ต้องบอกว่ากลิ่นอายการตกรอบยูโร 2020 ของทีมชาติฝรั่งเศสยังคงคละคลุ้งไม่ได้จางหายไปเลย เพราะหลังจากพวกเขาพ่ายให้กับ สวิตเซอร์แลนด์ กระแสความขัดแย้ง และเรื่องราวต่างๆ นอกสนามก็ถูกขุดมาแฉแบบไม่เว้นวัน
ซึ่งปัญหาต่างๆ ดูเหมือนมันจะลุกลามมากขึ้นเรื่อยๆ จนอาจจะกลายเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผลงานของทัพ “ตราไก่” ในศึกยูโรคราวนี้มันไม่ได้ไฉไล และเป็นไปตามที่แฟนบอลได้ตั้งความหวังเอาไว้
ว่าแล้วเราลองมาไล่เรียงดูกันหน่อยว่าตอนนี้ปัญหานอกสนามของพวกเขามีอะไรกันบ้าง และประเด็นดังกล่าวมันร้ายแรงถึงขั้นที่อาจทำให้บรรยากาศของทีมเสียหรือไม่ ไปติดตามกันได้เลย
เอ็มบัปเป้ vs ชิรูด์
ปัญหาระส่ำของ 2 กองหน้าของทีมเกิดขึ้นตั้งแต่ทัวร์นาเมนต์ยูโร 2020 ยังไม่รูดม่านเปิดฉากขึ้น ย้อนกลับไปในเกมอุ่นเครื่องที่ ฝรั่งเศส พบกับ บัลแกเรีย ซึ่งเกมในวันนั้นเป็นทัพ “ตราไก่” ที่เอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 3-1 จากการเหมาคนเดียว 2 ประตูของ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์
ซึ่งประเด็นมันมาอยู่ที่หลังจบเกมเมื่อ ชิรูด์ ดันไปให้สัมภาษณ์ออกแนวแซะเพื่อนร่วมทีมว่าถ้าส่งบอลให้เขามากกว่านี้ คงชนะขาด และตัวเขาคงผลิตสกอร์ได้มากกว่าตัวเลขดังกล่าว และเมื่อบทสัมภาษณ์นั้นถูกเผยแพร่ออกมา เลกิ๊ป สื่อของฝรั่งเศสก็รายงานต่อเลยว่าคำพูดของ ชิรูด์ นั้นพาดพิงมาถึงตัวของ เอ็มบัปเป้ แต่อย่างไรก็ตามหัวหอกดาวรุ่งก็ออกมาดับเทียนความขัดแย้ง แถมระบุว่าได้เปิดใจเคลียร์กับ ชิรูด์ ไปแล้ว
“มันไมใช่อย่างที่เขาพูด เอาแบบตรงไปตรงมา สิ่งที่เขาพูดมันไม่ได้กวนใจผมเลย ผมเป็นกองหน้า และมันเป็นความคิดเห็น เขากำลังแสดงความคิดเห็นเมื่อเขาพูด มันไม่ได้กวนใจผมเลย มันเป็นเรื่องของการเปิดเผยต่อสาธารณะ”
แม้ เอ็มบัปเป้ จะออกมายุติข่าวร้าวฉานว่าไม่ได้มีปากเสียงผิดใจกันแต่อย่างใด แต่ทว่ามันก็เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความร้าวฉานในแคมป์ได้มากพอสมควร จากคำพูดของ ชิรูด์ ซึ่งที่จริงถ้าเขาไม่พอใจผลงานของนักเตะคนไหนมันก็ไม่ควรจะเอาออกมาพูดออกสื่ออย่างโฉ่งฉ่างแบบนี้ ควรเก็บไปพูด เคลียร์กันในห้องแต่งตัวหรือเปล่า ?
ปัญหาในห้องแต่งตัว
แน่นอนว่าฟุตบอลคือชนิดกีฬาที่ต้องอาศัยความสามัคคีเป็นอย่างมาก และที่สำคัญคือบรรยากาศในทีมต้องดี เพื่อที่ผลงานในสนามจะได้ออกมาดีตามด้วยเช่นกัน ซึ่งถ้ามันไม่เป็นไปตามนั้นในทีมมีนักเตะคอยเขม่น มีปัญหาคาใจ มันก็ยากเหลือเกินที่จะช่วยกันประสบความสำเร็จได้
เฉกเช่นในห้องแต่งตัวของฝรั่งเศสในตอนนี้ที่มีรายงานออกมาว่า อาเดรียง ราบิโอต์ รู้สึกไม่ค่อยถูกใจ และชอบ ปอล ป็อกบา มากนัก ซึ่งสิ่งที่ทำให้กองกลางจาก ยูเวนตุส ไม่พอใจนั้นคือการเล่นเกมรับของ ป็อกบา ที่ทำเสียบอลบริเวณกลางสนาม ทำให้ทีมเสียประตูตีเสมอในช่วงท้ายเกม มันจึงทำให้เราจึงเห็นภาพทั้งคู่ยืนมีปากเสียงกันในสนาม จนลามเข้าไปทำให้บรรยากาศในห้องแต่งตัวเสียไปด้วย
นอกจากนั้นยังมีอีกคู่คือแข้งในแนวรับอย่าง ราฟาเอล วาราน ที่มองว่า เบนจามิน ปาวาร์ เล่นเกมรับไม่ได้เรื่อง ถึงขั้นย่ำแย่เลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตาม วาราน ก็เข้าข้าง และเห็นด้วยกับ ปาวาร์ ที่มองว่า ป็อกบา ไม่ค่อยลงมาเล่นเกมรับช่วยทีม
รวมๆ แล้วทำให้ปัญหานี้มันอีรุงตุงนังไปหมด คนนี้ด่าคนนั้น คนนั้นเข้าข้างคนนี้ มันเลยทำให้ตอนนี้ห้องแต่งตัวของทัพ “ตราไก่” มันคงอบอวลไปด้วยสุ่มไฟที่ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงได้ง่ายๆ
ปัญหาครอบครัว
ปัญหาภายในทีมยังคงเดือดดาลสร้างความน่าปวดยังไม่ทันได้เคลียร์กัน ปัญหานอกสนามก็เข้ามาเติมเชื้อเพลิงให้ความร้อนแรงมันทวีคูณเพิ่มขึ้นไปอีก จากกรณีที่คุณแม่ของ อาเดรียง ราบิโอต์ ไปหัวร้อนใส่เหล่าครอบครัวนักทีมชาติฝรั่งเศสที่นั่งชมอยู่บนอัฒจันทร์เกมวันที่พบกับ สวิตเซอร์แลนด์
ย้อนกลับไปในเกมนั้นทัพ “ตราไก่” ควรที่จะปิดเกมได้แล้วภายหลังเป็นฝ่ายขึ้นนำไปก่อนถึง 3-1 แต่ทว่าในช่วง 10 นาทีสุดท้ายพวกเขามาเสีย 2 ประตู ทำให้ต้องมีต่อเวลาพิเศษ ก่อนที่จะตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ ซึ่งก็กลายเป็นพวกเขาที่เป็นพ่ายแพ้ ยุติเส้นทางในศึกยูโรครั้งนี้ไว้เพียงรอบ 16 ทีมสุดท้าย
ในช่วงเวลานั้นจากการรายงานของสื่อฝรั่งเศสระบุว่า เวโรนิก ราบิโอต์ คุณแม่ของ อาเดรียง ราบิโอต์ ได้เข้าไปต่อว่าโจมตีครอบครัวของ ป็อกบา ต่อหน้าแฟนบอลคนอื่นๆ จากกรณีที่ดาวเตะจาก แมนฯ ยูไนเต็ด เสียบอลจนเป็นจุดเริ่มต้นทำให้ทีมเสียประตูตีเสมอ 3-3
ซึ่งเรื่องมันไม่จบเพียงเท่าคุณแม่คนเดิมยังคงเลือดร้อนไม่หยุดด้วยการมีปากเสียงต่อกับครอบครัวของ เอ็มบัปเป้ อย่างต่อเนื่อง ด้วยการเข้าไปบอกกับคุณพ่อของดาวเตะผู้นี้ว่าให้สั่งสอนลูกชายใหม่หน่อย ทั้งเรื่องของการวางตัว และหยิ่งผยองให้น้อยลงหน่อย ไม่เพียงเท่านั้นนักข่าวที่อยู่บริเวณดังกล่าวก็โดนหางเร่ไปด้วย
ซึ่งจากเหตุการณ์ดังเจ้าเดือดร้อนให้เจ้าหน้าที่สนามต้องเข้ามาควบคุมสถานการณ์ และใช้เวลาอยู่นานกว่าทุกอย่างจะสงบลง แน่นอนต่อจากนี้ เวโรนิก ราบิโอต์ คงถูกจำขึ้นใจ ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่ง หรือพูดคุยด้วยอีกแล้ว
ปัญหาเกี่ยวกับที่พัก
นี่คือปัญหาที่ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ และทีมงานปวดหัวมากพอสมควรเพราะเรื่องของการเดินทาง และที่พักในแต่ละประเทศที่พวกเขาเดินทางไปแข่งขันนั้นไม่ค่อยเอื้ออำนวยเท่าไหร่นัก
ซึ่งอย่างที่เรารู้กันว่าศึกยูโรคราวนี้ไม่ได้มีเจ้าภาพที่ตายตัว แต่จะกระจายแข่งขันตามเมืองต่างๆ แต่ทว่าก็มีบางชาติอย่างเช่น อังกฤษ, อิตาลี หรือ สเปน ที่ได้ลงเล่นรอบแบ่งกลุ่มที่ประเทศของตัวเอง แต่ทว่ากับฝรั่งเศสพวกเขาต้องเดินทางเป็นว่าเล่นไล่ตั้งแต่ มิวนิค, บูดาเปสต์ และ บูคาเรสต์
ส่วนปัญหาที่ตามหาคือเรื่องของโรงแรมที่มีรายงานออกมาว่าที่พักในบูดาเปสต์อย่าง Marriott Hotel ไม่มีหน้าต่างที่สามารถเปิดได้ ส่งผลให้มีนักเตะออกมาเรียกร้อง อย่างในเคสของ ป็อกบา ก็ออกมาพูดถึงประเด็นการอำนวยความสะดวก และขอเปลี่ยนโรงแรมจากเดิม แต่ทว่าสุดท้ายก็ไม่ได้มีการตอบสนองออกมาแต่อย่างใด
ซึ่งนั่นคือเรื่องวุ่นๆ ที่เกิดขึ้นในแคมป์ทีมชาติฝรั่งเศส เราไม่สามารถฟันธงได้ว่าที่พวกเขาพุ่งชนกับความล้มเหลวเป็นเพราะเหตุการณ์ด้านบนหรือไม่ แต่เชื่อว่านี่เป็นส่วนนึงที่สกัดขาพวกเขาไม่ได้ก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างแนบเนียน
สุดท้ายปัญหาต่างๆ จะแก้ไขกันอย่างไร และบรรยากาศในทีมชาติจะกลับมาครึกครื้นอีกครั้งได้หรือไม่ ก็หวังว่าเวลา และการหันหน้ามาพูดคุยกันจะช่วยให้พวกเขากลับมามีผลงานที่ยอดเยี่ยมอีกครั้งนึงได้