วันเวลาล่วงเลยผ่านไป 7 เดือนเศษๆ แต่ทว่าทางแฟนบอล เอซี มิลาน ก็ยังคงไม่ลืมความโกรธแค้นต่างๆที่มีต่อนายทวารอย่าง จานลุยจิ ดอนนารุมม่า และมันยิ่งสะกิดใจทุกครั้งเพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ได้รับรู้บทสัมภาษณ์ของผู้รักษาประตูทีมชาติอิตาลี ไม่ใช่เพียงแค่ ดอนนารุมม่า แต่ยังมีเอเยนต์คนดังอย่าง มิโน่ ไรโอล่า ก็ยังคงถูกแฟนๆ มิลาน ตำหนิอย่างมากว่าตัวเขานั้นเป็นต้นเหตุให้ผู้รักษาประตูวัย 22 ปี เลือกที่จะไม่ต่อสัญญาแล้วปล่อยให้สัญญาของตัวเองสิ้นสุดลง เพื่อจะได้เพิ่มโอกาสให้ตัวเขาเองในการเลือกสโมสรใหม่ และสามารถที่จัต่อรองค่าจ้างได้
ภายหลังจากการที่เซ็นสัญญาแบบไม่มีค่าตัวกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ดอนนารุมม่า ยังคงย้ำเสมอมาว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องและยังเป็นการตัดสินใจที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเงิน การตัดสินใจครั้งนี้เป็นการตัดสินใจด้วยเหตุผลทางด้านกีฬาล้วนๆ หรืออะไรก็ตามแต่ แต่บรรดาแฟนๆ มิลาน หลายคนก็คงไม่มีใครอยากที่จะเชื่อคำอธิบายของเจ้าตัวสักเท่าไหร่ และการให้สัมภาษณ์ครั้งล่าสุดที่ผ่านมากับสื่อบ้านเกิด ลา กัซเซ็ตต้า เดลโล่ สปอร์ต ดอนนารุมม่า หยอดคำหวานเหมือนต้องการจะสงบศึกกับ มิลาน แต่ในท้ายที่สุดแล้ว มันกลับกลายเป็นการเติมเชื้อไฟลงไปเพิ่ม
“ผมคงทำได้แค่ขอบคุณสโมสรสำหรับสิ่งต่างๆ ที่พวกเขาปฏิบัติกับผมมาโดยตลอด”
“ผมปรับปรุงตัวเองขึ้นมากทั้งที่ มิลาน ในฐานะคนๆ หนึ่ง และในฐานะนักเตะฟุตบอล”
“ทุกคนต่างตำหนิผม โดยปราศจากการพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นในอีกมุมหนึ่ง”
“การติดต่อครั้งสุดท้ายจาก มิลาน คือการบอกผมว่าพวกเขาเซ็นสัญญากับผู้รักษาประตูคนใหม่แล้ว นั่นแหละคือจุดสิ้นสุด”
แม้ตังเขาจะแยกทางกันแบบไม่น่าจดจำกับทางต้นสังกัดเก่า แต่ ดอนนารุมม่า ก็ยังคงยืนยันในความรักที่เขามีต่อ มิลาน ในฐานะแฟนบอลคนหนึ่ง และยังคงพูดคุยกับอดีตเจ้านาย สเตฟาโน่ ปิโอลี่ เช่นเดียวกับเพื่อนเก่าหลายคนที่ ซาน ซีโร่
“ในฐานะแฟนบอลคนหนึ่ง ผมยังคงติดตามทุกๆ เกมของพวกเขาอย่างเต็มที่ ผมยังคงพูดคุยกับเพื่อนร่วมทีมเก่าอยู่บ่อยๆ ปิโอลี่ ก็ด้วย ผมมีความสุขกับสิ่งที่พวกเขากำลังดำเนินไป”
“ผมหวังว่าพวกเขาจะไปได้จนสุดทาง ผมดีใจมากๆ กับ มิลาน และแฟนๆ ที่พวกเขาเอาชนะในเกมดาร์บี้ (เจอ อินเตอร์)”
ดอนนารุมม่า ก็ยังยืนยันถึงความประทับใจที่มีต่อยอดทีมแห่งศึกลีกเอิง ฝรั่งเศส ที่แสดงความสนใจอย่างจริงจังมานานแล้ว
“ผมคิดว่า เปแอสเช คือโชคชะตาของผม”
“พวกเขาติดตามผมมานานหลายปีแล้ว และแสดงออกให้แน่ใจมาโดยตลอดว่าผมได้รับรู้ความสนใจจากพวกเขา”
“ทุกคนที่สโมสรแห่งนี้ทำให้ผมรู้สึกเป็นเหมือนคนสำคัญ ตั้งแต่ประธาน อัล-เคไลฟี่ ไปจนถึงผู้อำนวยการ เลโอนาร์โด้”
“ผมมีความสุขและภาคภูมิใจที่ได้มาอยู่ที่นี่”
ดอนนารุมม่า ได้เซ็นสัญญามาแถมตัวเขาก็ไม่ได้เข้ามาการันตีมือหนึ่งในทีม เปแอสเช เพราะช่วงแรก เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ยังคงที่จะเลือกใช้งาน เกย์เลอร์ นาวาส ลงเฝ้าเสาต่อเนื่อง
แต่หลังจากนั้นโอกาสของผู้รักษาประตูทีมชาติอิตาลีก็เหมือนจะเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ในท้ายที่สุดแล้วมันก็ยังคงเป็นการโรเตชั่นจากเทรนเนอร์ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่
“ผมรับรู้ว่านี่คือสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนเซ็นสัญญากับ เปแอสเช แล้ว”
“ผมไม่รู้ว่าเขา (นาวาส) คิดอย่างไร แต่ผมโอเคกับสถานการณ์นี้ เพราะทุกคนที่นี่ทำให้ผมรู้สึกเป็นคนสำคัญอยู่เสมอ”
“ไม่ใช่เรื่องจริงเลยที่บอกว่าเราแตกคอกัน เรามีความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยม เขานิสัยดี และไม่มีปัญหาใดๆ เกิดขึ้นเลย”
การมาร่วมทีม เปแอสเช มีอีกความฝันที่ถูกเติมเต็ม นั่นคือการสัมผัสเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งแรก
“เป็นเรื่องพิเศษที่ผมได้เล่นเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งแรกกับทีมนี้”
“แน่นอน มีความคาดหวังสูงลิ่วกับเรา แต่ทุกเกมที่ลงสนามต้องเล่นอย่างดีที่สุด เกมเจอ เรอัล มาดริด จะเป็นงานที่ยากมากๆ แต่เราสามารถต่อสู้เพื่อชัยชนะ และผ่านเข้ารอบให้ได้”
“แชมเปี้ยนส์ ลีก คือหนึ่งในเป้าหมายของเรา”
การที่ตัวเขาจะได้ลงเล่นในทีมเดียวกับดาวดังอย่าง ลีโอเนล เมสซี่, คีลียัน เอ็มบัปเป้, เนย์มาร์ และลงซ้อมร่วมกับสตาร์เหล่านั้นในทุกๆ วัน เพียงแค่นี้ก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องพิเศษเอามากๆของ ดอนนารุมม่า
“พวกเขาล้วนไม่ธรรมดาเลยสักคน ผมได้เห็นจากการฝึกซ้อมในทุกๆ วัน เป็นอะไรที่พิเศษมากๆ ที่ได้มาอยู่ที่นี่ เพราะคุณได้พัฒนาตัวเองขึ้นในทุกๆ วันจากการซ้อมกับเหล่าแชมเปี้ยนมากความสามารถเหล่านี้”
ในท้ายสุดนี้ ดอนนารุมม่า ก็ยังได้พูดถึงเป้าหมายใหญ่ของเขาที่มีความกดดันสุดๆ นั่นคือการที่จะพาทีมชาติอิตาลี สามารถที่จะตีตั๋วเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ในช่วงปลายปีนี้ให้ได้
โดย อัซซูรี่ ได้หล่นจากอันดับหนึ่งของกลุ่มในรอบคัดเลือก ก็เลยต้องมาดิ้นรนในรอบเพลย์ออฟ ทั้งที่ 7 เดือนก่อนหน้านี้ ทางทีมก็เพิ่งฉลองแชมป์ยูโร 2020 มาอย่างยิ่งใหญ่
“เป็นเรื่องพิเศษที่ได้คว้าแชมป์ในทุกทีมชาติอิตาลี การเป็นแชมป์ยูโรเป็นผลงานชิ้นเอก เป็นเรื่องพิเศษที่เราทำได้ ต้องขอบคุณการทำงานของ มันชินี่ และสต๊าฟฟ์”
“เรายังไม่บรรลุเป้าหมายในรอบคัดเลือก ฟุตบอลโลก แต่ผมเชื่อว่าเราจะได้ไปลุยฟุตบอลโลก เพราะเรารู้วิธีตอบสนองในช่วงเวลาที่ยากลำบาก เราสูญเสียบางอย่างไปหลังจบศึกยูโร แต่เราจะทำให้เกิดขึ้น”
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็คือความในใจของ ดอนนารุมม่า ในฤดูกาลแรกที่ดูแล้วหนทางก็ไม่ได้สวยงามและง่ายดายอย่างที่คิด อาจจะต้องใช้เวลาในการพลิกสถานการณ์ต่างๆ กับ เปแอสเช รวมถึงความหลังกับ มิลาน ด้วย
รูป www.thesun.co.uk, www.marca.com, mscfootball.com
เนื้อข่าว m.thsport.com