นักเตะดังที่อาจได้ลุยศึก ยูโร 2020 เป็นครั้งสุดท้าย

ข่าวฟุตบอล ยูโร 2020 นักเตะดัง

ในทัวร์นาเมนต์ ยูโร 2020 ครั้งนี้หลายคนอาจสมหวังที่จะได้สัมผัสกับประสบการณ์นี้เป็นครั้งแรก ในทางกลับกันก็มีอีกหลายคนที่เข้าข่ายว่าจะได้เก็บความทรงจำบนสังเวียน ศึกชิงแชมป์ชาติแห่งยุโรป หนนี้เป็นครั้งสุดท้าย จะมีใครบ้างนั้นไปชมกัน

1. บูรัค ยิลมาซ

1. บูรัค ยิลมาซ

บูรัค ยิลมาซ ได้โอกาสย้ายมาค้าแข้งบนสังเวียน 5 ลีกดังยุโรปเป็นปีแรก และก็มีผลงานที่ดีเสียด้วยกับการซัดไป 18 ประตู พร้อมพา ลีลล์ เถลิงบัลลังก์แชมป์ ลีก เอิง ได้สำเร็จ แต่ด้วยวัยที่ปาเข้าไป 35 ปีแล้วบางทีปีต่อๆ ไปพี่แกไม่อาจรักษาฟอร์มการเล่นและคงสภาพความฟิตของร่างกายให้ดีแบบนี้ได้ เช่นเดียวกับการรับใช้ ทีมชาติตุรกี ที่โลดแล่นมานานถึง 15 ปี บางที ยูโร 2020 หนนี้อาจเป็นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ครั้งสุดท้ายของพี่แกแล้วเหมือนกัน เพราะทาง เอเนส อูนัล และ ฮาลิล แดร์วิโซกลู ก็ได้โอกาสรับใช้ชาติมาพักใหญ่พอที่จะเป็นรับช่วงต่อจาก บูรัค ยิลมาซ คนนี้ได้ในตำแหน่งกองหน้า

2. จอร์โจ้ คิเอลลินี่

2. จอร์โจ้ คิเอลลินี่

“ผมอาจรีไทร์ในซัมเมอร์หน้าหรือไม่ก็ 1 ซีซั่นหลังจากนั้น แต่ก็อยากวนเวียนอยู่ในโลกของฟุตบอลต่อไป” นี่คือสิ่งที่ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ พูดไว้เมื่อปีที่แล้ว เท่ากับว่าศึก ยูโร 2020 น่าจะเป็นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ครั้งสุดท้ายในชีวิตของเขาในฐานะนักเตะกับ ทีมชาติอิตาลี หลังจากโลดแล่นผจญภัยรับใช้ชาติมานานตั้งแต่ปี 2004 เบ็ดเสร็จตอนนี้ก็ 17 ปีแล้ว ได้ลงเล่นไป 106 นัด ยิงได้ 8 ประตู ปัจจุบัน จอร์โจ้ คิเอลลินี่ อายุปาเข้าไป 36 ปีแล้ว มันก็สมควรแก่เวลาที่จะก้าวถอยไปพร้อมกับให้โอกาสเด็กรุ่นใหม่ขึ้นมาแทนที่เสียที

3. เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่

3. เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่

คล้าย ๆ กับ คิเอลลินี่ โดย เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ ได้รับการคาดหมายว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นกัปตัน ทีมชาติอิตาลี คนต่อไปต่อจาก จอร์โจ คิเอลลินี่ ที่เตรียมแขวนสตั๊ดอำลาวงการในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่ถ้าจะถามว่าพี่แกจะยังเป็นกำลังสำคัญของทัพ “อัซซูรี่” จนถึงศึก ยูโร ปี 2024 ไหม ? บางทีคงไม่ถึง เพราะด้วยอายุอานามที่ปาเข้าไป 34 ปีแล้ว เรื่องอายุการใช้งานก็เหลือไม่ได้มากไปกว่า จอร์โจ้ คิเอลลินี่ เท่าไหร่ เมื่อถึงเวลานั้นสภาพร่างกายก็คงไม่ฟิตเต็มร้อยเหมือนตอนนี้ บวกกับตอนนี้ทาง โรแบร์โต้ มันชินี่ เองก็เริ่มให้โอกาสกับเด็กรุ่นใหม่แล้วด้วย อาทิเช่น อเลสซานโดร บาสโตนี่ จาก อินเตอร์ มิลาน เป็นต้น

4. แกเร็ธ เบล

4. แกเร็ธ เบล

อนาคตของ แกเร็ธ เบล ยังเป็นเครื่องหมายคำถามว่าซีซั่นหน้าชีวิตจะเป็นยังไงบ้างกับการกลับไปรับใช้ต้นสังกัดที่แท้จริงอย่าง เรอัล มาดริด ? การทำผลงานได้ดีกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เมื่อปีที่ผ่านมาไม่รู้ว่ามันจะส่งผลกับชะตากรรมของพี่แกยังไงบ้าง ? แต่มันก็มีบางกระแสที่ลือกันว่าตัวของ แกเร็ธ เบล อาจเลือกแขวนสตั๊ดเลิกเล่นฟุตบอลไปเลยก็เป็นได้ในวัยแค่ 31 ปี เพื่อไปเอาดีกับการเป็นโปรกอล์ฟซึ่งเป็นกีฬาอีกหนึ่งประเภทที่พี่แกโปรดปรานสุดๆ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ แน่นอนว่า ยูโร 2020 กับ ทีมชาติเวลส์ ก็น่าจะเป็นประสบการณ์สุดท้ายของ แกเร็ธ เบล บนทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์

แม้ว่าจะมีข่าวจากทาง เอเย่นต์ออกมาปัดเรื่องรีไทร์ แต่ว่า เบล ตอนนี้บนเส้นทางลูกหนังก็ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ และถึง ยูโร ครั้งหน้าเขาก็จะมีอายุย่าง 34 ปี ก็น่าคิดว่าตอนนั้นจะยังได้โอกาสติดทีมชาตอยู่หรือไม่ 

5. แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล

5. แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล

ทีมชาติเดนมาร์ก ชุดปัจจุบันมีขุนพลพ่อค้าแข้งหลายคนที่อายุเริ่มเยอะ หลายคนเริ่มเข้าใกล้เลขสาม และอีกหลายคนก็ทะลุไปแล้วด้วย บางทีในทัวร์นาเมนต์ ยูโร 2020 หนนี้อาจเป็นสังเวียนและประสบการณ์สุดท้ายของพวกเขาก็เป็นได้ซึ่งหนึ่งในคนที่ควรถูกพูดถึงก็คือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เขาคือผู้เล่นที่อาวุโสที่สุดในทีมชุดนี้ที่อายุ 34 ปี รับใช้ชาติมานานถึง 8 ปี ได้โอกาสติดธงไป 64 นัด ด้วยศักยภาพและสภาพร่างกายเขาสามารถยืนระยะเป็นกำลังหลักของชาติได้อีกช่วง 1-2 ทัวร์นาเมนต์ แต่ในทางกลับกันก็ต้องถามตัวของพี่แกเองและกุนซือของทีมด้วยว่าจะเอายังไง ? สมมติว่า ยูโร 2024 กับอายุที่ปาเข้าไป 37 ปีสถานการณ์และความคิด ณ ตอนนั้นมันจะยังเหมือนกับตอนนี้รึเปล่า ?

6. โธมัส แฟร์มาเล่น

6. โธมัส แฟร์มาเล่น

ทีมชาติเบลเยี่ยม ชุดนี้มีนักเตะหลายคนที่อายุทะลุเลขสามไปแล้วโดยเฉพาะในตำแหน่งแนวรับ แต่ถ้าจะให้ชี้ว่าทัวร์นาเมนต์ ยูโร 2020 หนนี้จะเป็นศึกใหญ่ครั้งสุดท้ายของใครบ้าง ? หนึ่งในนั้นจะมีชื่อของ โธมัส แฟร์มาเล่น อย่างแน่นอนด้วยเหตุผลหลายๆ ปัจจัย ข้อแรกเลยก็คือ เขาถูกเรียกตัวมาโดยมีสถานะเป็นตัวอะไหล่รองจาก แยน แฟร์ต็องเก้น และ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ ข้อที่ 2 ก็คือพวก เจสัน เดนาเยอร์, เดดริค โบยาต้า หรือแม้กระทั่ง เลอันแดร์ เดนด็องก์เคอร์ ก็มีประสิทธิภาพที่ดีกว่า และข้อสุดท้ายก็คือในวัย 35 ปีการย้ายไปค้าแข้งกับ วิสเซล โกเบ มันก็แสดงให้เห็นแล้วว่านี่คือสถานีบั้นปลายของ โธมัส แฟร์มาเล่น และเตรียมที่จะอำลาวงการในเร็วๆ นี้ จริง ๆ หลายคนลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าพี่แกยังเล่นบอลอยู่ เพราะว่าเจ็บบ่อยจนแทบหายหน้าหายตาไปเลยทีเดียวเชียว

7. ลูก้า โมดริช

7. ลูก้า โมดริช

ลูก้า โมดริช ตอนนี้เขาคือผู้เล่นที่ได้โอกาสรับใช้ทัพ “ตาหมากรุก” มากที่สุดที่ 137 นัด ยิงได้ 17 ประตูในช่วงระยะเวลา 15 ปี หลังจาก โครเอเชีย ทะยานไปไกลถึงรอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก ปี 2018 ก่อนจะโดน ฝรั่งเศส หักอกมาด้วยความรู้สึกที่แสนเจ็บปวด ดูเหมือน ลูก้า โมดริช จะอยากขอโอกาสแก้ตัวอีกสักครั้งในศึก ยูโร 2020 หนนี้ ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วความฝันจะเป็นจริงไหมกับการพาชาติเกิดชูถ้วยแชมป์ระดับเมเจอร์สมัยแรกในประวัติศาสตร์ แต่สิ่งที่ทุกคนค่อนข้างแน่ใจเลยก็คือด้วยวัย 35 ปี ยูโร 2020 จะเป็นสังเวียนสุดท้ายแล้วของ ลูก้า โมดริช ก่อนจะเปิดทางให้เด็กรุ่นให้ได้ก้าวขึ้นมารับช่วงต่อ

8. เคร็ก กอร์ดอน

8. เคร็ก กอร์ดอน

เคร็ก กอร์ดอน น่าจะเป็นผู้เล่นที่อาวุโสและเก๋าที่สุดแล้วในศึก ยูโร 2020 หนนี้ เขาได้โอกาสเฝ้าเสารับใช้ ทีมชาติสกอตแลนด์ มานานถึง 17 ปีตั้งแต่ปี 2004 ลงเล่นไปทั้งหมด 57 นัด ถึงฝันจะไม่เคยเป็นจริงในการคว้าถ้วยโทรฟี่แม้แต่ใบเดียว แต่ขอบอกเลยว่าเรื่องประสบการณ์ก็จัดว่าโชกโชนมากๆ ในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ด้วยวัย 38 ปีนี่ก็คงเป็น ศึกชิงแชมป์เจ้าแห่งยุโรป ครั้งสุดท้ายในชีวิตของ เคร็ก กอร์ดอน แล้วล่ะ เพราะช่วงหลังทาง สกอตแลนด์ ก็เริ่มผลักดัน เดวิด มาร์แชลล์ ขึ้นมาเป็นมือ 1 แบบเต็มตัวแล้วด้วย

9. มานูเอล นอยเออร์

9. มานูเอล นอยเออร์

มานูเอล นอยเออร์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดคนหนึ่งบนหน้าประวัติศาสตร์ของเยอรมัน เรื่องเซนส์บอล และทักษะสกิลการปัดป้องขอบอกเลยว่าเด็ดดวงและเหนือชั้นสุดๆ ส่วนเรื่องของความสำเร็จขอบอกเลยว่ากอบโกยมาแล้วทุกโทรฟี่ในระดับสโมสรกับ บาเยิร์น มิวนิค 

ส่วนในระดับนานาชาติพี่แกกำลังจะกลายเป็นผู้เล่นอีกคนที่รับใช้ ทีมชาติเยอรมัน ครบ 100 นัด ถ้าจะถามถึงเรื่องความสำเร็จ นอยเออร์ ได้ แชมป์โลก มาแล้วเมื่อปี 2014 จะเหลือก็แค่แชมป์ ยูโร นี่แหละที่ยังไม่เคยได้สัมผัส บางทีถ้าฝันของ มานูเอล นอยเออร์ เป็นจริงในปีนี้พี่แกน่าจะตัดสินใจรีไทร์จากการรับใข้ชาติไปเลยก็ได้ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กรุ่นใหม่ เพราะถ้าดูจากอายุอานามของ มานูเอล นอยเออร์ ตอนนี้ก็ปาไป 36 ปีแล้วด้วย แต่ก็ไม่น่าเช่นเดียวกัน หาว่ายังรักษาระดับการเล่นที่ยอดเยี่ยมเอาไว้ได้ บวกทั้งคนที่ขึ้นมาใหม่ยังไม่มีใครมาแทนเขาได้ดีพอ แต่โอกาสที่เราจะได้เห็น นอยเออร์ ในยูโร ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายก็ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว

10. โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

10. โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

ถึงเส้นทางในระดับสโมสรที่ผ่านๆ มาจะไม่ได้ดูสวยหรูเท่าไหร่สำหรับ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ แต่กับ ทีมชาติฝรั่งเศส การได้โอกาสไป 107 เกม และซัดไป 44 ประตู มันเป็นบทพิสูจน์แล้วว่าเขาคือหนึ่งในขุมกำลังสำคัญที่ ดิดิเย่ร์ เดส์ช็องก็ จะขาดไปไม่ได้ ถึงอายุอานามจะปาเข้าไป 34 ปีแล้วแต่ ชิรูด์ ก็ยังถูกเรียกมาช่วยล่าแชมป์ ยูโร 2020 ด้วยประโยชน์มากมายที่มีอยู่ในตัว

แต่ในทางกลับกันบางทีในศึกใหญ่ครั้งนี้ก็อาจเป็นทัวร์นาเมนต์สั่งลาของ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ แล้วก็เป็นได้กับการรับชาติ เพราะด้วยเรื่องของวัยและการเปิดโอกาสให้เหล่าแข้งหน้าใหม่ได้ก้าวขึ้นมารับช่วงต่อในฐานะตัวแทนของทัพ “เลส์ เบลอส์” ในอนาคต

ข่าวบอลล่าสุด