“ลิโอเนล เมสซี่” แรงผลักดันลูกหนังอาชีพ

ลิโอเนล เมสซี่

 กลายเป็นข่าวดังระดับโลก ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านเวลาหนึ่งเลยสำหรับสุดยอดนักเตะ “ลิโอเนล เมสซี่” ที่ย้ายทีมออกจากทาง บาร์เซโลน่า สโมสรที่เขารับใช้มาทีมเดียวตลอดใตเส้นทางนักเตะของเขา หรือตั้งแต่ระดับเยาวชน ไล่ขึ้นมาจนถึงทีมชุดใหญ่ ภายใต้ความขัดแย้งมากมายกับบอร์ดบริหารของทีม โดยที่ทีมใคปัจจุบันที่นักเตะรายนี้ค้าแข้งอยู่คือเปแอสเช 

การที่สุดยอดดาวยิงคนนี้ย้ายทีมดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นความเสียหายอย่างใหญ่หลวงของทาง บาร์ซ่า เลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากที่ เมสซี่ จะเปรียบเหมือนกับไอคอนที่เป็นตำนานของทีมไปแล้ว และเขายังคงเป็นเครื่องจักรสังหารการพังประตู ที่สามารถการันตีประตูมากมายให้กับทีมต่อฤดูกาล 

แม้ว่า เมสซี่ จะไม่ได้ค้าแข้งในถิ่น “คัมป์นู” แล้ว อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังเป็นนักเตะที่ถือว่าเป็นตำนานของบาร์ซ่า ที่สร้างเรื่องราว และเกียรติประวัติเอาไว้อย่างมากมาย พร้อมกับยังสร้างสถิติมนส่วนตัวต่างๆ ที่ว่ากันว่า ยากที่ใครจะมาทำลายลงได้ 

แน่นอนว่า บุคคลที่เป็นส่วนสำคัญ ที่คอยผลักดันให้เมสซี่ ได้กลายมาเป็นนักเตะระดับโลก นั่นก็คงไม่ใช่ใครที่ไหน คืออดีตกุนซืออย่าง เป็ป กวาร์ดิโอล่า ที่เคยร่วมงานกันที่บาร์เซโลน่า ชุดใหญ่ ระหว่างปี 2008-2012 พร้อมกับขัดเกลาและทำให้เมสซี่ กลายมาเป็นนักเตะที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

"ลิโอเนล เมสซี่" แรงผลักดันลูกหนังอาชีพ 1

 หากมาลองไปย้อนวันเวลากันหน่อยว่ากุนซือคนนี้ส่งผลหรือมีอิทธิพลต่อตัวของ เมสซี่ อย่างไรบ้าง แม้ว่ากุนซือชาวสแปนิช จะเคยออกมาพูดแบบถ่อมตัวว่าทางด้าน เมสซี่ ทำให้เขากลายเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลที่ดีมากขึ้นก็ตามที

ในเหตุการณ์ดังกล่าว เริ่มจากการที่ เป็ป ได้ปล่อยตัวนักเตะหลักอย่าง โรนัลดินโญ่ ออกจากทีม เพื่อที่เขาต้องการผลักดัน เมสซี่ เป็นตัวหลักอย่างเต็มตัว รวมถึงการปรับตำแหน่ง และพื้นที่การเล่น เลยนำมาซึ่งความลงตัวและความเก่งกาจที่มากขึ้น ลากยาวไปถึงการปรับนิสัยการกิน และการใช้ชีวิตประจำวัน จน เมสซี่ ทวีความแข็งแกร่งและความน่ากลัวมากขึ้น  

เป็ป ได้ออกมาย้อนความทรงจำครั้งนึงว่า เขาได้ยินชื่อของ เมสซี่ เป็นครั้งแรก ตั้งแต่สมัยที่จอมทัพทีมชาติอาร์เจนติน่า ยังคงเป็นแค่เด็กฝึกหัดอยู่ที่ในสถาบันลูกหนังอย่าง “ลา มาเซีย” และด้วยความที่เขาเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์สูง ทำให้ชื่อเสียงของ เมสซี่ ได้กลายมาเป็นที่รู้จักของคนในสโมสรรวดเร็วมาก และหลายคนต่างพูดถึงเขาในทิศทางที่ดี

เป็ป ยังได้เล่าต่ออีกว่า มีหลายคนมาบอกกับเขาว่า เมสซี่ คือดาวรุ่งขั้นเทพของ ลา มาเซีย โดยที่กำลังฉายแสง และเจิดจรัส ทั้งในมุมของฟอร์มการเล่น และขีดความสามารถของเจ้าตัว และที่สำคัญ เขาเป็นเด็กตัวเล็ก แถมยังมีอุปนิสัยที่ขี้อาย แต่ว่าเขาสามารถยิงประตูได้อย่างถล่มทลาย และนี่ก็คือความทรงจำแรกของ เป็ป ที่มีต่อตัว เมสซี่

เป็ป ยังกล่าวถึงการเจอ เมสซี่ ตัวเป็นๆเป็นครั้งแรกว่า เขาเคยเดินทางไปยัง ไนกี้ สโตร์ ทันใดนั้น เขาก็เหลือบไปเห็น เมสซี่ ที่ช่วงเวลานั้นยังใช้แบรนด์ ไนกี้ เข้ามากับคุณพ่อ เมื่อครั้งแรกเห็นตอนนั้นทางด้าน เป็ป ถึงกับได้เกิดมีความสงสัยในบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาในตัวนักเตะร่างเล็กรายนี้

เป็ป สงสัยว่า เด็กตัวเล็กๆอย่าง เมสซี่ จะกลายมาเป็นเด็กที่เก่งกาจเหมือนที่ผู้คนส่วนมากบอกกับเขาได้หรือไม่ ? ถ้าพูดกันง่ายๆ เมสซี่ มีลักษณะภายนอกที่ดูไม่เหมือนนักเตะที่จะก้าวมาเป็นตำนาน หรือจะกลายมาเป็นสุดยอดนักเตะระดับโลกเลยด้วยซ้ำไป แถมยังเป็นเด็กขี้อาย และพูดน้อยอีกต่างหาก 

อย่างที่เราได้ทราบกัน เมสซี่ ถูกดันให้ขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของ บาร์เซโลน่า เป็นครั้งแรก ในยุคที่มีทางด้าน แฟร้งค์ ไรจ์การ์ด เป็นผู้จัดการทีม จนกระทั่งการเข้ามากุมบังเหียนของเป็ป ในช่วงปี 2008 และนี่ก็คือกุนซือที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงนักเตะหนุ่งรายนี้ให้พุ่งทะยานไปข้างหน้า แบบไม่มีใครสามารถที่จะมาหยุดเขาได้

"ลิโอเนล เมสซี่" แรงผลักดันลูกหนังอาชีพ 2

เป็ป ยังกล่าวต่ออีกว่า ในช่วงฤดูกาลแรกที่เขาเข้ามาคุมทีมบาร์เซโลน่า ในปี 2008-09 เขาพาทีมเดินทางไปอุ่นเครื่องที่ประเทศสก็อตแลนด์ ด้วยการพบกับ ฮิเบอร์เนี่ยน กับ ดันดี ยูไนเต็ด โดยที่ทีมของเขาสามารถเอาชนะได้ 6-0 และ 5-1 ตามลำดับ โดยที่ทาง เมสซี่ สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในทั้งสองเกม

โดยเฉพาะเกมกับทีม ดันดี ยูไนเต็ด ที่ เมสซี่ สามารถทำแฮตทริค เป็นผลสำเร็จ และนั่นก็ทำให้ เป็ป คลายความสงสัยในตัวของนักเตะหนุ่มรายนี้จนหมดสิ้น โดยที่ เป็ป เล่าถึงวันนั้นว่า ขวบปีแรกที่เขาคุมบาร์เซโลน่า และเดินทางไปแข่งอุ่นเครื่องที่ประเทศสก็อตแลนด์ เขาพูดกับตัวเองว่า เมสซี่ จะเป็นคนที่พาสโมสรแห่งนี้ คว้าแชมป์ทุกรายการมาครอบครองได้

เพียงแค่ในปีแรกที่ เป็ป คุมบาร์ซ่า ตัวของ เมสซี่ จบด้วยการเป็นดาวซัลโวประจำทีม โดยสามารถทำประตูรวมในทุกรายการไปได้ 38 ประตู มากกว่ากองหน้าพันธุ์แท้อย่าง ซามูเอล เอโต้, เธียร์รี่ อองรี และ โบยาน เกร์กิช เสียอีก หลายๆคนคงยังจำกันได้ นั่นคือปีที่ บาร์เซโลน่า จบด้วยการที่มีสามารถคว้าแชมป์ได้ถึง 3 แชมป์ 

ขณะที่การผนึกกำลังของทั้งสองคน เมสซี่ ภายใต้การกุมบังเหียนของ เป็ป สามารถคว้าแชมป์ลาลีกา 3 สมัย, โกปา เดล เรย์ 2 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 สมัย , ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2 สมัย และสโมสรโลก 1 สมัย

"ลิโอเนล เมสซี่" แรงผลักดันลูกหนังอาชีพ 3

รูป marketeeronline.co, clubbluethailand.com, www.barcablaugranes.com www.90min.com

เนื้อข่าว m.thsport.com

ข่าวบอลล่าสุด