รัฐบาลอังกฤษ > > > คลิก เตรียมอนุญาติให้แฟนบอลเข้าชมเกมฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ ระหว่าง “จิ้งจอกสยาม”เลสเตอร์ ซิตีh พบ “นักบุญ”เซาแธมป์ตัน ที่สนามเวมบลีย์ ในวันอาทิตย์ที่ 18 เม.ย.นี้ เพื่อเป็นการนำร่องก่อนตัดสินใจเปิดให้แฟนกีฬา และแฟนฟุตบอลกลับเข้าสู่สนามในช่วงปลายหน้าร้อน หรือไม่อาจเป็นในช่วงฤดูกาลหน้าต่อไป
เดลี่ เมล สื่อดังในอังกฤษ ออกมาเปิดเผยว่า เกมฟุตบอลเอฟเอ คัพรอบรองชนะเลิศระหว่าง เลสเตอร์ ซิตี้ พบ เซาแธมป์ตัน ถูกเลือกให้เป็นเกมนัดแรกที่ทดลองให้มีแฟนบอลเข้ามาชมเกมในสนามอีกครั้ง
เกมในวันที่ 18 เมษายนจะมีแฟนบอลเข้าชมประมาณ 4,000 คนในสนาม เวมบลีย์ กรุงลอนดอน โดยคาดกันว่าแฟนบอลที่เข้ามาชมนั้นจะเป็นคนท้องถิ่นมากกว่าแฟนบอลของแต่ละสโมสร
นอกจากนี้ผู้ที่ทำงานในหน่วยแพทย์น่าจะได้ถูกเชิญมาร่วมชมฟุตบอลแม็ตช์นี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งนี่จะถือเป็นก้าวแรกของการกลับมามีแฟนบอลในสนามอีกครั้ง สำหรับการแข่งขันกีฬาในช่วงซัมเมอร์หรือฤดูกาลหน้า
ขณะเดียวกันรัฐบาลอังกฤษ ก็ได้ย้ำว่าเกมนี้มีจุดประสงค์เพื่อทดลองจะเปิดให้แฟนกีฬากลับเข้ามาชมเกมในสนามโดยปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้อย่างไร ไม่ใช่เป็นการเปิดให้แฟนบอลของทั้ง 2 สโมสรได้ตามเข้ามาเชียร์ทีมรักแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามพวกเขาหวังให้ผลของการทดลองในเกมนี้ รวมถึงเกมอื่นที่จะเกิดขึ้นในเดือนนี้และเดือนหน้า จะนำไปสู่การเปิดให้แฟนบอลเข้าชมมากขึ้นเมื่อถึงศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2020 ที่อังกฤษ มีส่วนเป็นเจ้าภาพ
คาดหมายกันว่ารัฐบาลอังกฤษจะประกาศ 14 เกมการแข่งขันกีฬาที่จะเป็นแมตซ์ทดลองในเร็วๆนี้ โดยที่ศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพคู่ที่กล่าวมานั้นจะเป็นหนึ่งในเกมแรกๆ
ในรายชื่อดังกล่าวยังรวมถึงคาราบาว คัพรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 25 เมษายนและเอฟเอ คัพนัดชิงในวันที่ 15 พฤษภาคม
สำหรับเกมเอฟเอ คัพรอบรองชนะเลิศเจ้าหน้าที่น่าจะมีการทดลองด้วยการให้แฟนบอลเข้าออกสนามอย่างง่ายๆ และไม่ต้องการให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นเมื่อมีแฟนบอลเดินทางไกลมาชมเกม
ทำให้ เกม เลสเตอร์ ซิตี้ พบ เซาแธมป์ตัน ถือว่าเหมาะสมกับเงื่อนไขดังกล่าวเพราะทั้งสองสโมสรไม่ใช่ทีมที่อยู่ในกรุงลอนดอน ส่วนรอบรองอีกคู่นั้น เชลซี จะพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
นอกจากนี้ยังมีคาดกันว่าในเกมเอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ ที่จะลงเล่นที่เวมบลีย์ น่าจะมีการเปิดให้แฟนบอลเข้ามาชมเป็นตัวเลขอยู่ที่ 20,000 คน