เอฟเอ คัพ อังกฤษ
(5) เชลซี-แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (1) > > > คลิก
วันเสาร์ที่ 17 เมษายน 2564
สนาม : เวมบลีย์ เวลา : 23.30 น.
#วิเคราะห์บอลเชลซี #วิเคราะห์บอลแมนฯซิตี้
เชลซี
ผลงาน 5 นัดหลัง
แพ้ ปอร์โต้ 0-1 (กลาง) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ชนะ คริสตัล พาเลซ 4-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
ชนะ ปอร์โต้ 2-0 (กลาง) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
แพ้ เวสต์บรอมวิช 2-5 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
ชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-0 (เหย้า) เอฟเอ คัพ
สภาพทีมเชลซี
Last time out in the #FACup…
— Chelsea FC (@ChelseaFC) April 16, 2021
Chilly inspired x Wizard finish! 💪 pic.twitter.com/2T119cLrq4
สภาพทีมเชลซี
กุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล พาทีมแพ้ ปอร์โต้ 0-1 ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ยังผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศด้วยประตูรวม 2 นัด เกมนี้ต้องเสีย มาเตโอ โควาซิซ กองกลางที่เจ็บก่อนวอร์มในเกมดังกล่าว ทำให้แดนกลางวันนี้น่าจะเป็นหน้าที่ของ จอร์จินโญ่ กับ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ แม้อาจจะมีการโรเตชั่นบางจุดแต่ยังเชื่อว่าในแนวรุกยังจะเป็น เมสัน เมาน์ท, คริสเตียน พูลิซิช และ ไค
ฮาแวร์ตซ์ โดยมี ติโม แวร์เนอร์ ที่อาจเบียดแย่งพื้นที่ของ เมาน์ท ซึ่งอาจมีปัญหาเรื่องความฟิต ขณะที่ แทมมี่ อบราฮัม ที่โชว์ฟอร์มได้ดีในรายการนี้เป็นอีกออฟชั่นที่มีลุ้นสตาร์ต ไม่ต่างจาก โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ในแนวรับ เกปา อาร์ริซาบาลาก้า จะได้เฝ้าเสา รวมถึง อันเดรียส คริสเตียนเซ่น ที่จะมีชื่อในแดนหลัง
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี (3-4-2-1) : เกปา อาร์ริซาบาลาก้า ; เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, อันโตนิโอ รือดิเกอร์,อันเดรียส คริสเตียนเซ่น ; รีซ เจมส์, จอร์จินโญ่, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาร์กอส อลอนโซ่ ; เมสัน เมาน์ท , คริสเตียน พูลิซิช ; โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ผลงาน 5 นัดหลัง
ชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 2-1 (เยือน) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
แพ้ ลีดส์ 1-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
ชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 2-1 (เหย้า) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ชนะ เลสเตอร์ 2-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 (เยือน) เอฟเอ คัพ
Tune is shortly to watch Pep preview Saturday's trip to Wembley! 👊
— Manchester City (@ManCity) April 16, 2021
⚽️ @marathonbet
🔷 #ManCity | https://t.co/axa0klD5re
สภาพทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้
เป๊ป กวาดิโอล่า เพิ่งพาทีมชนะไป-กลับ ชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทำให้ผ่านเข้าสู่รอบรองยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เซร์คิโอ อเกวโร่ ดาวซัลโวตลอดกาลของทีม และทำไป 15 ประตูในการพบเชลซี เกมนี้ยังเจออาการเจ็บกล้ามเนื้อไม่น่าพร้อมเกมนี้ อายเมอริค ลาป๊อร์กต์ ที่เกมกลางสัปดาห์นั่งสำรองเกมนี้น่าจะกลับมามีชื่อในเกมรับ ส่วน ชูเอา กานเซโล่ ที่ได้พักในเกมเดียวกันจะคืนทีมตัวจริงเช่นเดียวกับ แบงฌาแม็ง เมนดี้ ส่วน ไคล์ วอล์คเกอร์ ที่กรำศึกต่อเนื่องมาติดกันน่าจะได้พัก ขยับมาที่แดนกลาง เควิน เดอ บรอยน์ น่าจะเชื่อมเกมร่วมกับ โรดรี้ เอร์นานเดซ และ อิลคาย กุนโดกัน อีกครั้ง เกมรุกจะใช้บริการ ริยาด มาห์เรซ หรือ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เดินเกมกับ กาเบรี่ยล เฆซุส และ ฟิล โฟเด้น
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-2-3-1) : เอแดร์ซอน โมราเอส ; ชูเอา กานเซโล่, รูเบน ดิอ๊าส, อายเมอริค ลาป๊อร์กต์, แบงฌาแม็ง เมนดี้ ; โรดรี้ เอร์นานเดซ, อิลคาย กุนโดกัน ; ริยาด มาห์เรซ, เควิน เดอ บรอยน์, ฟิล โฟเด้น ; กาเบรี่ยล เฆซุส
ความน่าจะเป็นของเกม
“สิงโตน้ำเงินคราม” 18 เกมที่ผ่านมาภายใต้ยุค โธมัส ทูเคิ่ล แพ้เพียงเกมเดียวให้เวสต์บรอมวิช (ชนะ 13 เสมอ 4 ) ด้าน “เรือใบสีฟ้า” 30 นัดที่ผ่านมาทุกรายการแพ้เพียง 2 นัดให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ลีดส์ ที่เหลือชนะทั้งหมด เจอกันก่อนหน้านี้ 167 นัดในทุกรายการ เป็น เชลซี ชนะ 68 ซิตี้ ชนะ 59 ขณะที่ล่าสุดการเจอกันในลีกนัดแรกของฤดูกาลนี้ เป็น ซิตี้ บุกไปชนะ 3-1 เรียกว่าเพิ่งกรำศึกถ้วยใหญ่มาทั้งคู่ และเกมนี้ก็เล่นในสังเวียนกลาง ทำให้ไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบเสียเปรียบ และน่าจะมาใส่เต็มที่ โอกาสออกได้สามหน้าก็จริง แต่หากให้เลือกผู้ชนะยังเชื่อว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ขุมกำลังและกึ๋นบอลครบเครื่องกว่าน่าจะเป็นฝ่ายคว้าชัยตบเท้าเข้าไปชิงชนะเลิศได้
สกอร์ที่คาด
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ 1-0