ในศึก ยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (14 มิ.ย.) เป็นอีกหนึ่งวันที่มีนักเตะโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นและเข้าตากรรมการมากๆ ซึ่งคนๆ นั้นก็คือ พาทริค ชีค หัวหอกจากค่าย ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น
เขาคือฮีโร่ที่ช่วยพา สาธารณรัฐเช็ก เก็บ 3 คะแนนสำคัญในการเจอกับ สกอตแลนด์ ถ้าพูดถึงชื่อของ พาทริค ชีค หลายคนอาจรู้ดีว่าเขาคือใครและสังกัดอยู่กับสโมสรใด แต่วันนี้สิ่งที่ทาง “ขอบสนาม” อยากนำเสนอก็คือการพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับพ่อค้าแข้งรายนี้ให้มากขึ้นไปอีก
ประวัติพอสังเขป
พาทริค ชีค เกิดวันที่ 24 มกราคม ปี 1996 ที่ กรุงปราก ประเทศสาธารณรัฐเช็ก ปัจจุบันอายุ 25 ปี เป็นชาวเช็กแท้ๆ 100 เปอร์เซนต์ ส่วนสูง 187 เซนติเมตร หรือ 6 ฟุต 2 นิ้ว ประจำการในตำแหน่งกองหน้า สังกัดอยู่กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น สวมเสื้อหมายเลข 14
เส้นทางค้าแข้ง
พาทริค ชีค เกิดที่ กรุงปราก ประเทศสาธารณรัฐเช็ก เขาเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งด้วยการเป็นเด็กปั้นในศูนย์ฝึกเยาวชนของทีมดังอย่าง สปาร์ต้า ปราก แต่ชีวิตที่บ้านเกิดถือเป็นการประเดิมเส้นทางค้าแข้งที่ไม่ได้สวยหรูนัก เพราะตลอดระยะเวลา 2 ปี (2013-14, 2014-15) พาทริค ชีค แทบไม่ได้โอกาสลงสนามเลย โดยได้ลงเล่นไป 10 นัด ยิงได้ 1 ประตู แต่อย่างน้อยก็ได้สัมผัสกับถ้วยแชมป์ครั้งแรกในชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย
ด้วยความที่ตอนนั้นยังเป็นดาวรุ่งการย้ายออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์เพื่อยกระดับตัวเองจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ สำหรับ พาทริค ชีค เขาถูกปล่อยตัวไปค้าแข้งกับ โบฮีเมี่ยนส์ 1905 แบบยืมตัว 1 ปี และก็ฉายแววได้ค่อนข้างดีเลย ได้โอกาสลงเล่นอย่างต่อเนื่องที่ 28 นัด และซัลโวไปถึง 8 ประตูด้วยกัน และนั่นก็ทำให้ชื่อของ พาทริค ชีค เริ่มเป็นจุดสนใจจากหลายๆ ทีม
ฤดูกาล 2016-17 ซามพ์โดเรีย คือสโมสรแรกที่พา พาทริค ชีค ก้าวเข้าสู่สังเวียน 5 ลีกดังยุโรป และก็เหมือนจะมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าที่ผ่านๆ มาด้วยกับการได้โอกาสลงเล่นไปทั้งหมด 35 เกม ซัดไป 13 ประตู กดไปอีก 4 แอสซิสต์ ถึง “ลาซามพ์” ไม่ได้มีความสำเร็จใดๆ ให้ลุ้น แต่ถ้าพูดถึงชื่อของ พาทริค ชีค เขาได้รับการยกย่องว่า เป็นดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุดบนเวที กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ในปีนั้น
เส้นทางของ พาทริค ชีค ค่อนข้างก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว เพราะด้วยอายุแค่เพียง 21 ปีก็ได้โอกาสย้ายไปค้าแข้งกับชั้นนำของ กัลโช่ เซเรีย อา แล้วนั่นก็คือ โรม่า แต่การได้เล่นกับทีมใหญ่ๆ สิ่งที่ตามมาก็คือการต่อสู้เพื่อแย่งชิงตำแหน่งกับตัวเลือกอื่นๆ ที่ดีกรีและศักยภาพเหนือกว่า ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่ดาวรุ่งอย่าง พาทริค ชีค จะได้โอกาสอย่างต่อเนื่องกับที่นั่น เขาได้โอกาสกับทัพ “หมาป่าแห่งกรุงโรม” ถึง 58 เกมตลอด 2 ปี ยิงได้ 8 ประตูก็จริง แต่ถ้าจะถามเกมที่ได้เป็นตัวจริงขอบอกเลยว่าน้อยมาก
ย้ายมา เยอรมัน
การผจญภัยครั้งใหม่ของ พาทริค ชีค ได้เริ่มต้นอีกครั้งในฤดูกาล 2019-20 เพราะพี่แกได้โอกาสย้ายไปค้าแข้งกับ อาร์บี ไลป์ซิก บนสังเวียน บุนเดสลีกา เยอรมัน ด้วยสัญญายืมตัว 1 ปี แต่สถานะของเขาก็ไม่ได้ต่างอะไรจากที่ผ่านมาๆ ได้ลงเล่นบ้าง ไม่ได้เล่นบ้าง ส่วนใหญ่จะหนักไปทางการเป็นตัวอะไหล่มากกว่า แต่พอเข้าสู่ครึ่งครึ่งหลังค่อนไปทางท้ายๆ ซีซั่น ชีวิตของ พาทริค ชีค ก็เปลี่ยนไป เขาโชว์ฟอร์มได้ดี ยิงประตูได้มากมาย และนั่นก็นำมาซึ่งโอกาสการลงสนามที่ต่อเนื่อง เบ็ดเสร็จ พาทริค ชีค ซัดไป 10 ประตู ทำไป 2 แอสซิสต์จากการลงเล่น 22 นัด พร้อมกับพา ไลป์ซิก จบอันดับ 3 และได้ตั๋วไปลุยศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ตามคาด
พอหมดสัญญายืมตัวกับ ไลป์ซิก ก็ไม่มีท่าทีว่าสโมสรจะใช้ออปชั่นซื้อขาดเพื่อดึงตัวมาร่วมทีมอต่อย่างใด ถ้าจะกลับไป โรม่า ก็ไม่มีการการันตีว่าจะได้โอกาสที่ต่อเนื่องด้วย สุดท้ายก็เป็น ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ที่จัดการกระชากตัว พาทริค ชีค ไปช่วยล่าสกอร์ด้วยค่าตัว 26.5 ล้านปอนด์ พร้อมการันตีสิ่งที่เจ้าตัวนั้นต้องการนั่นก็คือโอกาสการลงเล่นที่ต่อเนื่อง และพี่แกก็ตอบแทนความไว้ใจนั้นได้ดีด้วยการซัดไป 13 ประตู บวกกับทำไปอีก 2 แอสซิสต์จากการลงสนาม 29 นัด ถึงจะจบท็อปโฟร์ไม่ได้ตามเป้า แต่การได้ตั๋วไปเล่น ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ก็ถือว่าไม่เลวเลยสำหรับทัพ “ห้างขายยา”
เกือบไป ยูเว่
ย้อนเวลากลับไปสมัยที่ พาทริค ชีค ฉายแววได้ดีและสะดุดตาทีมดังๆ มากมาย รู้หรือไม่ว่าเขาเกือบย้ายไปค้าแข้งกับ ยูเวนตุส ตอนปี 2017 ด้วยค่าฉีกสัญญาที่สื่อเปิดเผยออกมาที่ 30 ล้านยูโร แต่สิ่งที่ทำให้ พาทริค ชีค กับดีลการย้ายไปปักหลักกับสโมสรที่เป็นเบอร์ 1 ของ อิตาลี ในยุคนั้นไม่เกิดขึ้นก็เป็นเพราะปัญหาทางสภาพร่างกาย เพราะว่ากันว่าพี่แกนั้นได้โอกาสตรวจร่างกายถึง 2 ครั้งกับ ยูเวนตุส แต่ก็ไม่ผ่านเลยทั้ง 2 ครั้ง
สไตล์การเล่น
พาทริค ชีค เป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า มีจุดเด่นที่ความสูงใหญ่และความแข็งแกร่งทางด้านสรีระ สามารถรับแรงปะทะและหาจังหวะเล่นลูกกลางอากาศได้ดี ถนัดเท้าซ้าย ที่เห็นตัวใหญ่ๆ แบบนี้แต่หารู้ไม่ว่า พาทริค ชีค ก็มีทักษะที่ดีไม่เบาเหมือนกันในเรื่องความคล่องตัว, การเลี้ยงไปกับบอล ตลอดจนเรื่องของเทคนิครอบด้าน สามารถถอยไปยืนเป็นหน้าต่ำหรือเล่นเป็นปีกก็ได้ ถึง พาทริค ชีค จะไม่ใช่กองหน้าที่มีสถิติการพังประตูที่ถล่มทลาย แต่ในทางกลับกันก็ถือเป็นนักเตะที่สามารถสร้างคุณประโยชน์ให้กับทีมได้เยอะเลยทั้งเรื่องการแก้เกมและการสร้างมิติใหม่ๆ
คนที่พูดถึง พาทริค ชีค
มาร์โก จามเปาโล อดีตกุนซือ ซามพ์โดเรีย – “ผมจำได้ว่าเขาเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม เขามีพรสวรรค์และรู้แนวทางการเล่นเป็นอย่างดี ที่ ซามพ์โดเรีย เขาได้สร้างสิ่งมหัศจรรย์ไว้มากมากเลยจริงๆ”
รูดี้ โฟลเลอร์ ผู้อำนวยการของ เลเวอร์คูเซ่น – “พูดถึง พาทริค เรามีกองหน้าตัวเป้าที่ทำให้เรารู้สึกประทับใจในเรื่องความคงเส้นคงวาของผลงานและการจบสกอร์ ศักยภาพของเขาทั้งใน เซเรีย อา และ บุนเดสลีกา จัดว่าดีเยี่ยม ขาเป็นคนที่เตรียมความพร้อมได้ดี และมีความแข็งแกร่งในการเล่นเกมรุกอย่างมาก”
ระดับนานาชาติ
พูดถึงเส้นทางในระดับนานาชาติกันบ้าง พาทริค ชีค ได้โอกาสติดธง ทีมชาติสาธารณรัฐเช็ก ตั้งแต่ปี 2011 ตอนเล่นให้ชุด ยู-16 ปี มีแชมป์ติดไม้ติดมือมา 1 โทฟี่ นั่นคือ เหรียญทองแดง ไชน่า คัพ ปี 2018 ถึงผลงานกับสโมสรจะไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นยามที่ได้โอกาสรับใช้ชาติของบอกเลยว่าฟอร์มของ พาทริค ชีค จัดว่าปังสุดๆ ไปเลย เขาลงเล่นให้ เช็ก ยู-17 11 นัด ยิงได้ 7 ประตู, เล่นให้ เช็ก ยู-19 ยิงได้ 7 ประตูจาก 15 นัด ลงเล่นให้ เช็ก ยู-21 ไป 12 นัดยิงไป 11 ประตู ตลอดจนล่าสุดกับ เช็ก ชุดใหญ่ ตอนนี้พี่แกได้กลายเป็นหัวหอกตัวความเบอร์ 1 ของชาติไปแล้วจากการติดธง 27 นัด ซัดไป 13 ประตู
หนึ่งในนั้นมีประตูสุดสวยที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ด้วยในทัวร์นาเมนต์ ยูโร 2020 นัดแรก ของ รอบแบ่งกลุ่ม นั่นก็คือการง้างเท้ายิงไกลในระยะเกือบ 50 หลา พร้อมกับเป็นประตูตอกฝาโลงให้ สาธารณรัฐเช็ก เชือด สกอตแลนด์ ไป 2-0 เก็บ 3 คะแนนสำคัญได้สำเร็จ ดูจากสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วตอนนี้ชื่อของ พาทริค ชีค ได้กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่น่าจับตามองที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้ไปแล้ว และแฟนๆ ชาว “ขอบสนาม” ล่ะครับ คิดเห็นยังไงบ้างกับนักเตะคนนี้ และคิดว่า เช็ก จะเป็นทีมม้ามืดได้ไหมในศึก ยูโร 2020