รวมสรุปดีลการย้ายตัวโดยตรงระหว่าง มาดริด-แมนยูฯ

ข่าวฟุตบอล มาดริด-แมนยูฯ

เหลือเพียงชูเสื้อเปิดตัวอย่างเป็นทางการเท่านั้นสำหรับ ราฟาเอล วาราน กับการได้เป็นสมาชิกใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการ ภายหลังย้ายมาจาก เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวราว 42 ล้านปอนด์

ซึ่งนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ระหว่าง 2 สโมสรทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด และ เรอัล มาดริด ได้ร่วมทำการค้าระหว่างกัน ที่ผ่านมาทั้งคู่ก็ถือว่าได้ร่วมเจรจาการซื้อ-ขาย นักเตะกันอยู่บ่อยครั้ง และมักจะเป็นดีลเด็ด ดีลดัง สะท้านวงการเสียเป็นส่วนใหญ่

ว่าแล้ววันนี้ ขอบสนาม ของเราจะพาไปดูนักเตะที่เคยร่วมเล่นกับทั้ง 2 สโมสร ในรูปแบบที่ย้ายกันโดยตรงไม่มีแวะไปเล่นที่ไหนมาก่อน จะมีนักเตะคนไหนบ้าง ไปติดตามกันได้เลย

กาเบรียล ไฮน์เซ่ 

กาเบรียล ไฮน์เซ่ 

ฟูลแบ็คชาวอาร์เจนติน่าที่ย้ายมาร่วมเครื่องแบบตรา “ปีศาจแดง” เมื่อซัมเมอร์ปี 2004 จาก เปแอสเช ด้วยค่าตัวราว 10 ล้านยูโร ก่อนที่จะสามารถยึดตัวจริงในตำแหน่งแบ็คซ้ายของทีมได้สำเร็จ แต่ทว่าหลังลงเล่นไปได้ซีซั่นเดียวเจ้าตัวก็ต้องพบเจอกับอาการบาดเจ็บบริเวณหัวเข่าทำให้ฤดูกาล 2005-06 ได้โอกาสลงสนามไปเพียง 6 เกมเท่านั้น

ซึ่งหลังจากหายเจ็บกลับมาเขาเองก็ต้องต่อสู้อย่างหนักด้วยเหตุที่ว่าทีมไปดึงดาวเตะโนเนมอย่าง พาทริค เอวร่า มาร่วมทีม ซึ่งดาวเตะจากฝรั่งเศสก็ถือว่าทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้เขากระสันมีความอยากย้ายทีมเป็นอย่างมาก ถึงขนาดมีข่าวว่าต่อให้ย้ายไปร่วมทัพ ลิเวอร์พูล ก็ตาม จนกระทั่ง ไฮน์เซ่ ได้ย้ายไปร่วมทัพ เรอัล มาดริด ในปี 2017 ด้วยค่า 12 ล้านยูโร 

ชีวิตในแดน “กระทิงดุ” ของ ไฮน์เซ่ ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรมากนัก แต่ก็เป็นหนึ่งในขุมกำลังชุดคว้าแชมป์ลาลีกา สเปน มาครองในซีซั่น 2007-08 ก่อนที่ลงเล่นได้อยู่ 2 ซีซั่นก็ถูกปล่อยตัวออกจากทีมไปให้ โอลิมปิก มาร์กเซย ด้วยราคาแสนถูกเพียง 1.5 ล้านยูโรเท่านั้น จากนั้นชื่อของเขาก็เริ่มหลายไปเรื่อยๆ จนกระทั่งกลับไปแขวนสตั๊ดในบ้านเกิดกับ นีเวลล์ โอลด์ บอยส์ เมื่อปี 2014

เดวิด เบ็คแฮม

เดวิด เบ็คแฮม

“เทพบุตรลูกหนัง” ฉายาที่แฟนบอลบรรจงตั้งให้กับเขาเนื่องด้วยหน้าตาอันหล่อเหลา บวกกับฝีเท้าที่โคตรแจ่มโดยเฉพาะท่วงท่าการยิงฟรีคิดที่โคตรเป็นเอกลักษณ์ เบ็คแฮม เติบโตขึ้นมาจากอคาเดมี่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก่อนที่จะค่อยๆ ไต่เต้าขึ้นมายังทีมชุดใหญ่ และเป็นกำลังสำคัญในการพาทัพ “ปีศาจแดง” พุ่งชนกับความสำเร็จแบบนับครั้งไม่ถ้วน

แต่ทว่าแม้เขาจะเปรียบได้ดั่งพระเอกของเหล่าแฟนบอล ยูไนเต็ด มันก็ย่อมต้องมีวันเปลี่ยนแปลง และยิ่งการมีปัญหากับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มันแทบทำให้โอกาสของเขาในการลงสนามแทบปิดตายไปเลย วลีที่ว่า “ไม่มีใครยิ่งใหญ่กว่าสโมสร” ใช้ได้ดีกับสถานการณ์ของ เบ็คแฮม ในห้วงเวลาตรงนั้น 

ซัมเมอร์ 2003 เบ็คแฮม ถูกปล่อยตัวไปให้ เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวราว 37 ล้านยูโร พร้อมความเสียดาย และเสียใจของแฟนบอล แต่สุดท้ายสโมสรต้องเดินหน้าต่อไป และทีมก็ต้องเฟ้นหาคนใหม่ๆ เพื่อมาทดแทนสตาร์ชาวอังกฤษผู้นี้

ส่วนชีวิต เบ็คแฮม ในเมืองมาดริด เขาอยู่ในยุคกาลาติกอสที่โอบล้อมไปด้วยซุปเปอร์สตาร์ทั้ง ซีเนดีน ซีดาน, ราอูล กอนซาเลซ หรือ หลุยส์ ฟิโก้ บทสรุปของ เบ็คแฮม กับ มาดริด เขาลงสนามช่วยทีมไปมากถึง 159 นัด ตลอดช่วงเวลา 4 ฤดูกาล คว้าแชมป์มาเชยชมได้ 2 รายการคือ ลาลีกา สเปน กับ สแปนิชซูเปอร์ คัพ

ซึ่งพอ เบ็คแฮม หมดสัญญากับ “ราชันชุดขาว” ในช่วงปี 2007 เจ้าตัวก็ย้ายไปหาความท้าทายที่ศึกเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ กับ แอลเอ กาแล็คซี่ เป็นนักเตะดังยุคแรกๆ ที่ไปบุกเบิกตลาดในอเมริกา จากนั้นก็มีแวะเวียนมาเล่นในยุโรปกับ เอซี มิลาน ก่อนประกาศแขวนสตั๊ดในปี 2013 กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ปัจจุบันเจ้าตัวผันมาเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลที่มีชื่อ อินเตอร์ ไมอามี่

รุด ฟาน นิสเตอรอย

รุด ฟาน นิสเตอรอย

หนึ่งในดาวยิงที่ดีที่สุดคนหนึ่งของทัพ “ปีศาจแดง” และเป็นนักเตะที่ทีมเองก็เฝ้ารอคอยกว่าจะได้ตัวมานานพอควร ฟาน นิสเตอรอย ย้ายมาเป็นสมาชิกของ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2001 จาก พีเอสวี ไฮโดรเฟ่น ด้วยค่าตัวราว 28 ล้านยูโร ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงทีเดียวในยุคสมัยนั้น

แต่ทว่าดาวยิงชาวฮอลแลนด์ก็สามารถเข้ามายกระดับเกมรุกของทีมได้อย่างดีเยี่ยม ตลอดเวลา 5 ปี ในเครื่องแบบตราปีศาจหัวหอกรายนี้กระหน่ำประตูไปได้ถึง 150 ตุง จากการลงสนาม 219 นัด ก่อนที่จะเกิดปัญหาขึ้นทำให้บทสรุปตอนจบของเขากับ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ค่อยสวยงามนัก เมื่อเพื่อนสนิทของ “ป๋าเฟอร์กี้” ออกจากแฉว่า รุด เกิดปัญหาไม่ชอบหน้า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และมีคามอคติส่วนตัว ทำให้ทีมจำเป็นต้องปล่อยออกจากสโมสรไปให้กับ เรอัล มาดริด ในปี 2006

ซึ่ง รุด ฟาน นิสเตอรอย ก็เข้าไปเป็นกองหน้าตัวหลักให้กับทัพ “ราชันชุดขาว” เพียงซีซั่นแรกก็ซัดไปมากถึง 33 ประตู จากการลงสนาม 47 เกม โดยเจ้าตัวประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ลีกกับ เรอัล มาดริด 2 สมัย พ่วงด้วย สแปนิชซูเปอร์ คัพ อีก 2 ครั้ง ก่อนที่จะถูกปล่อยตัวออกจากทีมไปให้ ฮัมบูร์ก ในช่วงเดือนมกราคม 2010 เนื่องด้วยอาการบาดเจ็บที่รบกวนจนลงสามช่วยทีมได้ไม่มากนัก

คริสเตียโน่ โรนัลโด้

คริสเตียโน่ โรนัลโด้

คงจะไม่มากจนเกินถ้าจะบอกว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คือตำนานเบอร์ต้นๆ ของสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้เขาจะไม่ใช่นักเตะท้องถิ่นที่เติบโตมาจากอคาเดมี่ของสโมสร หนำซ้ำชีวิตที่อังกฤษช่วงแรกๆ ก็โดนแฟนบอล “ปีศาจแดง” ด่าเสียเทเสียในเรื่องของสไตล์การเล่นที่หวงบอล แถมสับเท้าแบบพร่ําเพรื่อ แต่ทว่าดันก็เหมือนเป็นแรงผลักดันให้ CR7 เติบโตขึ้นมาจนได้ชื่อว่าเป็นแข้งที่สุดยอดคนหนึ่งของสโมสรแห่งนี้ 

118 ประตู จาก 292 นัด พ่วงด้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย และ แชมเปี้ยนส์ลีกอีก 1 สมัย พร้อมทั้งผลงานอันเอกอุมันน่าจะมากพอในการกล่าวขานว่านี่คือตำนานแห่งโอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่ทว่าทุกคนย่อมมีความฝัน และ โรนัลโด้ เองก็ขีดเขียนฝันของตัวเองไว้ว่าสักวันจะต้องสวมชุดขาวของ เรอัล มาดริด ให้ได้

ซัมเมอร์ 2009 แมนฯ ยูไนเต็ด ตัดสินใจขาย โรนัลโด้ ไปให้กับ เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 94 ล้านยูโร ซึ่งถือเป็นสถิติค่าตัวแพงที่สุดในโลก ณ ห้วงเวลาตรงนั้น ส่วนในเรื่องผลงานต่อจากนั้นคงไม่ต้องสาธยายอะไรให้มากความ โรนัลโด้ เป็นทุกอย่างให้กับ “ราชันชุดขาว” เขาสัมผัสทุกแชมป์ในสเปน รวมไปถึงสอยถ้วยบิ๊กเอียร์มาเชยชมเพิ่มอีก 4 สมัย พร้อมสถาปนาตัวเองเป็นดาวยิงสูงสุดของสโมสรอีกด้วย

ทั้งนี้ โรนัลโด้ ปิดฉากการค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด ไว้ที่ 9 ปี โดยเป็นการย้ายไปร่วมทัพ ยูเวนตุส ในช่วงซัมเมอร์ 2018 และนับมาจนถึงตอนนี้ในวัย 36 ปี ชายกล้ามโตคนนี้ยังคงโลดแล่นในวงการลูกหนังราวกับเด็กวัย 18 ปี ที่เพิ่งมีโอกาสลงสนาม และยังคงสนุกกับการไล่ลาสถิติต่างๆ มาประดับเป็นผลงานส่วนตัว

ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ (ชิชาริโต้)

ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ (ชิชาริโต้)

ดีลที่ต้องยอมรับความแหลมคมของเหล่าสต๊าฟฟ์ แมนฯ ยูไนเต็ด และความใจกล้าของ “ป๋าเฟอร์กี้” ในการดึงตัว ชิชาริโต้ กองหน้าร่างเล็กมาจากลีกในประเทศเม็กซิโก ก่อนที่เจ้าตัวจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และเป็นหนึ่งในขุมกำลังที่พาทัพ “ปีศาจแดง” สอยแชมป์พรีเมียร์ลีก มาครองได้ถึง 2 สมัย

โดย ชิชาริโต้ ย้ายมาร่วมทัพ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่่อช่วงซัมเมอร์ 2010 ก่อนอยู่โยงค้าแข้งกับทีมอย่างยาวนาน จนกระทั่งมาถึงจุดเปลี่ยนเมื่อ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก้าวลงจากตำแหน่ง และทีมได้ทำการแต่งตั้ง เดวิด มอยส์ เข้ามาคุมทีม ดาวยิงจากเม็กซิโก กลายเป็นตัวเลือกสำรองอย่างสมบูรณ์แบบ 

จากนั้นในซีซั่น 2014-15 ที่ทีมแต่งตั้ง หลุยส์ ฟาน กัล มาเป็นกุนซือ ชิชาริโต้ ก็ไม่ได้อยู่แผนทำทีมทำให้ต้องปล่อยยืมตัวไปให้ เรอัล มาดริด ใช้งาน 1 ฤดูกาล ซึ่งชีวิตกับ “ราชันชุดขาว” เจ้าตัวก้ได้มีโอกาสลงสนามอยู่บ้างรวมแล้วทั้งหมด 33 นัด ซัดไป 9 ประตู พ่วงด้วย 9 แอสซิสต์ จากนั้นหลังหมดสัญญายืมตัวทาง “ปีศาจแดง” ก็ขายขาด “เจ้าถั่วน้อย” ไปให้ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ที่ราคา 12 ล้านยูโร

ปัจจุบัน ชิชาริโต้ ในวัย 33 ปี ย้ายไปค้าแข้งในศึกเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ กับ แอลเอ กาแล็คซี่ ซึ่งถือว่าทำผลงานส่วนตัวได้ยอดเยี่ยมพอสมควรด้วยการยิงไปแล้ว 12 ประตู จากการลงสนาม 22 เกม

อังเคล ดิ มาเรีย

อังเคล ดิ มาเรีย

ดาวตะชาวอาร์เจนติน่าพิสูจน์ตัวเองแล้วว่ามีฝีเท้ายอดเยี่ยมมาขนาดไหนตลอดเส้นทางการค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด ตัวเลข 36 ประตู กัล 85 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 190 นัด คือเครื่องการันตีชั้นยอด ว่าแล้วเมื่อถึงวันหนึ่งที่ต้องโยกย้าย และเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่แสดงความสนใจทำให้การเจรจาเกิดขึ้นซึ่งมันกินเวลาเพียงไม่นาน

75 ล้านยูโร คือจำนวนเงินเคาะสุดท้ายเป็นอันปิดดีลคว้าตัว ดิ มาเรีย มาลากเลื้อยยังถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เจ้าของหมายเลข 7 คนใหม่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด มาพร้อมความหวังที่แฟนบอลคาดว่าจะปิดฉากการตามหาทายาทต่อจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เสียที

แต่ทว่าความจริงที่เจอกลับตรงข้ามอย่างชัดเจน ดิ มาเรีย ไม่อาจปรับตัวให้เข้ากับฟุตบอลอังกฤษได้มากนัก อีกทั้งยังมีปากเสียงกับ หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือของ “ปีศาจแดง” ในตอนนั้นด้วย ทำให้หลายๆ อย่างดูเหมือนที่แห่งนี้จะไม่ใช่ของเขาอีกต่อไป ทำให้เขาค้าแข้งในถิ่นโรงละครแห่งความฝันได้เพียงปีเดียวเท่านั้น และเป็นการปิดฉากกับสโมสรแบบไม่ค่อยสวยมากนัก อีกทั้งยังเป็นปรปักษ์กับแฟนบอลอีกด้วย

ราฟาเอล วาราน

ราฟาเอล วาราน

ดีลสดๆ ร้อนๆ ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สาเหตุหลักที่ วาราน ต้องการย้ายออกจาก เรอัล มาดริด ก็เพราะด้วยความท้าทายของตัวเองเอง บวกกับสัญญากับ “ราชันชุดขาว” กำลังจะหมดลงในช่วงซัมเมอร์ 2022 ทำให้ทางต้นสังกัดเลยจำเป็นต้องปล่อยแนวรับชาวฝรั่งเศสออกจากสโมสร

ทั้งนี้ วาราน พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นหนึ่งในปราการหลังที่ผลงานยอดเยี่ยมมากที่สุดคนหนึ่งในยุคนี้ ทั้งเรื่องของฝีเท้าในสนาม และความสำเร็จที่กอบโกยมาได้อย่างมากมาย ไม่แปลกถ้าจะบอกว่านี่คือดีลที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ของดีในราคาที่ไม่ได้สูงเวอร์วังอะไรเลย

จากนี้ วาราน ก็คงต้องพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งกับเวทีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ว่าจะสอบผ่านหรือไม่ กับภารกิจพา “ปีศาจแดง” กลับมาเป็นแชมป์อีกครั้ง หลังมือเปล่าไม่ได้สัมผัสโทรฟี่แชมป์ลีกมาแล้วนานหลายปี

ข่าวบอลล่าสุด