ปิดฉากกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ปี 2021 แน่นอนว่าตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาได้มีการย้ายทีมหรือดีลต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย
แต่วันนี่สิ่งที่อยากนำเสนอก็คือการพาทุกท่านไปสรุปทบทวนและยลโฉมกันถึงการย้ายทีมทีได้ชื่อว่า “ฮือฮาที่สุด” ในตลาดรอบนี้กัน จะมีใครบ้างนั้นไปชมกันเลยครับ ?
อองตวน กรีซมันน์ – แอตเลติโก มาดริด
กลายเป็นพระเอกของงานเลยในวันสุดท้ายของตลาดนักเตะสำหรับ อองตวน กรีซมันน์ เพราะล่าสุดพี่แกโดน บาร์เซโลน่า ปล่อยตัวกลับไปยังต้นสังกัดเก่า แอตฯ มาดริด ที่ๆ เจ้าตัวได้สร้างชื่อจนโด่งดังจนกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ของวงการลูกหนัง
การย้ายทีมครั้งนี้เป็นรูปแบบของการยืมตัว 1 ซีซั่นพร้อมกับพ่วงออปชั่นซื้อขาดไว้ที่ 50 ล้านยูโร ช่างดูสวนทางสุดๆ กับตอนที่ย้ายออกมา บาร์เซโลน่า ด้วยค่าตัวที่แพงหูฉี่ถึง 120 ล้านยูโร แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ เพราะตลอดช่วงเวลาในรั้ว คัมป์ นู อองตวน กรีซมันน์ ก็ยังไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่สโมสรลงทุนไปเลย แถมยังตกเป็นเป้าหมายการโจมตี้จากแฟนบอลด้วย โดยเฉพาะการเป็นต้นเหตุให้ ลิโอเนล เมสซี่ ต้องไปจาก บาร์เซโลน่า จากการที่เจ้าตัวนั้นเป็นหนึ่งในนักเตะที่รับค่าเหนื่อยแพงที่สุดในทีม
ว่ากันว่าดีลดังกล่าวเกือบล่มกลางคันด้วย เพราะระบบการลงทะเบียนออนไลน์ของ ลา ลีกา มีปัญหา แต่สุดท้ายก็ยังส่งเอกสารได้ทัน นับว่าเป็นดีลที่วินวินทุกฝ่าย เพราะ บาร์เซโลน่า ก็ไม่ต้องรับผิดชอบค่าเหนื่อยที่มหาศาลอีกต่อไป ส่วน แอตฯ มาดริด ได้ตัวแข้งคนสำคัญกลับไปอยู่ด้วยอีกครั้ง และมีสิทธิ์ซื้อคืนในราคาที่ไม่แพงด้วย อย่างไรก็ตามไม่มีการรับประกันว่าแฟนบอล “ตราหมี” จะให้อภัยกับการที่ กรีซมันน์ ทิ้งทีมรักจากไปในคราวก่อน
ซาอูล ญิเกซ – เชลซี
จัดว่าเป็นดีลเด่นในวันสุดท้ายก่อนตลาดวายเลยเมื่อ เชลซี ได้บรรลุข้อตกลงคว้าตัว ซาอูล ญิเกซ มิดฟิลด์ตัวเก่งมาจาก แอตเลติโก มาดริด แบบยืมตัวพ่วงออปชั่นซื้อขาด พร้อมกับจ่ายค่าเช่าให้ในราคาแค่ 5 ล้านยูโรเท่านั้น
ซาอูล ญิเกซ เป็นกำลังสำคัญของ แอตเลติโก มาดริด ของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ในยุคที่สร้างชื่อขึ้นมาจนกลายเป็นทีมยักษ์ใหญ่ตลอดช่วงที่ผ่านมา ได้ลงเล่นไปเกินกว่า 300 นัด มีความสารพัดประโยชน์ สามารถประจำการได้ในหลายบทบาท ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นนักเตะที่มีค่าตัวแตะหลัก 80-100 ล้านปอนด์จากการได้ชื่อว่าเป็นกองกลางที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลกคนหนึ่ง
แต่ด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บบวกกับนักเตะคนอื่นๆ อย่าง โกเก้ และ มาร์กอส ยอเรนเต้ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมมันก็ทำให้ ซาอูล ญิเกซ ไม่มีที่ยืนในทีมจนแทบจะหลุดจากแผนการทำทีมของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ การย้ายมา เชลซี ในครั้งนี้ถึงจะไม่ได้รับการการันตีในเรื่องโอกาสการลงเล่นแบบร้อยเปอร์เซนต์ แต่เป็นที่เชื่อกันว่านักเตะแบบเขาสามารถสร้างความแตกต่างในแผงมิดฟิลด์ให้กับ เชลซี ได้
เซร์คิโอ รามอส – ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
เรอัล มาดริด ต้องสูญเสียหนึ่งในตำนานที่ได้ชื่อว่าเป็นไอคอนของสโมสรนั่นก็คือ เซร์คิโอ รามอส ถึงแม้พี่แกจะแสดงท่าทีให้เห็นอยู่ตลอดเรื่องความจงรักภักดีต่อต้นสังกัด “ราชันชุดขาว” แต่เนื่องด้วยอายุที่มากขึ้นบวกกับการเจรจาถึงข้อตกลงและเงื่อนไขต่างๆ ที่ไม่ลงตัว มันก็เลยทำให้ชีวิตตลอด 16 ปีที่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ของกัปตันผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ต้องปิดฉากลง
ท่ามกลางอนาคตที่คลุมเครือ เซร์คิโอ รามอส ตกเป็นข่าวพัวพันกับหลายทีมชั้นนำไม่ว่าจะเป็น ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และอีกมากมาย แต่สุดท้ายผู้ที่ให้ข้อเสนอที่ดีที่สุดและสามารถเอาชนะใจผู้ชายคนนี้ได้ก็คือ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
การย้ายทีมของเขาสร้างความตกตะลึงไปทั่วทั้งวงการ เพราะนี่คือกองหลังที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในโลกลูกหนังยุคปัจจุบัน และก็ไม่เคยมีใครคาดคิดว่าการย้ายออกจาก เรอัล มาดริด จะเกิดขึ้นกับเขา ตอนนี้ชีวิตใหม่ของ เซร์คิโอ รามอส ได้เริ่มขึ้นแล้ว และแน่นอนการว่าการมาของเขาก็ได้ทำให้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง กลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และได้รับการจับตามองมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในเวทียุโรป
ราฟาเอล วาราน – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
นี่คือนักเตะที่มีข่าวย้ายทีมทุกช่วงตลาดซื้อขายตลอดหลายปีที่ผ่านมาสำหรับ ราฟาเอล วาราน และในที่สุดซัมเมอร์ปี 2021 การโยกย้ายต้นสังกัดของเขาก็เกิดขึ้นจนได้ และก็เป็นทาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สมหวังดั่งใจ ได้เสริมความแข็งแกร่งในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กตามที่วางแพลนเอาไว้ด้วยตัวผู้เล่นที่เฝ้ารอมานานแสนนาน และด้วยตัวเลขค่าตัวที่ 43 ล้านปอนด์ก็ถือว่าคุ้มค่าสุดๆ เมื่อเทียบกับศักยภาพฝีเท้าและประสบการณ์ทั้งหมดที่ผ่านมากับ เรอัล มาดริด
การผจญภัยครั้งใหม่ของ ราฟาเอล วาราน ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เขาได้โอกาสประเดิมสนามในสีเสื้อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นัดที่บุกไปเยือน วูล์ฟแฮมป์ตัน ได้ยืนเป็นเซ็นเตอร์แบ็กคู่กับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ อย่างที่แฟนๆ “เร้ด เดวิลส์” ตั้งตารอ และที่พีคยิ่งกว่านั้นก็คือนอกจากจะช่วยให้ทีมเก็บคลีนชีทได้แล้ว ราฟาเอล วาราน ยังมีส่วนสำคัญกับการพา “ปีศาจแดง” เก็บ 3 แต้มสำคัญจากการทำแอสซิสต์ให้ เมสัน กรีนวู้ด ซัดประตูชัยช่วงท้ายเกม
แจ็ค กรีลิช – แมนเชสเตอร์ ซิตี้
กลายเป็นสถิติใหม่ของเกาะอังกฤษไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับการย้ายทีมของ แจ็ค กรีลิช จาก แอสตัน วิลล่า สู่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัวที่มหาศาลแตะหลัก 100 ล้านปอนด์ การเห็นทีมคู่อริได้ของดีๆ ไปแบบนี้ดูแล้วน่าสร้างความเจ็บปวดใจให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ใช่น้อยเลย เพราะที่ผ่านๆ มา แจ็ค กรีลิช ก็ถือเป็นเป้าหมายที่ “ปีศาจแดง” เล็งๆ เอาไว้เหมือนกัน
ถึงที่ผ่านมา แจ็ค กรีลิช จะไม่เคยได้โอกาสค้าแข้งกับทีมระดับบิ๊กเนม แต่เรื่องศักยภาพฝีเท้าก็จัดว่าระดับไม่ได้เป็นรองแข้งระดับท็อปคลาสเลย เขาเป็นนักเตะที่เทคนิคดี เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์โดยเฉพาะในเรื่องของการสร้างสรรค์เกม ถ้าหากวัดจากสถิติเมื่อปีก่อนเขาคือเบอร์ต้นๆ ของ พรีเมียร์ลีก เชียวนะ
ณ ตอนนี้ แจ็ค กรีลิช ได้โอกาสลงเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปแล้ว 4 นัดรวมทั้งถ้วย คอมมูนิตี้ ชิลด์ และ พรีเมียร์ลีก ทำได้ 1 ประตู และ 1 แอสซิสต์ พร้อมกับยึดตำแหน่งตัวจริงในแผง 3 แนวรุกได้แบบทันทีทันใด จริงอยู่ที่เขาได้รับการกยกย่องว่าเป็นนักเตะที่เก่งมากๆ คนหนึ่ง แต่เชื่อได้เลยว่าการได้ร่วมงานกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มันจะทำให้ แจ็ค กรีลิช คนนี้กลายเป็นนักเตะที่น่ากลัวและอันตรายยิ่งขึ้นไปกว่านี้อีกอย่างแน่นอน
จาดอน ซานโช่ – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
หลังจากอกหักชอกช้ำมาตลอด 1-2 ปีในที่สุด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ปิดฉากมหากาพย์นี้ได้ตามที่หวังเอาไว้นั่นก็คือการกระชากตัว จาดอน ซานโช่ มาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าตัว 85 ล้านยูโร แน่นอนว่าการมาของไอ้หมอนี่ก็เพื่อเติมเต็มสเป็กของผู้เล่นในตำแหน่งปีกขวาที่ตามหามานแสนนาน
ด้วยความที่ “ปีศาจแดง” อาศัยการขึ้นเกมบุกจากแถบริมเส้นเป็นหลัก การมีตัวสร้างสรรค์โอกาสดีๆ จ่ายบอลแม่นๆ และหวังผลได้จากลูกเปิดเข้าในมันจะสร้างประโยชน์ให้กับทีมได้มากมายมหาศาลเลย ซึ่งนี่คือสิ่งที่มีอยู่ทั้งหมดในตัว จาดอน ซานโช่ ผลงานกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ตลอดช่วงที่ผ่านมาก็ค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้วกับตัวเลข 74 ประตู และ 75 แอสซิสต์จากการลงเล่น 184 นัด
ตอนนี้ จาดอน ซานโช่ ได้ประเดิมสนามกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรื่องของฟอร์มอาจจะยังไม่ได้ดูโดดเด่นเท่าไหร่ เพราะยังต้องใช้เวลาในการปรับตัว แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่การประสานงานเพื่อนร่วมทีมมันเข้าที่เข้าทางและลงตัวขึ้นมาขอบอกเลยว่าคู่แข่งฝั่งตรงข้ามมีร้องแน่นอน
โรเมลู ลูกากู – เชลซี
ด้วยประสบการณ์การค้าแข้งกับหลายๆ ทีมไล่ตั้งแต่ เอฟเวอร์ตัน, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, อินเตอร์ มิลาน ตลอดจนกับ ทีมชาติเบลเยี่ยม มันทำให้ โรเมลู ลูกากู สถาปนาตัวเองจนกลายเป็นหนึ่งในกองหน้ายอดดาวยิงระดับโลก และการตัดสินใจย้ายกลับมา เชลซี ในคำรบที่ 2 นี้ก็สร้างความฮือฮาไม่ใช่น้อยเลยเหมือนกัน
ถ้าจะถามว่าทำไม ลูกากู ถึงตัดสินใจกลับมายัง เชลซี โดยใช้เวลาในการตัดสินใจแค่แปปเดียวเท่านั้น ? หลักๆ ก็เป็นเพราะพี่แกเป็นแฟนบอลและตามเชียร์ เชลซี มาตั้งแต่เด็ก และการพิสูจน์ตัวเองเพื่อลบภาพจำอันเลวร้ายที่เคยเป็นแค่ส่วนเกินมาก่อน ตลอดจนการเดินตามรอยรุ่นพี่ที่เป็นไอดอลในดวงใจอย่าง ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา นั่นเอง
ถ้าคุณสังเกตดูดีๆ เมื่อไหร่ก็ตามที่ เชลซี มีกองหน้าดีๆ สามารถระเบิดสกอร์ได้แบบถล่มทลาย เมื่อนั้นพวกเขาสามารถไปไกลและหวังผลถึงการล่าความสำเร็จได้เลย และตัวของ โรเมลู ลูกากู เองก็สามารถตอบโจทย์ได้ดีจากสิ่งที่พูดมาทั้งหมด และตอนนี้พี่แกก็นับหนึ่งไปแล้วด้วยตั้งแต่เกมเดบิวต์ที่ช่วยให้ “สิงโตน้ำเงินคราม” บุกไปทุบ อาร์เซน่อล 2-0
ลิโอเนล เมสซี่ – ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
นับเป็นข่าวช็อคโลกระดับประวัติกาลของโลกลูกหนังในรอบศตวรรษเลยก็ว่าได้สำหรับการเก็บข้าวของไปจากสโมสร บาร์เซโลน่า ที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของยอดนักเตะเบอร์ 1 ของโลกที่ชื่อ ลิโอเนล เมสซี่ ทั้งที่กายและจิตวิญญาณของเขาพร้อมจะถวายและมอบให้กับทีมจนถึงวันสุดท้ายของอาชีพนักฟุตบอล
การที่ บาร์เซโลน่า ไม่ต่อสัญญาใหม่และด้วยสถานะการเป็นนักเตะฟรีเอเยนต์ก็เล่นทำเอาเหล่าบรรดาทีมใหญ่อยู่ไม่สุขต้องเร่งงัดข้อเสนอที่ดีที่สุดออกมาเพื่อมัดใจ ลิโอเนล เมสซี่ ไม่ว่าสุดท้ายพี่แกจะตัดสินใจย้ายไปไหนแน่นอนว่ามันต้องเป็นที่ฮือฮาสนั่นหวั่นไหวอยู่แล้ว แต่การเลือก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ก็ดูจะเป็นช้อยส์ที่เหมาะเหม็งที่สุดแล้วสำหรับ ลิโอเนล เมสซี่
เปแอสเช มีคุณสมบัติครบทุกประการตามที่ ลิโอเนล เมสซี่ ต้องการไม่ต่างจาก บาร์เซโลน่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงิน การล่าความสำเร็จ รวมถึงองค์ประกอบต่างๆ พวกเขาแสดงให้เห็นถึงโปรเจ็กต์การสร้างทีมเพื่อขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลก จากการไล่เสริมทัพหนักด้วยแข้งซูเปอร์สตาร์ดังๆ มามากมาย
สิ่งที่ทำให้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เป็นทีมที่ภาษีดีกว่าทีมอื่นๆ และมีความต้องการตรงกับใจของ ลิโอเนล เมสซี่ ก็คือการได้กลับมาผนึกกำลังกับเพื่อนซี้อย่าง เนย์มาร์ อีกครั้ง ไหนจะมี คิเลียน เอ็มบัปเป้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอาวุธเด็ด คุณลองคิดดูสิถ้า 3 คนนี้ได้ประสานงานกันมันจะเกิดอะไรขึ้น ? ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ตอนนี้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง จะได้รับการยกย่องว่าเป็นสโมสรที่ดีที่สุดในโลก
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ท่ามกลางกระแสข่าวเรื่องที่ เจ้าของโค้ดเนม CR7 จะเก็บข้าวข้าวย้ายไปค้าแข้งกับคู่อริอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้สร้างความว้าวุ่นและกระวนกระวายใจให้กับหมู่แฟนบอล “เร้ด เดวิลส์” เป็นอย่างมาก บางคนเป็นเอามากถึงขั้นเผาเสื้อเบอร์ 7 ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทิ้งเลยก็มี
แต่สุดท้ายผู้ชายคนนี้ที่ชื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็ไม่ทำให้ผู้คนเหล่านั้นผิดหวัง เพราะนอกจากจะปฏิเสธไม่ย้ายไป แมนฯ ซิตี้ แล้วพี่แกยังตัดสินใจเลือกย้ายกลับมามอบความสุขให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในแบบฉบับที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่ามันจะเกิดขึ้นในช่วงซัมเมอร์ปี 2021
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สร้างชื่อจนโด่งดังเป็นที่รู้จักจากการใช้ชีวิตที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ช่วงปี 2003-09 ก่อนจะย้ายไปทำตามฝันที่ เรอัล มาดริด ตัดภาพกลับมาวันนี้เขากลับมาในฐานะ นักเตะที่เก่งที่สุดในโลกอยู่ในระดับขั้นปีศาจและมนุษย์ต่างดาว พร้อมกับได้ชื่อว่าเป็นโคตรตำนานที่ประวัติศาสตร์โลกลูกหนังจะไม่มีวันลืม
การกลับมาในครั้งนี้ของ เจ้าของโค้ดเนม CR7 นับเป็นการจุดประกายความหวังให้กับแฟนๆ ในเรื่องของการลุ้นความสำเร็จที่ห่างหายมานาน หลังต้องตกเป็นเบี้ยล่างให้กับ 2 คู่แข่งที่เป็นศัตรูตัวฉกาจอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล มันเป็นความรู้สึกที่ยากเกินจะอธิบายสำหรับการกลับมาของผู้ชายคนนี้ ต่อให้ไม่ใช่แฟนของ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ก็สามารถสัมผัสได้ว่าสังเวียน พรีเมียร์ลีก ปีนี้จะต้องลุกเป็นไฟอย่างแน่นอน
