ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก
(2/ลา ลีกา) เรอัล มาดริด-ลิเวอร์พูล (6/พรีเมียร์ลีก) > > > คลิก
วันอังคารที่ 6 เมษายน 2564
สนาม : เอสตาดิโอ อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ เวลา : 02.00 น.
#วิเคราะห์บอลเรอัลมาดริด #วิเคราะห์บอลลิเวอร์พูล
เรอัล มาดริด
ผลงาน 5 นัดหลัง
ชนะ เออิบาร์ 2-0 (เหย้า) ลา ลีกา
ชนะ เซลต้า บีโก้ 3-1 (เยือน) ลา ลีกา
ชนะ อตาลันต้า 3-1 (เหย้า) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ชนะ เอลเช่ 2-1 (เหย้า) ลา ลีกา
เสมอ แอตเลติโก้ มาดริด 1-1 (เยือน) ลา ลีกา
⚽📺🎮 ¡A partir de las 17h30 CEST, no puedes perderte en nuestro canal de @Twitch 🟣 '𝑻𝑯𝑬 𝑷𝑹𝑬𝑽𝑰𝑨'!
— Real Madrid C.F. (@realmadrid) April 5, 2021
🗣️ ¡Interacción EN DIRECT🔴 y toda la previa de nuestro partido 🆚 @LFC!
✨ #UCL ✨
สภาพทีมเรอัล มาดริด
กุนซือ ซีเนอดีน ซีดาน ยังคงไม่มีผู้เล่นตัวหลักในแนวแผงแบ็คโฟร์อย่าง เซร์คิโอ รามอส กัปตันทีม ดานี่ การ์บาฆาล แบ็คขวา และ เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ ที่บาดเจ็บทั้งหมดรวมถึง เอแดน อาซาร์ แข้งในแนวรุกที่ต้องพักฟื้นหลังเกิดเจ็บซ้ำ ส่วน ราฟาเอล วาราน จะกลับมายืนเป็นหัวใจเกมรับในระบบ 3-5-2 หลังได้พักในนัดที่ชนะเออิบาร์ 2-0 โทนี่ โครส และ วินิซิอุส จูเนียร์ น่าจะเป็นอีก 2 รายที่มีลุ้นออกสตาร์ตในเกมนี้เช่นกัน เกมรุกมี คาริม เบนเซม่า เป็นตัวความหวัง
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เรอัล มาดริด (3-5-2) : ติโบต์ กูร์ตัวส์ ; ราฟาเอล วาราน, เอแดร์ มิลิเตา,นาโช่ ; ลูคัส บาซเกซ, ลูก้า โมดริช, คาเซมิโร่, โทนี่ โครส,แฟร์กล็องด์ เมนดี้ ; คาริม เบนเซม่า, วินิซิอุส จูเนียร์
ลิเวอร์พูล
ผลงาน 5 นัดหลัง
ชนะ อาร์เซนอล 3-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0 (เยือน)พรีเมียร์ลีก
ชนะ แอร์เบ ไลป์ซิก 2-0 (กลาง) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
แพ้ ฟูแล่ม 0-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
แพ้ เชลซี 0-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
Next up, @ChampionsLeague in Madrid ✨#LFC | #UCL pic.twitter.com/Hipc4KiBiq
— Liverpool FC (@LFC) April 4, 2021
สภาพทีมลิเวอร์พูล
เจอร์เก้น คล็อปป์ เกมนี้พร้อมส่ง ดีโอโก้ โชต้า ที่ลงมาเป็นซูเปอร์ซับ ทำ 2 ประตูในเกมบุกชนะ อาร์เซนอล 3-0 มีลุ้นเบียด โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ยืนเป็นสามประสานกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ ในรายของ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม อาจได้ทำหน้าที่แทน เจมส์ มิลเลอร์ ส่วน ฟาบินโญ่ ที่กลับมาเล่นตำแหน่งเดิมได้ดีจะเป็นตัวเชื่อมในแดนกลาง ส่วนคู่เซ็นเตอร์หน้าจะเป็นหน้าที่ของ นาธาเนียล ฟิลลิปส์ กับ โอซาน คาบัค ที่เริ่มเล่นเข้ากันอย่างลงตัว ส่วนบรรดาแข้งบาดเจ็บยังเป็น โจ โกเมซ,เฟอร์กิล ฟาน ไดค์,จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ โจเอล มาติป เช่นเดิม ในรายของ ควีวิน เคลเลเฮอร์ และ ดิว็อค โอริกี้ น่าจะกลับมามีชื่อที่ม้านั่งสำรอง
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ ; เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, นาธาเนียล ฟิลลิปส์, โอซาน คาบัค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ; ติอาโก้ อัลคันทาร่า, ฟาบินโญ่, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม ; โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่
ความน่าจะเป็นของเกม
“ราชันชุดขาว” ไม่แพ้ใน 11 เกมหลังทุกรายการ ( ชนะ 9 เสมอ 2) และเป็นการชนะรวดใน 4 เกมหลังสุด ทางด้าน” หงส์แดง” 15 เกมหลังในทุกรายการไม่เคยจบด้วยผลเสมอ (ชนะ 7 แพ้ 8)…เกมนี้ถือเป็นเกมรีแม็ตช์คู่ชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2017-2018 ซึ่งแม็ตช์นั้น เรอัล มาดริด ชนะ 3-1 ที่กรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เกมนี้ลูกทีมของ ซีเนอดีน ซีดาน อาจดูเลื่อมกว่าเล็กน้อย ในเรื่องของตัวผู้เล่นที่ได้พักในเกมลีกล่าสุด ขณะที่ ลิเวอร์พูล เริ่มจะกลับมารักษาฟอร์มได้ดีเป็นลำดับ คู่นี้โอกาสออกได้ทั้งสามหน้า แต่หากเลือกฟันธงน่าจะจบด้วยผลเสมอแบบลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ มีลุ้นคว้าชัยได้เช่นกัน
สกอร์ที่คาด
ลิเวอร์พูล ชนะ 1-0