หากจะพูดถึงชั่วโมงนี้นักเตะที่น่าจะอยู่ในความกดดันมากที่สุดคนหนึ่งก็คงจะหนีไม่พ้นของทางด้าน แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กัปตันทีมจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ใช่แค่กับทางสโมสรเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าการไปเล่นในนามทีมชาตินั้นก็อยู่ในสภาพที่ไม่แตกต่างกันมากนักหลังถูกแฟนบอลตัวเองโห่ใส่ในเกมอุ่นเครื่องกับ ไอวอรี่ โคสต์ ทั้งที่ทีมเก็บชัยชนะสวยงามด้วยสกอร์ 3-0
ดังนั้นมันไม่ใช่ผลงานในนามทีมชาติ แต่มันเป็นผลพวงที่ติดมาจากฟอร์มการเล่นกับ “ปีศาจแดง” ซึ่งบรรดาแฟนบอลที่ส่งเสียงโห่นั้นไม่รู้ว่าเป็นแฟนบอลยูไนเต็ดหรือเปล่า หรือแฟนบอลทีมอื่นที่ผสมโรงเข้ามาด้วย
การโห่ใส่นักเตะของทีมเชียร์นั้นเป็นเรื่องปกติของแฟนบอลที่ไม่พอใจผลงานหรือพฤติกรรมของนักเตะคนนั้นๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่เลยแต่อย่างใด
และในสิ่งที่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กำลังพบเจออยู่ในตอนนี้นั้นก็ยังไม่ได้ครึ่งหนึ่งของที่ เดวิด เบ็คแฮม ต้องเจอย้อนกลับไปเมื่อปี 1998 เมื่อเจ้าตัวถูกวางเป็น “แพะ” ของการตกรอบฟุตบอลโลกในปีนั้นจากการโดนไล่ออกในเกมกับ อาร์เจนติน่า
ดังนั้นถือว่ามันน่าสนใจทีเดียวว่าแนวรับจากรั้วโอลด์ แทรฟฟอร์ดจะรับมือกับช่วงเวลาแห่งความกดดันแบบนี้ได้ยังไง ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้จัดการทีมด้วยนั่นแหละ
อันที่จริงถ้าหากเรามามองจากสถิติตัวเลขในเกมรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด นับตั้งแต่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ย้ายมาร่วมทีมก็คงต้องบอกว่าเขาเข้ามาทำให้เกมรับของทีมดีขึ้นอย่างชัดเจน
ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2018/19 ก่อนที่ทาง แม็กไกวร์ จะย้ายมาร่วมทีม “ปีศาจแดง” เสียไปที้งหมด 54 ประตู ซึ่งในปีแรกที่เจ้าตัวมาร่วมทีมในฤดูกาลถัดมา ทีมเสียประตูน้อยลงเหลือเพียงแค่ 36 ประตูเท่านั้นและพร้อมคว้าอันดับ 3 ในลีก มีเพียงแค่ ลิเวอร์พูล ทีมแชมป์ (33 ลูก) และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (35) ที่เสียน้อยกว่า โดยที่ แม็กไกวร์ ลงเล่นทั้ง 38 นัด
ในขณะที่ฤดูกาลที่แล้ว ทีมเสียเพิ่มเป็น 44 ประตู น้อยยที่สุดเป็นอันดับ 5 ของลีก แต่ถ้าหากจะนับเฉพาะที่ทาง แม็กไกวร์ ลงเล่นนั้นอยู่ในช่วง 35 เกมแรกทีมเสียไปเพียง 36 ประตูเท่านั้น เพราะ 4 เกมสุดท้ายที่เจ้าตัวเจ็บไม่ได้ลงเล่นทีมโดนเจาะตาข่ายไป 8 ลูกเลย แถมตัวเขายังช่วยทีมเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโรปา ลีกเพียงแต่สุดท้ายลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ไป
แต่ในตอนนี้สิ่งต่างๆมันเริ่มแย่ลงอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะทุกอย่างในเกมรับได้ถูกโยนให้ทาง แม็กไกวร์ กลายเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบ ทีมเสียไปแล้ว 40 ลูกในซีซั่นนี้ แย่ที่สุดเท่ากับ แอสตัน วิลล่า ทีมอันดับ 9 ในขณะที่ทีมรั้งอยู่ในอันดับ 6 และเสี่ยงต่อการหลุดจากพื้นที่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
แต่สิ่งหนึ่งที่คนอื่นไม่รู้หรืออาจจะรู้แต่ไม่มากนักคือ แม็กไกวร์ มักจะลงไปเล่นพร้อมกับที่ตัวเขาแบกอาการบาดเจ็บอยู่เสมอ ซึ่งตัวเองก็ไม่เคยบ่นและพร้อมลงเล่นอยู่เสมอ ในขณะที่คนอื่นอย่างที่เราพอได้ข่าวกันว่าถ้าเจ็บนิดหน่อยก็ขอไม่ลงหรือไม่อยากก็เล่นก็แกล้งเจ็บไปเลย มันไม่ได้ยากเลยสำหรับเขาที่จะไม่ลงเล่นสัก 2-3 เกมเพราะร่างกายไม่เต็มร้อยและฟื้นร่างกายอย่างเหมาะสม แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ทำแบบนั้น
ยกตัวอย่าง เอดินวัน คาวานี่ ก่อนหน้านี้ที่ดูเหมือนจะเตรียมตัวเองให้พร้อม พอหายเจ็บกลับมาก็ไปเล่นกับทีมชาติอุรุกวัย ล่าสุดเพิ่งขอวันหยุดเพิ่มเพื่ออยู่ในบ้านเกิดต่อแทนที่จะกลับมาช่วยทีมในเกมเจอ มิดเดิ้ลสโบรช์ ในเอฟเอ คัพ หรือจะเป็นทาง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ได้บอกว่าตัวเขาเจ็บและไม่ลงเล่นในเกมที่ทีมแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นอกจากจะไม่อยู่เชียร์เพื่อนที่สนามยังเดินทางกลับ โปรตุเกส บ้านเกิดอีก เรื่องทำนองนี้ได้เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้งในซีซั่นนี้ และก็คงมีเพียงเสียงบ่นเล็กน้อยเท่านั้นและก็หายไป แต่ในทางกลับกัน แม็กไกวร์ แน่นอนว่ายิ่งลงเล่นเยอะ ก็มีโอกาสสร้างความผิดพลาดเกิดขึ้นได้มากขึ้น และเมื่อทีมได้เสียประตูตัวเขาก็มักจะเป็นคนแรกๆที่ทีมตำหนิเสมอ
ถ้าหากลองนึกภาพกองหลังทีมชาติอังกฤษทำแบบ โรนัลโด้ อย่างในกับ “แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้” คงได้โดนถล่มจนแทบไม่มีที่ยืนในสังคมไปแล้ว
ในขณะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด แม้ตัวเขาจะถูกด่าเรื่องผลงานที่ย่ำแย่ แต่ทุกฝ่ายในแนวรุก โดยเฉพาะทาง ราล์ฟ รังนิก พยายามโอบอุ้มเพื่อให้กลับมาอยู่ในฟอร์มที่ดีอีกครั้ง
ปลอกแขนกัปตันทีมก็อาจจะเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เจ้าตัวได้โดนเพ่งเล็งมากขึ้นเป็นพิเศษ และยิ่งตัวเขามีผลงานเป็นแบบนี้กระแสถอดถอนจากตำแหน่งก็เกิดขึ้น ส่วนคนที่ถูกเชียร์ให้ทำหน้าที่แทนไม่ใช่ใครที่ไหน คริสเตียโร่ โรนัลโด้ นั่นแหละ
และอีกอย่างที่ทำให้ แม็กไกวร์ ต้องมาตกอยู่ในภาวะนี้ก็คือปัญหาจากเรื่องของค่าตัวของเขาที่สูงถึง 80 ล้านปอนด์ ที่มักโดนจับไปเทียบกับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่ถูกกว่า 5 ล้านปอนด์ แต่ผลงานนั้นโดดไปไกล
เมื่อตัวเขานั้นสามารถทำผลงานได้ดี ก็ไม่วายที่มักจะถูกมองข้ามอยู่บ่อยครั้ง โดยคนที่ทำประตูมักจะมีการพูดถึงมากกว่าไม่ว่าจะเป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้, แอนโธนี่ เอลังก้า หรือ บรูโน่ แฟร์นันด์ส แข้งในแนวรุกมักจะถูกเอาสถิติขึ้นมาพูดถึงมากกว่าการเล่นของ แม็กไกวร์ แม้ตัวเขานั้นจะสามารถทำได้ดีก็ตาม
ตอนนี้กระแสที่ออกมาอย่างหนักหน่วงคือเรื่องที่สื่อพยายามจับโยงเรื่องปีศาจแดงจะขาย แม็กไกวร์ แล้วพยายามหาเซนเตอร์คนใหม่มาจับคู่กับทางด้าน ราฟาแอล วาราน ซึ่งมีนีกเตะหลายคนที่ถูกจับโยงกับทีม
ไม่รู้ว่าตอนนี้ แม็กไกวร์ จะรู้สึกยังไงบ้าง ในเวลาที่ผลงานไม่ดี แต่พอกลับมาทำได้ดีก็โดนมองข้าม สโมสรมีข่าวกับกองหลังไม่เว้นแต่ละวัน สื่อก็พยายามเล่นงานอยู่เรื่อยๆ
สิ่งเดียวที่จะพอช่วยได้ก็คงหนีไม่พ้นกำลังใจจากแฟนบอลเนี่ยแหละที่จะช่วยให้เจ้าตัวเพิ่มพูนความมั่นใจกลับมา
หวังว่าแฟนผีคงร่วมพลังส่งเสียงเชียร์ให้ทีมในช่วงท้ายซีซั่น อย่างน้อยก็เพื่อประสบความสำเร็จกับการคว้าโควต้ายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกจนได้
รูป www.90min.com, sport.detik.com, manuclubthai.com
เนื้อข่าว m.thsport.com สล็อตเว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์