หากจะกล่าวถึงดาวเตะทีมชาติอังกฤษรายนี้กำลังเผชิญกับความยากลำบากภายใต้การคุมทีมของกุนซือชั่วคราวอย่าง ราล์ฟ รังนิก และก็เริ่มต้นที่ม้านั่งสำรองสำหรับในเกมแมนเชสเตอร์ดาร์บี้เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ที่สนามเอติฮัด สเตเดี้ยม มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็เคยมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเขาในสีเสื้อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประตูชัยของตัวเขาที่ยิงได้ในเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อปี 2016 ที่ยิงใส่ แมนฯ ซิตี้ คือหนึ่งในความทรงจำอันงดงามของเขา และเขาก็เป็นส่วนหนึ่งในทีม ผีแดง ที่เอาชนะได้ 3 จาก 5 ครั้งหลังสุดที่ไปเยือน เรือใบ ด้วย
แต่นั่นอาจจะไม่ใช่สำหรับเกมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ไม่เพียงแค่ผลการแข่งขันที่ทำร้ายดาวเตะวัย 24 ปี ซึ่งอยู่กับ ยูไนเต็ด มาทั้งชีวิต แต่สิ่งที่ตัวเขาน่าจะต้องผิดหวังอีกเรื่องก็คือบทบาทของตัวเองในวันนั้นด้วย
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เองก็ไม่มีชื่อลงเล่นในเกมดังกล่าว และผู้จัดการทีมอย่าง รังนิก ก็ได้เลือกใช้ระบบที่ไม่มีกองหน้า โดยให้ทาง บรูโน่ แฟร์นันด์ส เล่นเป็นฟอลส์ไนน์ แทนที่จะเลือก แรชฟอร์ด ออกสตาร์ทตรงนั้น
เรียกได้ว่าเหตุการณ์นี้มันเหมือนเป็นการโดนทิ้งระเบิดอีกครั้งสำหรับ แรชฟอร์ด หลังจากที่เจ้าตัวต้องอดทนต่อสู้เพื่อฟอร์มการเล่นมาตลอดไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ตัวเขาเพิ่งจะได้เล่นตัวจริงเพียงแค่ 2 จาก 11 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีกให้ ยูไนเต็ด และเราก็ได้เห็นตำแหน่งปีกซ้ายที่เป็นตำแหน่งที่เขาชอบได้ถูกทาง เจดอน ซานโช่ ซึ่งดูดีขึ้นเรื่อยๆ ยึดตำแหน่งนั้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
มีรายงานจากเว็บไซด์โกล ที่ระบุว่า แรชฟอร์ด จะพิจารณาอนาคตของตัวเองในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หากยังไม่ได้รับโอกาสอยู่เหมือนเดิม การที่ต้องเริ่มต้นจากม้านั่งสำรองในศึกดาร์บี้แมตช์ โดยที่ รังนิก เลือกใช้ระบบไร้กองหน้าตัวเป้าดูเหมือนจะยิ่งเพิ่มความกังวลให้กับตัวเขามากยิ่งขึ้นไปอีก
เมื่อ แรชฟอร์ด ได้กลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้งหลังจากที่ตัวเขาได้เข้ารับการผ่าตัดหัวไหล่ มีความหวังมากมายว่าเขาจะก้าวไปถึงจุดสูงสุดภายใต้การทำทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น
แหล่งข่าวใกล้ชิดกับนักเตะเปิดเผยว่าเขายอมรับว่าฟอร์มของตัวเองไม่ดีพอ และเขาก็มุ่งมั่นที่จะต่อสู้เพื่อกลับไปเป็น 11 ตัวจริงอีกครั้ง ทว่าก็ยังมีความกังวลเกี่ยวกับตำแหน่งที่ดีที่สุดของเขาขึ้นมาอีก
รังนิก มีความเห็นว่าในตำแหน่งที่ดีที่สุดของทาง ซานโช่ อยู่ทางกราบซ้าย และด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นมากของนักเตะหนุ่มวัย 21 ปีในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มันเลยยิ่งทำให้ แรชฟอร์ด ต้องพบเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ
แรชฟอร์ด เชื่อว่าตัวเขานั้นยังต้องการเวลาในการเล่นตำแหน่งเดียวเพื่อฟื้นฟูฟอร์มการเล่น ถึงในตอนนี้ตัวเขาเพิ่งจะทำได้เพียงแค่ 5 ประตู จากการลงเล่น 24 นัด นั่นจึงไม่แปลกที่เขายอมรับว่าตัวเองยังต้องปรับปรุง
แรชฟอร์ด เหลือสัญญากับทางต้นสังกัดอีกแค่ 16 เดือน แต่สโมสรก็มีตัวเลือกที่จะขยายเพิ่มไปอีก 1 ปี ทว่า แรชฟอร์ด จะพิจารณาถึงการย้ายทีมของเขาอย่างรอบคอบแน่หากสถานการณ์ยังไม่เปลี่ยนแปลง
ยูไนเต็ด อาจจะพูดได้เลยว่าไม่มีความตั้งใจที่จะปล่อยเขาออกจากทีม และยังมีความเชื่อว่าตัวเขานั้นจะกลับไปอยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดได้
ตอนนี้ รังนิก เองก็ต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อให้ทีมของเขากลับมาทำประตูให้ได้ตามปกติ โดยตอนนี้ ผีแดง ได้หลุดจากท็อปโฟร์ไปแล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากเกมแพ้ 1-4 ที่เอติฮัด นี่แหละ
ทีมพวกเขามีปัญหาในเรื่องของการส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายอย่างเห็นได้ชัด ดูอย่างเกมกับ วัตฟอร์ด ในลีกเมื่อสัปดาห์ก่อน ทีมพวกเขามีโอกาสยิงมากถึง 22 ครั้ง แต่กลับทำได้แค่เพียงผลเสมอแบบไร้สกอร์ มันเป็นการเน้นย้ำว่า ยูไนเต็ด สร้างโอกาสได้ แต่กลับเปลี่ยนโอกาสเหล่านั้นให้เป็นประตูไม่ได้เลย
ทางเลือกของ รังนิก ถูกจำกัดด้วยการไม่มีผู้เล่นอย่าง เมสัน กรีนวู้ด ที่เรียกได้ว่าโดนพักงานแบบไร้กำหนด ส่วน เอดินสัน คาวานี่ ก็ไม่พร้อมใช้งานจากปัญหาเรื่องความฟิต และอาการบาดเจ็บ นอกจากนี้ ผู้จัดการทีมชั่วคราวชาวเยอรมันยังมีเรื่องของ โรนัลโด้ ที่ต้องจัดการด้วย
ซูเปอร์สตาร์ทีมชาติโปรตุเกสบินไปยังโปรตุเกสด้วยเครื่องส่วนตัวหลังไม่มีชื่อในเกมแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ โดย ริงนิก อธิบายว่าเขามีปัญหาที่กล้ามเนื้อสะโพก
รังนิก ยังคงต้องจัดการกับฟอร์มการเล่นของ แรชฟอร์ด และอีกในหลายๆเรื่องของบรรดากองหน้าคนอื่นๆ ในช่วงที่เหลืออยู่ของฤดูกาลนี้
อาร์เซน่อล ได้กลับมาแซงนำพวกเขาไปแล้ว 1 แต้ม แถมปืนใหญ่เองยังแข่งน้อยกว่าถึง 3 นัด สำหรับการแย่งชิงโควต้าแชมเปี้ยนส์ลีก แต่นี่ก็ยังไม่ใช่สิ่งที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มีความกังวลเพียงอย่างเดียว เรื่องของผู้จัดการทีมถาวรก็ด้วยเช่นกัน
สโมสรกำลังค้นหาตัวแทนถาวรสำหรับ โซลชา โดยมีทาง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ และ เอริก เทน ฮาก ที่มาเป็นตัวเต็ง แต่การขาดความชัดเจนว่าใครจะมาถึงในช่วงซัมเมอร์นี้ทำให้เกิดความกังวลในห้องแต่งตัว การตัดสินใจว่าใครจะเข้ามาแทน โซลชา ในระยะยาวมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่ออนาคตของผู้เล่นจำนวนหนึ่ง
โปเช็ตติโน่ ถือได้ว่าเป็นแฟนตัวยงของทาง แรชฟอร์ด และ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ก็เคยมาสอบถามเกี่ยวกับการคว้าตัวเขาเมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว แต่ก็ไม่มีการรับประกันอะไรว่าอดีตนายใหญ่ สเปอร์ส จะได้เข้ามานั่งกุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด ในซีซั่นหน้าขณะที่สโมสรกำลังสำรวจทางเลือกมากมาย
และไม่ว่าใครจะเข้ามา กองหน้าทีมชาติอังกฤษรายนี้ก็คงต้องยอมรับว่าฟอร์มปัจจุบันของตัวเขานั้น มันยิ่งทำให้เขาต้องดิ้นรนเพื่อสอดแทรกเข้าสู่ 11 ตัวจริง
ตอนนี้เหลือโปรแกรมอีก 10 นัดในลีก และแชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีม นัดสอง กับ แอต. มาดริด ในสัปดาห์หน้า แรชฟอร์ด จะต้องพิสูจน์อนาคตของตัวเอง
เขาจะต้องกลับไปยึดตัวจริงของทีมให้ได้ หรือไม่งั้นก็ต้องไปพิสูจน์ตัวเองกับที่อื่นแทน
รูป www.cbssports.com, www.thesun.co.uk, www.benchwarmers.ie
เนื้อข่าว m.thsport.com