อายุน้อยร้อยเกมแห่งสิงห์บลูส์

เมสัน เมาท์ ได้กลายเป็นนักเตะ เชลซี คนล่าสุดที่ลงสนามในพรีเมียร์ลีกให้สโมสรครบ 100 เกม ในเกมที่ทีมเจอกับ อาร์เซน่อล เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดูเหมือนเพิ่งผ่านมาเมื่อวานนี้เท่านั้นที่แข้งลูกหม้อของสโมสรลงเล่นเกมแรกให้กับทีมย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาล 2019/20 พร้อมกับเปิดตัวลงเล่นใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ ครั้งแรกด้วยการทำประตูให้ทีมได้ทันทีในเกมที่เสมอกับ เลสเตอร์ ซิตี้ จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เมสัน เมาท์ ตัวเขาได้มีการพัฒนาตัวเองขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทีมและยังได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง ระยะเวลาเกือบๆ 3 ปีกับทีมเจ้าตัวนั้นได้ลงเล่นไปแล้วถึง 155 เกม เฉลี่ยนแต่ละปีเกิน 50 นัด จากที่ตัวเขาเคยถูกมองว่าเป็นเด็กเส้นของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่ร่วมงานกันมาตั้งแต่สมัยอยู่ ดาร์บี้ แต่ โธมัส ทูเคิ่ล ก็ยกให้แข้งทีมชาติอังกฤษเป็นตัวรุกลำดับต้นๆของทีม 29 ประตูกับ 30 แอสซิสต์นี่คือสถิติส่วนตัวของ เมาท์ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเกิดขึ้นในซีซั่นนี้ถึง 12 ลูกกับ 15 แอสซิสต์ เรียกได้ว่านี่อาจจะเป็นปีที่ดีที่สุดในชุดสีน้ำเงินของเจ้าตัวเลยก็ว่าได้ การที่ตัวเขาลงสนามครบ 100 เกมในพรีเมียร์ลีกทาง เมสัน เมาท์ […]
ลุ้นแชมป์ & ลุ้นตกชั้นโคตรมันส์

ช่วงนี้ที่เป็นโค้งสุดท้ายของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ การลุ้นแชมป์และการลุ้นเพื่อหนีตกชั้นเรียกได้ว่ามันส์สุดๆกันไปเลยทีเดียว กับการลุ้นแชมป์ที่แน่นอนว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล ที่ยังคงจะต้องต่อสู้กันใน 5 เกมสุดท้าย ใครจะอยู่ใครจะไปเป็นสิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง สถานการณ์ในตอนนี้ก็คือ เล่นไป 33 เกมเท่ากัน แมนฯซิตี้ มี 80 แต้ม ส่วน ลิเวอร์พูล 79 แต้ม แต่ประตูได้เสีย หงส์แดง ดีกว่า 4 เม็ด แถวบ้านเรียกว่า แมนฯซิตี้ มีมากกว่า ลิเวอร์พูล แค่ “ครึ่งแต้ม” เท่านั้น มันเลยเป็นช่วงบีบหัวใจในทุกๆเกม อย่างล่าสุดกว่าที่ หงส์แดง จะสยบคู่แข่งขันอย่าง เอฟเวอร์ตัน ได้ 2-0 ก็เล่นเอาเสียวไปเหมือนกัน เพราะไปได้ 2 ประตูในครึ่งเวลาหลัง อาจจะเรียกได้ว่าก็ต้องลุ้นกันไปนัดต่อนัด โดยเกมหน้าคู่จะลงสนามในวันเสาร์ ลิเวอร์พูล ลงเล่นก่อนเวลา 18.30 น.ที่บ้านของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด สาลิกาดง […]
นี่แหละที่เรียกว่าคราวซวย! สิ่งที่อยากบอกหลัง แมนยู บุกพ่าย อาร์เซน่อล

แมนฯ ยูไนเต็ด ก็คงต้องบอกว่าแพ้อีกแล้วนะครับ แม้ว่าทางทีมจะต้องการ 3 แต้มสำคัญเป็นอย่างยิ่งก็ตาม เท่ากับว่า 5 นัดล่าสุดในพรีเมียร์ลีก พวกเขาสามารถเก็บชัยชนะได้แค่นัดเดียว เสมอ 1 นัด และปราชัย 3 นัด ยิงได้เพียง 5 ประตู โดนไปไม่มาก แค่ 11 ดอกเท่านั้นเอง 1. หลังจากที่ตัวเขานั้นกลายเป็น ‘ตัวตลก’ อย่างสมบูรณ์แบบ ลงเล่นเมื่อไหร่ความบรรลัยมาเยือนเมื่อนั้นจนบ้านเกือบบึ้มส์ เพราะถูกขู่วางระเบิด แฮร์รี่ แม็กไกวร์ จึงได้ถูกจับไปนั่งอยู่อยู่ข้างสนาม อีกทั้งทาง ราฟาแอล วาราน ก็ได้หายจากอาการบาดเจ็บกลับมาพอดีได้ยืนเป็นเซ็นเตอร์ฯ คู่กับ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ แดนกลางที่ไม่มี ปอล ป๊อกบา ที่ปิดเทอมล่วงหน้าเรียบร้อย แต่ได้ สก๊อตต์ แม็คทอมิเนย์ กลับมายืนเป็นตัวรับคู่กับ เนมานย่า มาติช ในขณะที่ เฟร็ด ยังไม่ยอมหายป่วยหน้าแข้ง ส่วนกองหน้าต้อนรับการกลับมาอีกครั้งของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ […]
ลอนดอน … สรวงสวรรค์หรือหนทางสู่นรก

คงต้องบอกว่านี่เป็นอีกครั้งที่ ลิเวอร์พูล ได้แสดงให้เห็นถึงความห่างชั้นและเหนือกว่าคู่ปรับอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยการเปิดบ้านไล่ถล่ม 4-0 แบบชนิดที่สู้ไม่ได้เลย มันคือการตอกย้ำว่านี่คือยุคของ เยอร์เกน คล็อปป์ และพลพรรค หงส์แดง (รวมไปถึง แมนเชสเตอร์ ซิตี้) ในการประกาศศักดาบนเวทีพรีเมียร์ลีก ส่วน ปิศาจแดง ก็คงเป็นได้แค่เพียงลูกไล่ที่นับวันยิ่งห่างไกลกับทีมหัวตาราง ความบอบช้ำ บาดแผล และร่องรอยของการโดนกระทำจากนัดที่ผ่านมาจะยังคงปรากฏและหลอกหลอนบรรดาแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อไป เพราะมันคือความพ่ายแพ้หลังจากที่เกมเริ่มได้แค่เพียง 5 นาทีเท่านั้น มันคือการปราชัยที่เกิดขึ้นหลังจากเริ่มเกมไปแค่ 5 นาที ซึ่งวินาทีที่ หลุยส์ ดีอาซ ได้ส่งบอลเข้าประตูไปทำให้ทุกอย่างดูเหมือนที่จะจบลงทันทีในเกมนั้น มันคือการเสียประตูจากการขึ้นเกมง่ายๆ ที่เล่นงานแนวรับ ผีแดง ไม่ต่างจากผู้ใหญ่รังแกเด็ก สีหน้าท่าทางกำลังใจที่เตรียมตัวกันหรือชัยชนะเหนือ นอริช ก็ได้มลายหายไปในพริบตา และยิ่งไปกว่านั้นมั่นยังเป็นการตอกย้ำกับการครองเกมเหนือกว่าชนิดที่โดนแซวว่านักเตะ ผีแดง ทั้งทีมยังสัมผัสบอลน้อยกว่า ติอาโก้ อัลกันตาร่า คนเดียวเสียอีก ถือเป็นการพ่ายแพ้ที่อาจจะเรียกได้ว่าอัปยศที่สุด แต่ความพ่ายแพ้นี้มันก็ไม่ได้เหนือความคาดหมายใดๆ เพราะต้องยอมรับว่าวินาทีนี้ ผีแดง ห่างชั้นจาก หงส์แดง […]
Reds Recap: 5 ประเด็นเด็ดพร้อมเกร็ดน่าสนใจ เกมเฉือนเรือ

เรียกได้ว่ามันส์ยิ่งกว่าแดงเดือดไปแล้วสำหรับการที่ต้องมาเจอกันระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลถ้วยไหน สนามไหนก็ตาม 1) โรเตชั่นจากเกมกลางสัปดาห์ทั้งสองทีม เกมเอฟเอคัพ รอบรองชนะเลิศเมื่อคืนที่ผ่านมานี้ ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งในเกมที่เรียกได้ว่าเป็น 45 นาทีที่ผลัดกันเป็นพระเอกกันคนละครึ่งเลยก็ว่าได้ ทางฝั่งแมนฯ ซิตี้ ได้ทำการโรเตชั่นทีมเพียบ เนื่องจากเพิ่งไปลุยศึกหนักในบอลยุโรปมาหมาด ๆ แถมในถ้วยใบนี้ส่วนใหญ่ เป๊ป ก็มักจะใช้ผู้เล่นชุดสองลงสนามอยู่แล้วเป็นปกติ ไล่มาตั้งแต่ผู้รักษาประตูที่เลือกใช้ทางด้าน แซค สเตฟเฟ่น นายทวารชาวอเมริกาที่ลงตัวจริงถ้วยนี้มาตลอด ส่วนแนวรับใช้ นาธาน อาเก้ เล่นเซนเตอร์คู่กับ จอห์น สโตนส์ แบ็คขวาใช้ ชูเอา กานเซโล่ ส่วนด้านซ้ายเป็น โอเล็กซานดร้า ชินเซนโก้ แดนกลางมี แฟร์นานดินโญ่, แบร์นาร์โด้ และ ฟิล โฟเด้น ส่วนแนวรุกเป็น กาเบรียล เฆซุส, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และ แจ็ค กรีลิช ส่วนทางด้าน เจอร์เก้น คล็อปป์ […]
รับมือกับสิ่งที่มองไม่เห็น

ความพ่ายแพ้ที่ กูดิสัน พาร์ค เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเท่ากับว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สะกดคำว่าชนะได้เพียงหนเดียวจาก 7 เกมหลังสุดที่ลงสนามทุกรายการ และนั้นก็ยังหมายถึงโอกาสไป แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้าแทบจะเป็นไปได้ไม่ได้อีกด้วย หากพิจารณาจากคะแนนที่เหลืออยู่กับเกมลงสนามอีก 7 นัดก็ยังพอคิดได้ว่ามีช่องทางหรือมุมให้พลิกสถานการณ์ แต่ถ้าหากว่าลองมองไปที่ผลงานแล้วมันก็แทบจะม้วนเสื่อรอลุ้นให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น ปัญหาหลักๆที่สำคัญของทีมในช่วงที่ผ่านมานั้นก็คือการจบสกอร์ที่แทบจะไม่สามารถที่จะได้ลุ้นและสร้างความอันตรายให้คู่แข่งได้เลย แม้จะสอยตาข่าย ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ได้ถึง 3 ประตูแต่มันมาจากความยอดเยี่ยมของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ปล่อยของออกมาในเกมนั้น ที่เหลือก็เป็นกันอย่างที่เห็นกันนั่นแหละ ถึงแม้ทางนักเตะผีแดงจะสามารถครองบอลหรือทำเกมได้ดีกว่าคู่แข่งในบางช่วงของเกม แต่สุดท้ายก็ต้องมาตกม้าตายในจังหวะสุดท้ายไม่สามารถหาช่องเข้าทำหรือสร้างโอกาสจะแจ้งเล่นงานฝั่งตรงข้ามได้แบบจังๆ ในนัดล่าสุดมันก็เป็นอีกหนึ่งหลักฐานชั้นดีที่แสดงให้เห็นแล้วว่าการจบสกอร์ได้กลายมาเป็นเรื่องที่เป็นจุดบอดและเล่นงานทีม ซึ่งมันส่งผลไปยังฟอร์มการเล่นรวมไปถึงผลการแข่งขันในช่วงที่ผ่านๆ มา ถึงแม้ว่าทีมจะสามารถครองเกมได้ดีกว่าแต่ไม่มีโอกาสหรือเมื่อมีแล้วก็ไม่เด็ดขาดพอมันก็แทบจะไม่มีค่าอะไร แต่ในทางกลับกันทางด้านคู่แข่งขอโอกาสไม่มากแต่ทำประตูได้มันจึงเป็นความแตกต่างอย่างชัดเจนในนัดล่าสุด แมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะออกนำในช่วงต้นเกมที่ กูดิสัน พาร์ค โดยทั้งสองจังหวะมาจาก มาร์คัส แรชฟอร์ด ซึ่งแน่นอนว่าต้องชม จอร์แดน พิคฟอร์ด ที่มาข่วยป้องกันได้ดี แต่ทางหัวหอกหมายเลข 10 ปิศาจแดง ก็ควรจะทำได้ดีกว่านี้โดยเฉพาะจังหวะโขกในนาทีที่ 12 รูปเกมดำเนินไปไม่ต่างจากนัดอื่นๆ ผีแดง ครองบอลเข้าทำพยายามหาช่องเล่นงาน […]
ช่วงพิสูจน์หัวใจปืนใหญ่

การพ่ายแพ้ในครั้งล่าสุดของ อาร์เซน่อล ที่เซลเฮิร์สต์ ปาร์ค มันได้ส่งผลไปถึงการลุ้นท็อปโฟร์ในช่วงที่เหลือของฤดูกาลมากทีเดียว อาร์เซน่อล แพ้เป็นนัดที่ 9 ของฤดูกาล และแพ้ในสกอร์ขาดลอยถึง 0-3 ไม่มีใครคาดคิดแน่นอนว่าจะเป็นไปได้ ทีมของ มิเกล อาร์เตต้า เรียกได้ว่าแพ้ทั้งสกอร์ที่เกิดขึ้นและรูปเกมในสนามที่เป็นทางฝั่งของ คริสตัล พาเลซ ที่วามารถทำได้ดีกว่าอย่างชัดเจน เหนือกว่าในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความมุ่งมั่น ทีมเวิร์ก ความขยันในการเล่น และ “หัวใจ” ที่ห้าวหาญมากกว่า ทำให้ทีมปืนใหญ่ยังไม่สามารถทวงอันดับ 4 กลับคืนมาจาก สเปอร์ส แถมประตูได้-เสียเป็นรอง จาก 54 คะแนนที่เท่ากันในเวลานี้ ในโปรแกรมที่เหลือ อาร์เซน่อล ยังถือว่าได้เปรียบคู่ปรับตลอดกาลเพราะแข่งน้อยกว่า 1 นัด แต่หากเรามองในรายละเอียดหลายอย่างก็คงต้องยอมรับเลยว่าโมเมนตัมตอนนี้เริ่มเหวี่ยงไปทางไก่เดือยทองบ้างแล้ว อาร์เซน่อล ได้เสียพื้นที่อันดับ 4 ให้กับ สเปอร์ส หลังจบนัดล่าสุด และประตูได้-เสียที่ปืนใหญ่เคยดีกว่า 2 ประตู กลับกลายเป็นทีม สเปอร์ส พลิกมาดีกว่า 5 ประตู ความเสียหายลำดับต่อมาคือ […]
เข้าใจ แฮร์รี่ แม็กไกวร์

หากจะพูดถึงชั่วโมงนี้นักเตะที่น่าจะอยู่ในความกดดันมากที่สุดคนหนึ่งก็คงจะหนีไม่พ้นของทางด้าน แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กัปตันทีมจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ใช่แค่กับทางสโมสรเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าการไปเล่นในนามทีมชาตินั้นก็อยู่ในสภาพที่ไม่แตกต่างกันมากนักหลังถูกแฟนบอลตัวเองโห่ใส่ในเกมอุ่นเครื่องกับ ไอวอรี่ โคสต์ ทั้งที่ทีมเก็บชัยชนะสวยงามด้วยสกอร์ 3-0 ดังนั้นมันไม่ใช่ผลงานในนามทีมชาติ แต่มันเป็นผลพวงที่ติดมาจากฟอร์มการเล่นกับ “ปีศาจแดง” ซึ่งบรรดาแฟนบอลที่ส่งเสียงโห่นั้นไม่รู้ว่าเป็นแฟนบอลยูไนเต็ดหรือเปล่า หรือแฟนบอลทีมอื่นที่ผสมโรงเข้ามาด้วย การโห่ใส่นักเตะของทีมเชียร์นั้นเป็นเรื่องปกติของแฟนบอลที่ไม่พอใจผลงานหรือพฤติกรรมของนักเตะคนนั้นๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่เลยแต่อย่างใด และในสิ่งที่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กำลังพบเจออยู่ในตอนนี้นั้นก็ยังไม่ได้ครึ่งหนึ่งของที่ เดวิด เบ็คแฮม ต้องเจอย้อนกลับไปเมื่อปี 1998 เมื่อเจ้าตัวถูกวางเป็น “แพะ” ของการตกรอบฟุตบอลโลกในปีนั้นจากการโดนไล่ออกในเกมกับ อาร์เจนติน่า ดังนั้นถือว่ามันน่าสนใจทีเดียวว่าแนวรับจากรั้วโอลด์ แทรฟฟอร์ดจะรับมือกับช่วงเวลาแห่งความกดดันแบบนี้ได้ยังไง ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้จัดการทีมด้วยนั่นแหละ อันที่จริงถ้าหากเรามามองจากสถิติตัวเลขในเกมรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด นับตั้งแต่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ย้ายมาร่วมทีมก็คงต้องบอกว่าเขาเข้ามาทำให้เกมรับของทีมดีขึ้นอย่างชัดเจน ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2018/19 ก่อนที่ทาง แม็กไกวร์ จะย้ายมาร่วมทีม “ปีศาจแดง” เสียไปที้งหมด 54 ประตู ซึ่งในปีแรกที่เจ้าตัวมาร่วมทีมในฤดูกาลถัดมา ทีมเสียประตูน้อยลงเหลือเพียงแค่ 36 ประตูเท่านั้นและพร้อมคว้าอันดับ 3 […]
เกิดอะไรขึ้นกับ แรชฟอร์ด

กองหน้าดาวเตะทีมชาติอังกฤษไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดมาเกือบปีแล้วและช่วงชีวิตของเขาในยุคของ ราล์ฟ รังนิก ก็คงเรียกได้ว่าแย่ที่สุดในสีเสื้อของ แมนฯ ยูไนเต็ด เลยก็ว่าได้ คงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเลยที่มีรายงานเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนว่า มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้มีการพิจารณาอนาคตของเขาในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อย่างจริงจัง รังนิก เองก็ชัดเจนว่าตัวเขานั้นไม่ได้ตะบี้ตะบันที่จะหนุนหลังกองหน้าทีมชาติอังกฤษนับตั้งแต่ที่เขามายังถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในเดือนพฤศจิกายน และดูเหมือนว่าในความสัมพันธ์ของพวกาเขาทั้งสองมาถึงจุดที่ตกต่ำสุดในเกมแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ เมื่อ แรชฟอร์ด ได้ถูกเลือกให้ไปอยู่บนม้านั่งสำรองทั้งที่นักเตะอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ เอดินสัน คาวานี่ ได้รับบาดเจ็บลงสนามไม่ได้ แม้ แรชฟอร์ด จะได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้งในนัดถัดมากับ สเปอร์ส แต่ตัวเขาก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน โดยสัมผัสบอลเพียง 30 ครั้ง ก่อนที่ตัวเขาจะโดนเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 67 แบบที่เจ้าตัวไม่มีโอกาสยิงแม้แต่ครั้งเดียว ไม่มีการเลี้ยงบอลผ่าน และไม่มีการจ่ายบอลสำคัญเลย แรชฟอร์ด อยู่ในฟอร์มที่ย่ำแย่มาเกือบปีแล้ว จุดขายต่างๆ ของเขาที่เป็นเครื่องหมายการค้า ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนที่อันเด็ดขาด และสัญชาตญาณในแดนสาม สิ่งเหล่านี้ได้หายไปพร้อมกับความมั่นใจที่ตกต่ำลงของตัวเขา ตอนนี้เขาดูเป็นผู้เล่นที่เรียกได้ว่าไม่มีทีเด็ดอะไรเลย เล่นบอลก็แสนจะธรรมดามาก หรือในบางครั้งก็ดูจะพยายามมากเกินไปที่จะโชว์อะไรบางอย่างให้ผู้จัดการทีมของเขาได้เห็น ความสับสนเกี่ยวกับบทบาทจาก รังนิก ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ได้ช่วยอะไร แรชฟอร์ด เลย […]
เจ้าของคนต่อไป

ทันทีที่ได้มีการติดป้ายประกาศขายสโมสร เชลซี ก็คงต้องบอกว่าเหล่าบรรดาอภิมหาเศรษฐีทั้งหลายทั้วโลกต่างจับจ้องกันตาเป็นมัน ถึงแม้ว่าจะมีราคาที่ถูกตั้งเอาไว้สูงถึง 3 พันล้านปอนด์ ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็นมูลค่าที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล แต่ต้องบอกว่าสิ่งนั่นอาจจะไม่ใช่ปัญหาเลย เรียกได้ว่าตอนนี้เข้าคิวกันยื่นข้อเสนอเพียบไปหมด ถ้าเป็นลูกสาวก็ต้องบอกว่า “หัวกระไดไม่แห้ง” กันแบบนั้นเลย และบุคคลต่อไปนี้คือเหล่าบรรดาคนที่มีชื่อพัวพันการเทคโอเวอร์สโมสรที่ต้องบอกว่าแต่ละคนดีกรีไม่ธรรมดาทีเดียว นิค แคนดี้ หากจะบอกว่าคนที่มาแรงที่สุดในเวลานี้และเป็นแฟนตัวยงของ เชลซี ที่มีรายงานว่ายื่นข้อเสนอ 2.5 พันล้านปอนด์ให้กับทาง โรมัน อบราโมวิช พิจารณาแล้ว แต่เพียงเท่านั้นไม่พอยังตัวเขานั้นยังมีนโยบายทุ่มเงินอีก 1.5 พันล้านปอนด์ในการปรับปรุงสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์อีกด้วย นอกจากนี้ นิค แคนดี้ ยังได้รับการสนับสนุนจาก จานลูก้า วิอัลลี่ อดีตผู้เล่นและผู้จัดการทีมของ “สิงห์บลูส์” ด้วย เรียกได้ว่าเขาคนนี้เป็นหนึ่งในตัวเต็งลำดับต้นๆที่คาดหมายว่าจะสามารถที่บรรลุข้อตกลงในการเทคโอเวอร์สโมสรกันเลยทีเดียว เอเธล พาร์ทเนอร์ บริษัทหลักทรัพย์ในลอนดอนที่เปิดตัวเข้ามาล่าสุดในการยื่นข้อเสนอขอซื่อ เชลซี นำโดย ริคาร์โด้ ซิลวา ผู้นำกิจการชาวโปรตุเกสเพื่อเก่าของ อาบา ชูเบิร์ต ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Dorae ยังมีรายงานเผยว่าทาง ซิลวา มีความพร้อมที่จะยื่นข้อเสนอ 2 พันล้านปอนด์สำหรับการซื้อสโมสร และมีแผนที่จะพัฒนาสแตมฟอร์ด […]