ตำนานราชันชุดขาว รามอส อำลามาดริด พร้อมเผยสถานนีต่อไป

ข่าวฟุตบอล รามอส อำลามาดริด

ปิดฉาก 16 ปี กันอย่างสมบูรณ์แบบแล้วสำหรับ เซร์คิโอ รามอส กับ เรอัล มาดริด ภายหลังสัญญาของทั้งคู่กำลังจะหมดลงในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ ภายหลังมีการแถลงข่าวว่าจะแยกย้ายกันออกมาอย่างเป็นทางการ

ทำให้เรื่องราวต่างๆ ของ รามอส กับ “ราชันชุดขาว” มันกำลังจะถูกหยุดลง พร้อมหลงเหลือไว้เพียงความสำเร็จที่ร่วมกันกอบโกยกันมาตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา

ว่าแล้ว เราจะพาไปย้อนความหลัง พร้อมสดุดีความยอดเยี่ยมของ รามอส กันหน่อยว่าตลอดช่วงเวลา 16 ปี มีอะไรที่น่าจดจำ และเป็นที่กล่าวขานกันบ้าง

ก้าวแรกที่ เรอัล มาดริด

ย้อนกลับ เซร์คิโอ รามอส คือเด็กฝึกหัดของ เซบีย่า เข้ามาสู่ทีมตั้งแต่อายุเพียง 10 ขวบเท่านั้น ก่อนที่จะพัฒนาฝีเท้า เรียนรู้ และศึกษาศาสตร์ของลูกหนังจนได้โอกาสก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ และด้วยบุคลิก และฝีเท้ามันไม่แปลกเลยที่ เรอัล มาดริด มีความประสงค์อยากจะได้ตัวเด็กหนุ่มวัย 19 ปีผู้นี้ไปครอบครอง

ช่วงซัมเมอร์ปี 2005 ทัพ “ราชันชุดขาว” หอบเงินจำนวน 27 ล้านยูโร เพื่อเป็นการสู่ขอแนวรับผู้นี้เข้ามาเป็นอนาคตกำแพงเหล็กของทีม และนั้นคือจุดเริ่มต้นการใช้ทั้ง 2 เท้าในการขีดเขียนประวัติศาสตร์ แม้วันนั้นจะยังไม่มีใครเชื่อมั่น และกล้าฝากความหวัง แต่บทสรุปทุกอย่างมันคงต้องใช้เวลา และความสำเร็จเป็นตัวชี้วัด

ช่วงแรกของ รามอส กับ เรอัล มาดริด ถือว่ายากลำบากมากพอสมควร เนื่องด้วยตำแหน่งการเล่นที่ถูกจับโยกไปเล่นในบทบาทที่แตกต่างไม่ว่าจะเป็นเซ็นเตอร์ฮาร์ฟ, กองกลางตัวตัดเกม หรือ แบ็คขวา อีกทั้งคือเรื่องของความผิดพลาดเพียงฤดูกาลแรกกับ “ราชันชุดขาว” รามอส ถูกใบแดงไล่ออกจากสนามมากถึง 4 ครั้ง ทำให้วันนั้นมีคำถามมากมายหลั่งไหลมาว่าเงินจำนวน 27 ล้านยูโรจะเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำหรือไม่ เพราะเด็กหนุ่มคนนี้ดูไม่มีร่างทรงของการเป็นยอดนักเตะได้เลย

แต่ทว่าความผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่านั้นคือคุณครูชั้นเยี่ยมที่ทำให้เขาได้พัฒนาตัวเอง และไม่หยุดที่จะก้าวเดินไปข้างหน้า รามอส ทำงานอย่างหนัก เพื่อลบล้างคำสบประมาท เก็บคำวิจารณ์มาเป็นพลังบวกช่วยให้เขากล้าที่จะต่อสู้กับปัญหกา จนกระทั่งวันนึงเขาสามารถเค้นศักยภาพที่ดีที่ในร่างกายสุดออกมา พร้อมมีผลงานที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นปราการหลังตัวหลักของทีม ที่คอยแบกแนวรับ และช่วยยกระดับคู่ขาของตนเองให้โดดเด่นเกื้อหนุนกันไม่ว่าจะเป็น เปเป้, ราฟาเอล วาราน หรือ นาโช่ แฟร์นานเดส

ฉะนั้นแล้วเรื่องทั้งหมดมันสะท้อนออกมาให้เห็นถึงเรื่องของทัศนคติที่ยอดเยี่ยม จากเด็กน้อยที่ไม่ได้ถูกตั้งความหวัง ออกสตาร์ทด้วยผลงานลุ่มๆ ดอนๆ ทุกอย่างกลายเป็นกลับตาลปัตร พร้อมกันนั้น รามอส ยังพิสูจน์ตัวเองว่าอายุไม่อาจทำให้ผลงานของเขาด้อยลงไป อีกทั้งยังยืนระยะได้เป็นอย่างดี และยังดีพอในการเล่นในเกมระดับสูงอยู่เช่นเคย

ตำนานราชันชุดขาว รามอส อำลามาดริด พร้อมเผยสถานนีต่อไป 02

กัปตันผู้ยิ่งใหญ่

ย้อนกลับในวันที่ รามอส แปลงกายมาสวมชุด “ราชันชุดขาว” ออร่าความเป็นผู้นำของเขามันยังคงไม่สาดส่องออกมามากเท่าไหร่นัก แต่เมื่อเวลาที่มันค่อยๆ หล่อหลอมชายผู้นี้ทำให้ได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้น และความเป็นผู้นำเริ่มแสดงออกมาได้เด่นชัดมากเรื่อยๆ จนได้รับการแต่งตั้งเป็นรองกัปตันทีมตั้งแต่อายุเพียง 24 ปี 

จนกระทั่งเมื่อปี 2015 วันที่ อิเคย์ คาซิยาส ย้ายออกไป ปลอกแขนอันทรงเกียรติก็กลายมาเป็นของเขาที่ครอบครองมัน ซึ่งเขาไม่ต้องพิสูจน์อะไรอีกแล้ว เพราะด้วยความเป็นผู้นำทั้งใน และนอกสนามตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาพิสูจน์ด้วยตัวเองผ่านการกระทำที่ไม่ใช่เพียงคำพูดที่ลั่นวาจาออกมา

“กัปตันรามอส” แทบจะเป็นผู้นำในอุดมคติของกุนซือหลายๆ คน ในสนามเราจะได้เห็นความดุดันในแบบฉบับของเขา ถกแขนเสื้อขึ้นมาปกป้องลูกทีมจากสถานการณ์ต่างๆ ไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวว่าตรงหน้าคือใคร นักเตะคนนั้นจะเป็นซูเปอร์สตาร์มาจากไหน เขาพร้อมที่จะเชิดหน้าต่อสู้เพื่อตราสโมสร 

ยกตัวอย่างในกรณีของ เมสซี่ ในเกมที่พบกับ บาร์เซโลน่า เขาไม่ได้รู้สึกหวั่นเลยว่านี้คือดาวยิงเบอร์ต้นของโลก เขาพร้อมที่จะเล่นงาน และออกแอ็คชั่นต่างๆ เพื่อพาทีมไปถึงเป้าหมายของคำว่าผู้ชนะให้ได้

หรือนอกสนามเขาคอยกระตุ้นทุกคนในสนามซ้อม หรือว่ามีใครเหยาะแหยะ รามอส จะเข้าไปพูดด้วยตรงๆ ในแบบที่ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกแย่กับการกระทำ และค่อยกระตุ้นลูกทีมไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ไหนเพื่อเป้าหมายของทีมคือการพุ่งชนความสำเร็จ

ฉะนั้นแล้วมันไม่แปลกเลยที่แฟนบอล “ราชันชุดขาว” จะหลงรักกัปตันของพวกเขาคนนี้อย่างสุดขั้วหัวใจ และยกให้เป็นกัปตันผู้ยิ่งใหญ่อีกคนของสโมสรแห่งนี้

กองหลังจอมพังประตู

หน้าที่หลักของแนวรับคือการป้องกันประตู เพราะอย่างน้อยถ้าคุณไม่โดนยิงยังไงคุณก็ไม่มีวันพ่ายแพ้ แต่กับ รามอส เขาเหมือนมีออฟชั่นเสริมนั้นคือเรื่องของการเติมขึ้นไปทำประตู โดยเฉพาะจากลูกกลางอากาศที่รับประกันได้เลยว่ามีโอกาสผลิตสกอร์ได้สูงมาก

จากสถิติระบุว่า รามอส คือกองหลังที่ทำประตูได้เยอะที่สุดในศึกลาลีกา สเปน ด้วยจำนวน 74 ประตู ซึ่งจากตัวเองดังกล่าวมันมากพอสมควร และยิ่งเกิดขึ้นกับนักเตะในตำแหน่งกองหลังมันเลยทำให้มันว้าวมากกว่าเดิมแบบคูณสอง

ซึ่งประตูส่วนใหญ่ที่ รามอส ทำได้ก็มาจากการเติมขึ้นมาลุ้นโชกจากจังหวะเตะมุม หรือฟรีคิก ส่วนอีกด้านคือการเป็นแนวรับจอมสังหารจุดโทษที่แทบการันตีความแม่นยำในระดับ 100 เปอร์เซนต์เลยทีเดียว

และด้วยออฟชั่นเสริมเหล่านี้มันก็มีหลายครั้งที่เขาคือคนที่ช่วยตัดสินเกม หรือพาทีมรอดตายจากความพ่ายแพ้ ยกตัวอย่างในเกมนัดชิง แชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อปี 2014 เกมโคจรมาจนกระทั่งถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งหลัง สกอร์บอร์ดขึ้นตัวเลขว่า เรอัล มาดริด ตามหลัง แอต.มาดริด อยู่ 0-1 พร้อมเหลือเวลาที่ทดเพิ่มเข้าไปอีก 5 นาที แต่ทันใดนั้น รามอส ที่เติมขึ้นมาลุ้นจากจังหวะเตะมุมก็พุ่งทะยานโขกเข้าไปตุงตาข่าย พาทีมรอดพ้นความตายก่อนที่จะไปยิงรัวแซงในช่วงต่อเวลา คว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ

นี่แหละครับหนึ่งในนักเตะแนวรับที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องของการทำประตู และมันเลยกลายเป็นอาวุธที่ไม่ลับของ เรอัล มาดริด ที่คู่แข่งจับทางได้ยากเหลือเกินในการรับมือ

ตำนานราชันชุดขาว รามอส อำลามาดริด พร้อมเผยสถานนีต่อไป 03

ความสำเร็จ 

จากวันแรกที่เริ่มเดินทางกับ เรอัล มาดริด ถ้าจะบอกว่าเด็กหนุ่มผมยาวคนนี้จะสอยแชมป์ให้ทีมได้มากถึง 22 โทรฟี่ คงเป็นเรื่องที่เกินกว่าจะฝันไปมากเลยทีเดียว แต่ทว่ากับวันนี้ทุกอย่างมันได้เกิดขึ้นแล้ว เซร์คิโอ รามอส คือฟันเฟืองชิ้นสำคัญในการพาทีมพุ่งชนความสำเร็จอย่างต่อเนื่องนานกว่า 16 ปีที่สวมใส่เครื่องแบบโลโก้นี้

ก่อนอื่นขอจำแนกก่อนว่า 22 แชมป์นั้นประกอบไปด้วยอะไรบ้างไล่เรียงโทรฟี่ในประเทศก็มี ลาลีกา สเปน 5 สมัย, โกปา เดล เรย์ 2 สมัย และ ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า 4 สมัย ส่วนในเรื่องของทัวร์นาเมนต์นอกประเทศก็สอยแชมป์ แชมเปี้ยนส์ 4 สมัย, ซูเปอร์คัพ 3 สมัย และสโมสรโลกอีก 4 สมัย

โดยความสำเร็จแรกของเขากับ เรอัล มาดริด คือแชมป์ลาลีกา สเปน เมื่อซีซั่น 2006-07 ฤดูกาลที่เจ้าตัวยืนเป็นตัวหลักในเกมรับลงเล่น 2 ตำแหน่งสลับกันระหว่างเซ็นเตอร์ฮาร์ฟ กับ แบ็คขวา รวมแล้วลงสนามในขวบปีนั้นไปทั้งหมด 33 นัด ซัดไป 5 ประตู พ่วงด้วย 4 แอสซิสต์

ส่วนแชมป์ครั้งสุดท้ายภายใต้สีเสื้อ “ราชันชุดขาว” คือโทรฟี่ลาลีกา สเปน เหมือนเดิมเมื่อซีซั่น 2019-20 ที่เข้าป้ายด้วยการเป็นทีมที่เสียประตูน้อยสุดในลีกเพียง 25 ตุง และตัวเขาคือรองดาวซัลโวของทีมด้วยการกระหน่ำไป 11 ประตู เป็นรองเพียง คารอม เบนเซม่า คนเดียว

วันที่ต้องอำลา

“ทุกงานเลี้ยง ย่อมมีวันเลิกรา” วลีสั้นๆ ที่ยังคงใช้ได้กับทุกเทศกาล เฉกเช่นเดียวกับ รามอส กับ เรอัล มาดริด ภายหลังมีการออกมาแถลงการณ์อย่างเป็นทางการแล้วว่าจะแยกทางกันไปหลังจบฤดูกาลที่ผ่านมา

เชื่อว่าแฟนบอล มาดริด เองคงเสียดายไม่น้อยที่ต้องโบกมืออำลากัปตันของพวกเขา เพราะถ้าวัดกันที่ฝีเท้า และผลงานในสนามนี่คือกองหลังที่ไว้ใจได้มากที่สุดแล้ว แม้อายุจะเพิ่มมากขึ้น แต่ประสิทธิภาพ รวมไปถึงมาดของความเป็นผู้นำมันยากมากๆ ที่จะหาใครสักคนในการเจรญรอยตาม และอุดรอยรั่วตรงนี้ให้มันปิดสนิท

16 ปีในสีเสื้อของ เรอัล มาดริด เขาไม่ต่างอะไรกับการเป็นไอคอนของสโมสรแห่งนี้ มันคงจะเป็นภาพจำไปแล้วว่า รามอส ต้องคู่ควรกับเสื้อสีขาว พร้อมมีปลอกแขนกัปตันทีมที่ต้นแขนข้างซ้าย

แต่อย่างว่าโลกของฟุตบอลมันย่อมมีวิถีของมัน วันนี้ที่จะปาดน้ำตาอำลากันไปมันคงมีภาพต่างๆ มากมายในหัวแฟนบอลถึงผู้ชายคนนี้ 

จากวันแรกถึงวันสุดท้าย เซร์คิโอ รามอส ผ่านวันที่สวยงามที่สุด และวันที่หม่นหมองที่สุดกับสโมสรแห่งนี้มาหมดแล้ว สิ่งที่หลงเหลือไว้ก็เพียงแค่คำว่า “ตำนาน” ให้ได้พูดถึงกันไปอีกแสนนาน

ตำนานราชันชุดขาว รามอส อำลามาดริด พร้อมเผยสถานนีต่อไป 04

อนาคตต่อจากนี้ ?

นี่คือประเด็นที่ยังไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าอนาคตของ รามอส จะไปลงเอยกับสโมสรไหน แต่ถ้าประเมินจากสถานการณ์ รวมไปถึงสภาพร่างกายของเจ้าตัวแล้วเชื่อว่ายังไงเสียเจ้าตัวก็ยังคงโลดแล่นอยู่กับเหล่าสโมสรใหญ่จาก 5 ลีกดังยุโรปเหมือนเดิม

แม้ตอนแรกจะมีข่าวลือหลุดออกมาว่า เซบีย่า อดีตทีมของเขาสนใจจะดึงตัวกลับไปร่วมงาน แต่ทว่าล่าสุดจากการเปิดเผยของ ฟาบริซิโอ โรมาโน่ นักข่าวดังชาวอิตาลี ได้ระบุชัดเจนว่ามุดหมายของ รามอส ไม่ใช่รังเก่าของเขา และกำลังเจรจากับสโมสรอื่นๆ อยู่ในขณะนี้

ซึ่งถ้าวิเคราะห์กันตามรูปงาน และทีมที่พอจะมีกำลังจ้าง รวมไปถึงต้องการแนวรับมากประสบการณ์ไปช่วยคุมหลังบ้านชื่อของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือ 2 ทีมที่เข้ามาเกี่ยวโยงกับแนวรับผู้นี้มากที่สุด หรืออาจจะรวม ยูเวนตุส อีกหนึ่งทีมที่มีโอกาสซิวตัวไปครองได้เหมือนกัน

ฉะนั้นแล้วเราในฐานะแฟนบอลคงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดถึงอนาคตต่อจากนี้ของ รามอส ว่าจะออกไปในทิศทางไหน ซึ่งเชื่อว่าอีกไม่นานเกินรอภาพทุกอย่างมันจะคงชัดเจนมากยิ่งขึ้น และถึงวันนั้นเราคงได้เห็นว่าสถานีต่อไปของ เซร์คิโอ รามอส จะไปชูเสื้อ และแสดงฝีเท้ากับสโมสรอะไร ต้องบอกว่าน่าสนใจเลยทีเดียว

ข่าวบอลล่าสุด