การกลับมาเจอกันอีกเป็นครั้งที่สอง แต่เป็นคนละถ้วย ระหว่าง แอสตัน วิลล่า กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ผลจบลงอย่างสุดมันส์ด้วยผลเสมอกันที่ 2-2
ถึงแม้ว่า สิงห์ผงาด จะไม่สามารถถอนแค้น ผีแดง หลังที่พึ่งโดนเขี่ยตกรอบสามในฟุตบอลถ้วย เอฟเอคัพ ด้วยสกอร์ 1-0 ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่อย่างน้อยครั้งนี้ทีมของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ก็สามารถทำให้ ราล์ฟ รังนิก ต้องเจ็บใจไม่เบาที่ทีม ผีแดง ของเขาต้องมาพลาดคว้าสามแต้มไปอย่างไม่น่าเชื่อทั้งๆที่บุกมานำที่ วิลล่า พาร์ค ถึงสองประตูในเกม พรีเมียร์ลีกและนี่คือ 5 เหตุการณ์ที่สมควรพูดถึง
1. ลีกอังกฤษไม่ง่ายสำหรับ เจอร์ราร์ด (และ รังนิก)
อดีตกองกลางทีม ลิเวอร์พูล อาจจะเปิดตัวในฐานะกุนซือได้อย่างยอดเยี่ยมในลีกของสกอตต์ด้วยการที่พาทีม เรนเจอร์ส คว้าแชมป์ลีกวิสกี้และยังเป็นการยุติการผูกขาดความสำเร็จของ เซลติก คู่ปรับร่วมเมืองได้อย่างยิ่งใหญ่
แต่หลังจากที่ได้เริ่มงานกับ วิลล่า แทนที่ของ ดีน สมิธ ได้อย่างน่าฮือฮาแล้วทางด้าน สตีวี่ จี ก็เริ่มที่จะประสบกับปัญหาซะแล้วหลังจากการโดน แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดโรงละครเขี่ยตกรอบฟุตบอล เอฟเอคัพ ทำให้กุนซือวัย 41 ปี ได้ลิ้มรสกับความพ่ายแพ้เป็นเกมที่สามติดต่อกันในทุกรายการและมันยังเสี่ยงที่จะเพิ่มเป็นนัดที่สี่ด้วยเนื่องจากในเกมทางด้าน ผีแดง บุกมานำห่าง ในศึกพรีเมียร์ลีก ถึง 2-0 ในนาทีที่ 67
แต่ทันใดนั้น สตีวี่ จี ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะส่งทาง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ลงสนาม และนั้นก็ได้กลายเป็นว่าเพื่อนเก่าในทีม ลิเวอร์พูล ของ เดอะ เจิด สามารถที่จะพลิกเกมได้อย่างเหลือเชื่อตั้งแต่ในแม็ตช์ประเดิมสนามกับ สิงห์ผงาด และยังช่วยเบรกไม่ให้เจ้านายต้องแพ้ไปมากกว่านี้
อย่างไรก็ดี อาจจะบอกได้เลยว่าลีกอังกฤษนั้นไม่ใช่งานง่าย (อย่างที่คิด) สำหรับกุนซือหนุ่ม แต่อย่างน้อยทางด้านอดีตมิดฟิลด์พันธุ์ดุก็แสดงความสามารถให้เห็นแล้วว่าเขานั้นแก้เกมเป็น และยังมีอนาคตที่สดใส
ดังนั้นจะเห็นว่า วิลล่า ซึ่งมีผลงานในครึ่งแรกเป็นรอง แมนฯ ยูไนเต็ด เอาอย่างมาก สามารถพลิกกลับมามีสถิติเหนือกว่าทีมเยือนหลังปะทะฝีเท้ากันครบ 90 นาที ไม่ว่าจะเป็นการครองบอล 55%-45% และจังหวะในการยิงประตูที่พึ่งขึ้นมาเท่ากันที่ 13 ครั้ง แต่ทางด้าน วิลล่า ยังแซงหน้าในจังหวะเข้ากรอบถึง 9-6 ครั้ง ก่อนที่ผลจะลงเอยด้วยการเสมอกันไป 2-2
ถึงกระนั้น หลังจากจบเกมนี้ไป เจอร์ราร์ด จะได้เจองานที่เบาบ้างกับในเกมที่ต้องบุกไปเยือน เอฟเวอร์ตัน ซึ่งทีมก็อยู่ในช่วงที่กำลังระส่ำระสายสุดขีด และบางที เขาอาจเป็นคนส่ง ราฟาเอล เบนิเตซ ซึ่งเคยเป็นเจ้านายเก่ากระเด็นออกจาก กูดิสัน พาร์ค ก็ได้เนื่องจากสมัยเป็นขุนพล หงส์แดง เดอะ เจิด มีผลงานข่มทีมร่วมเมืองมาโดยตลอด
แต่ในทางกลับกัน เราก็ได้เห็นเช่นกันว่า รังนิก ก็ประสบกับปัญหาในการกุมบังเหียน แมนฯ ยูไนเต็ด เช่นกัน เนื่องจากที่ถึงวันนี้แล้วเขาก็ยังคงไม่สามารถเนรมิตทีมให้ครองบอลเหนือกว่าคู่แข่งอันเป็นปรัชญาของเขาได้เลย ถึงจนแล้วจนรอด ผีแดง จึงมีผลงานลุ่มๆดอนๆอย่างที่เป็นมาและเป็นไปซึ่งมันชัดเจนอย่างยิ่งว่าปรมาจารย์จากเมืองเบียร์อาจจะแก้เกมไม่เอาอ่าว และยังคุมทีมคว้าผลลัพธ์ไม่ได้ และมันอาจจะยากที่เขาจะเอาดีได้ในลีกอิงลิช
2. ฟิลิปเป้ คูตินโญ่
กองกลางชาวแซมบ้าได้หวนคืนสู่ พรีเมียร์ลีก อีกยกโดยมีชื่อเป็นตัวสำรองในเกมที่ว่า ขณะที่ ลูก้า ดีญ นักเตะใหม่อีกรายของ วิลล่า ได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงทันที
แต่อย่างไรก็ดี หลังจากที่เจ้าตัวถูกส่งลงไปกู้สถานการณ์ในนาทีที่ 68 อดีตสตาร์ดังทีม ลิเวอร์พูล ก็ได้ทำแสบให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยการที่จ่ายหนึ่งยิงหนึ่งหลังจากที่อยู่ในสนามเพียงแค่ 14 นาทีก็ช่วยให้ทีมแบ่งแต้มได้สำเร็จ ผลงานสุดยอดดังกล่าว ยังทำให้ คูตี้ สามารถยิงประตูแรกในลีกใส่ ปีศาจแดง ได้ซะทีหลังจากการปะทะกันเป็นนัดที่ 8 ไม่เพียงจะเป็นประตูแรกของเขากับ แมนฯ ยูไนเต็ด เท่านั้นหลังจากที่ได้อยู่ในสนามเพียงแค่ 14 นาที แต่มันยังเป็นแอสซิสต์แรกของเขาในเกมบู๊กับ ผีแดง ด้วยเช่นกันหลังเจ้าตัวไม่เคยทำได้เลยภายใต้ในยูนิฟอร์ม เร้ด แมชีน เลยตลอดระยะเวลา 480 นาที
ขณะเดียวกัน ยังเป็นเกม พรีเมียร์ลีก นัดแรกของสตาร์ชาวแซมบ้าอีกด้วยหลังจากได้หายหน้าหายตาไปนานถึง 1477 วันนับตั้งแต่ลงเล่นเกมสั่งลาระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ เลสเตอร์ ในเดือนธ.ค.2017
3. สิงห์ผงาด วัวเคยขาม้าเคยขี่ ของ ปีศาจแดง
ยังคงเป็นอีกเกมที่ วิลล่า ยังคงไม่สามารถชนะ ผีแดง แม้จะสามารถไล่บี้แบ่งแต้มได้สำเร็จแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า สิงห์ผงาด เป็นลูกไล่ ของ อสูรแดง อย่างแท้จริง เนื่องจากรวมจนถึงเกมล่าสุดในทุกรายการ ทีมจากโรงละครนั้นไม่เคยที่จะบุกมาแพ้ที่ วิลล่า พาร์ค เลยตลอดทั้งหมด 23 นัดหลัง (ชนะ 17 เสมอ6) นับตั้งแต่ปราชัยในเกม ลีกคัพ 3-0 เมื่อเดือนต.ค.1999 ซึ่งเป็นสถิติของวงการฟุตบอลอังกฤษที่ทีมหนึ่งไม่อาจชนะคู่แข่งอีกทีมยาวนานที่สุดทั้งสี่ดิวิชั่นของประเทศซึ่งทั้งคู่เล่นอยู่ในลีกระดับเดียวกัน
ขณะเดียวกัน หากจะนับเฉพาะเกมลีก วิลล่า เองก็ยังไม่เคยคว้าชัยเหนือ แมนฯ ยูไนเต็ด ในบ้านตลอด 23 นัดหลัง (เสมอ8แพ้15) นับตั้งแต่ชนะ 3-1 เมื่อเดือนส.ค.1995 ซึ่งเป็นสถิติไม่ชนะเกมเหย้าต่อทีมคู่แข่งทีมเดียวกันนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของลีกเมืองผู้ดีเช่นกัน
4. ไร้ โรนัลโด้ ทำ บรูโน่ โดดเด่นเห็นๆ
ยังคงมีการวิจารณ์กันว่านับตั้งแต่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ย้ายกลับสู่ถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ทางด้าน บรูโน่ แฟร์นันด์ส เพื่อนร่วมชาติก็มีผลงานที่ดรอปลงไปอย่างน่าตกใจและบางทีมันอาจเป็นอย่างนั้นก็ได้เนื่องจาก ซีอาร์เซเว่น ที่ไม่ได้ลงเล่นกับ วิลล่า ในสองเกมหลัง และปรากฏว่า แฟร์นันด์ส สามารถพาทีมกำชัยในศึก เอฟเอคัพ ก่อนที่เจ้าตัวจะเป็นพระเอกของ ผีแดง ในเกมนัดล่าสุดแม้ทีมจะทิ้งสองแต้มลงแม่น้ำก็ตามมีแต่หลักฐานของฟอร์มการเล่นโดยส่วนตัวของทางด้าน แฟร์นันด์ส ในเกมที่ วิลล่า พาร์ค ก็ได้ชี้ให้เห็นแล้วว่าตัวเขานั้นโดดเด่นกว่าใครในสนาม ไม่เพียงจะเหมายิงสองประตู แต่ในสถิติด้านอื่นๆก็ยังทำให้เห็นด้วยเช่นกัน
ผ่านบอลแม่นยำ 84%
สัมผัสบอล 67 ครั้ง
แย่งบอลคืนมา 8 ครั้ง
ลองส่องไกล 6 ครั้ง
ผ่านบอลยาวสำเร็จ 4 ครั้ง
ชนะการเข้าปะทะ 3 ครั้ง
ยิง 2 ครั้ง
เป็นประตู 2 ประตู
สร้างโอกาส 1 ครั้ง
5. เล่นต่อจนอายุ 42 ไหวหรือ ซีอาร์เซเว่น?
ก่อนเกมที่จะพบกับ วิลล่า นัดล่าสุด โรนัลโด้ ยังให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าตัวเขานั้นตั้งเป้าที่จะค้าแข้งต่อไปจนถึงอายุ 42 ปีเป็นอย่างน้อยและถึงแม้จะลงซ้อมได้หลังพลาดเกม เอฟเอคัพ แต่สุดท้ายดาวยิงวัย 36 ปีก็ยังคงมีอาการบาดเจ็บจนไม่ได้ลงเล่นให้ ผีแดง เป็นนัดที่สองติดต่อกัน
แล้วอย่างนี้ พี่โด้ ของเราจะยังสามารถฝืนสังขารได้นานจนถึงวันนั้นหรือไม่ เพราะในช่วงที่ผ่านมาดูท่าว่าน่าจะมีปัญหาบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่กลับพลาดเกมที่ วิลล่า พาร์ค จนได้
ที่สำคัญ ไม่แน่ว่าสตาร์ชาวเมืองฝอยทองจะอยู่รับใช้ทางต้นสังกัด แมนฯ ยูไนเต็ด ไปจนครบสัญญาที่มีจนถึงปี 2023 หรือไม่ หลังจากที่มีการลือกันว่าเจ้าตัวหวังที่จะย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์นี้
จะอย่างไรก็ตาม ถ้าจะเอ่ยถึงนักเตะที่ลงเล่นให้ ผีแดง ในวัยที่ชราที่สุด เขาคนนั้นคือก็คือ ไรอัน กิ๊กส์ ซึ่งได้ลงเล่นให้กับสโมสรนานจนถึงอายุ 40 ปี
แต่ถ้าหากจะนับรวมผู้รักษาประตูเข้าไปด้วยแล้ว ผู้ที่ชนะก็ได้แก่ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติฮอลแลนด์ซึ่งเจ้าตัวได้ลงเฝ้าเสาให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เฉือนอายุของอดีตปีกทีมชาติเวลส์ไปแค่เดือนเดียวเท่านั้น
ขณะเดียวกัน หากจะถามว่าใครคือนักเตะที่ลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก ขณะมีอายุมากที่สุด เขาผู้นั้นได้แก่ เท็ดดี้ เชอริ่งแฮม อดีตหัวหอก ผีแดง ซึ่งลงเล่นให้ เวสต์แฮม ในวัย 40 ปี 272 วันเมื่อปี 2006 ขณะที่ทางด้านผู้รักษาประตูได้แก่ จอห์น เบอร์ริดจ์ ของ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งลงสนามได้นานจนถึงอายุ 43 ปี
รูป www.beinsports.com, www.barcablaugranes.com, www.liverpool.com, www.express.co.uk
เนื้อข่าว www.siamsport.co.th
