทีมดังๆ อย่าง บาเยิร์น มิวนิค และ ลิเวอร์พูล แต่ดูแล้ว เฟเดริโก้ เคียซ่า น่าจะลงเอยกับ ยูเวนตุส อย่างมิต้องสงสัย เพราะทีมดังจากเมือง ตูริน มีออปชั่นซื้อขาดจาก ฟิออเรนติน่า ที่ 40 ล้านยูโรหลังจบฤดูกาล 2021-22 ยังไงพวกเขาก็คงไม่ปล่อยให้นักเตะแววดีอนาคตไกลแบบนี้หลุดมือไปอย่างแน่นอน